top of page
ค้นหา
รูปภาพนักเขียนniracha payyakul

กันแดด ที่มีประสิทธิภาพ ในการป้องกันรังสียูวี

กันแดด ที่มีประสิทธิภาพ ในการป้องกันรังสียูวี

แสงแดดเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดที่ทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควร เป็นสิ่งที่เราควรหลีกเลี่ยงและควรป้องกันเป็นอย่างยิ่ง กันแดด ที่มีประสิทธิภาพ ในการป้องกันทั้งรังสีอัลตราไวโอเลตในแสงแดดถือเป็นศัตรูตัวฉกาจที่กระตุ้นให้ผิวสร้างอนุมูลอิสระ และทำลายอีลาสตินกับคอลลาเจนในผิวหนังให้เสื่อมสภาพเร็วขึ้น ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในชื่อ รังสี UVA จะส่งผลโดยตรงกับคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวหย่อนคล้อย ไม่ตึงกระชับ และริ้วรอยก่อนวัย ส่วนรังสี UVB จะส่งผลในเรื่องของการผลิตเม็ดสีผิว หรือเมลานิน ทำให้ผิวหมองคล้ำ จุดด่างดำ ผิวไหม้เกรียม (Sunburn) หรือ ถ้าในระยะยาวอาจลุกลามจนกลายเป็นมะเร็งผิวหนังได้



เมืองไทยเป็นเมืองร้อนและมีแดดจัดมาจึงเป็นเรื่องยากที่จะหลีกเลี่ยงแสงแดด และรังสีในอัลตราไวโอเลตในแสงแดดนั่นเองที่ถือเป็นศัตรูตัวฉกาจที่กระตุ้นให้ผิวสร้างอนุมูลอิสระ และทำลายอีลาสตินกับคอลลาเจนในผิวหนังให้เสื่อมสภาพเร็วขึ้นความตื้นลึกของริ้วรอย ขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่ผิวหน้าของเราสัมผัสแสงแดด ส่วนใหญ่ริ้วรอย จากแสงแดดจะปรากฏให้เห็นในคนที่มีอายุไม่ถึง 30 ปี หรือวัยรุ่นที่มีกิจกรรมต้องออกแดดเป็นประจำ ซึ่งนอกจากจะเกิดริ้วรอยแล้วยังจะได้ฝ้า กระ จุดด่างดำ ติดหน้ากันมาด้วย หากไม่ได้รับการดูแลที่ดี คอลลาเจนใต้ผิวก็จะถูกแสงแดดทำลายไปเรื่อยๆ ริ้วรอยก็จะยิ่งลึกขึ้นทุกวันๆ วิธีการป้องกันที่ดีที่สุดคือ การหลีกเลี่ยงการถูกแสงแดดช่วง 10.00 น. – 18.00 น. และควรทา ครีมกันแดด ทุกครั้งที่ออกจากบ้านเพื่อป้องกันรังสียูวี

ครีมกันแดดสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภท

ได้แก่ สารกันแดดแบบเคมี และสารกันแดดแบบกายภาพ ดังนี้

  • สารกันแดดแบบเคมี (Chemical Absorbers) ครีมกันแดดประเภทนี้จะปกป้องผิวจากแสงแดด โดยใช้สารเคมีที่มีคุณสมบัติดูดซับแสงแดดที่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาทางเคมีบนผิวหนัง สารกันแดดชนิดนี้มีประสิทธิภาพต่างกันไปตามชนิดของสารกรองแสงที่ช่วยป้องกันรังสียูวีเอ (Ultraviolet A) และรังสียูวีบี (Ultraviolet B) ทั้งนี้ สารกันแดดแบบเคมีมักไม่คงทน รวมทั้งก่อให้เกิดการระคายเคืองผิวได้

  • สารกันแดดแบบกายภาพ (Physical Blockers) ครีมกันแดดที่ผสมสารกันแดดแบบกายภาพ จะปกป้องผิวจากแสงแดด โดยใช้สารเคมีที่มีคุณสมบัติสะท้อนรังสีจากแสงแดดออกไป สารกันแดดชนิดนี้ป้องกันได้ทั้งรังสียูวีเอและรังสียูวีบี ไม่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาเคมีกับผิวหนัง อย่างไรก็ตาม สารกันแดดแบบกายภาพจะมีเนื้อครีมที่ข้นและเหนียวเหนอะหนะ



เคล็ดลับ วิธีทาครีมกันแดดให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด

1.ทาครีมกันแดด - ก่อนออกแดดประมาณ 20 นาที ครีมกันแดดส่วนใหญ่มีผลในการปกป้องแสงแดดได้ก็ต่อเมื่อทาลงไปบนผิวนานมากกว่า 20 นาทีแล้วเท่านั้น หากออกแดดทันทีหลังจากทาครีมกันแดดเสร็จผิวอาจไหม้แดดได้โดยไม่รู้ตัว 2.ปริมาณครีมกันแดดให้เหมาะสม - บนใบหน้า ใช้ปริมาณเท่าเหรียญ 10 สำหรับทาใบหน้าและลำคอ - บนลำตัว ใช้ปริมาณเท่ากับ 1 แก้วชอต หรือ 30 ออนซ์ ทางแผ่นหลัง แขน ขา 3.ทาครีมกันแดดทุก 2 ชั่วโมง - ครีมกันแดดนั้นมี SPF หรือค่า PA ที่สูงมากเพียงใด แต่เมื่อเผชิญมลภาวะทั้งฝุ่น ควัน น้ำหรือเหงื่อ ประสิทธิภาพของครีมกันแดดนั้นจะลดลงในทันที

วิธีการเลือกครีมกันแดดนั้นควรเลือกครีมกันแดดที่สามารถกันได้ทั้ง UVA ที่ทำให้เกิดริ้วรอย และ UVB ที่เป็นตัวการทำให้ผิวคล้ำ SPF ที่เราเห็นเขียนข้างผลิตภัณฑ์บ่อยๆ ก็ต้องเลือกให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ด้วยเหมือนกัน โดย SPF หรือ Sun Protection Filter เป็นค่าบ่งบอกการป้องกันรังสี UVB แต่ละตัวก็จะมีค่าต่างกันออกไป สำหรับใครเน้นใช้ชีวิตอยู่ในร่มแนะนำให้ใช้ที่ 15 – 30 ก็พอ ส่วนใครที่คิดว่าวันนี้ต้องเจอศึกหนักกลางสมรภูมิโล่งแจ้ง แนะนำให้ใช้ที่ 30 – 50 ได้เลย


เริ่มจากการเลือกครีมกันแดดให้เหมาะกับสภาพผิวหน้าของเราก่อน

ในการเลือกครีมกันแดควรเลือกครีมกันแดดที่สามารถป้องกันได้ทั้งรังสี UVA และ UVB เพราะครีมกันแดดบางชนิดมีคุณสมบัติในการป้องกันเฉพาะรังสี UVB เท่านั้น ทำให้ผิวของเราไม่ได้รับการปกป้องอย่างเต็มที่

1. ผิวมัน : เหมาะกับครีมกันแดดที่เนื้อบางเบา เป็นเนื้อน้ำที่ซึมเข้าผิวง่าย ไม่อุดตัน

2. ผิวแห้ง : ควรเลือกครีมกันแดดที่เป็นเนื้อครีม จะทำให้หน้าไม่แห้งตึงและเป็นขุย

3. ผิวแพ้ง่าย : เหมาะกับครีมกันแดดที่เป็นเนื้อบางเบา เป็นเนื้อเซรั่มหรือสเปรย์ เลือกค่า SPF สูงๆ เพราะผิวที่บอบบางมากจะมีปฏิกิริยาไวต่อแสงแดดมากกว่าผิวชนิดอื่น


ประเภทตามบริเวณที่ใช้ทา

ครีมกันแดดมีให้เลือกใช้หลากหลายรูปแบบตามความต้องการ ซึ่งอาจแบ่งประเภทตามบริเวณที่ใช้ทาครีมกันแดด โดยทั่วไปแล้ว ครีมกันแดดจะมีทั้งแบบโลชั่น ครีม เจล ขี้ผึ้ง สเปรย์ หรือผสมอยู่ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางอื่น ๆ ซึ่งมีประโยชน์ใช้สอยและเหมาะกับการใช้ทาเพื่อปกป้องแสงแดดตามบริเวณต่าง ๆ ของร่างกาย ดังนี้

-แบบครีม เหมาะใช้ทาบริเวณใบหน้าและผู้ที่มีผิวแห้ง

-แบบเจล เหมาะสำหรับทาบริเวณที่มีขน เช่น หนังศีรษะหรือหน้าอกของผู้ชาย

-แบบแท่ง ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางแบบแท่ง อาจผสมสารกันแดดร่วมด้วย ซึ่งเหมาะใช้ทาบริเวณที่อยู่รอบดวงตา

-แบบสเปรย์ สารกันแดดในรูปแบบสเปรย์อาจนำมาใช้ทากันแดดให้แก่เด็ก เนื่องจากทาได้ง่าย โดยควรทาสารกันแดดเพื่อปกป้องผิวในปริมาณที่เพียงพอ และไม่ควรสูดดมหรือฉีดสเปรย์ใกล้วัตถุไวไฟหรือขณะที่สูบบุหรี่



วิธีทาครีมกันแดดที่ถูกต้อง วิธีครีมทากันแดดบนใบหน้าและลำตัวที่ถูกต้องนั้นจำเป็นต้องทาในปริมาณที่เหมาะสม ตามที่ระบุไว้บนผลิตภัณฑ์ โดยส่วนมากจะระบุให้ทาในประมาณ 1 กรัม ไม่ควรทาครีมกันแดดมากจนเกินไปเพราะอาจทำให้รู้สึกเหนียวเหนอะหนะเนื่องจากส่วนเกินของครีมไม่ซึมผิว โดยทาทิ้งไว้ประมาณ 15 – 30 นาทีก่อนเผชิญแสงแดด เพื่อให้เนื้อครีมซึมลงสู่ชั้นผิวและเป็นเกราะป้องกันผิวจากแสงแดดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควรทาครีมกันแดดหลายๆครั้งในรอบวัน รวมถึงการทาซ้ำหลังว่ายน้ำหรือเมื่อมีเหงื่อออกมาก

การเผชิญแสงแดดนับเป็นปัจจัยหลักที่กระตุ้นให้เกิดฝ้า กระ ริ้วรอยก่อนวัยอันควร เพราะแสงแดดจะทำลายคอลลาเจนและเส้นใยยืดหยุ่นในชั้นเนื้อเยื่อเกี่ยวพันใต้ผิวหนัง ส่งผลให้การเชื่อมต่อของเนื้อเยื่อส่วนต่าง ๆ อ่อนแอและขาดความยืดหยุ่น จนนำไปสู่การเกิดร่องลึกหรือริ้วรอยเหี่ยวย่นในที่สุด


ทำไมผิวหน้าเราถึงหมองคล้ำแก้ยังไงก็ไม่หาย

  • สภาวะแวดล้อม และวิถีชีวิต สภาวะแวดล้อม และวิถีชีวิตก็มีส่วนในการเกิดริ้วรอยด้วยเช่นกันคะ แพทย์ผิวหนังจึงแนะนำวิธีดูคุณภาพผิวที่แท้จริงด้วยการเปรียบเทียบระหว่างผิวที่ใบหน้ากับผิวที่ก้น ถ้าผิวที่หน้ามีริ้วรอยมากมาย ในขณะที่ผิวก้นยังเต่งตึงอยู่ แสดงว่าพื้นฐานผิวดี แต่ปัจจัยภาพนอกเป็นตัวการทำลายคอลลาเจน และก่อให้เกิดริ้วรอย เช่น การแสดงอารมณ์ทางสีหน้า การรับประทานอาหารที่ไม่เป็นประโยชน์ แสงแดด สูบบุหรี่ ความเครียด การที่น้ำหนักขึ้นๆ ลงๆ เป็นต้น

  • แสงแดดเป็นปัจจัยภายนอกตัวสำคัญที่ทำให้เกิดริ้วรอยได้สูงค่ะ เพราะแสงยูวีจากแสงแดดสามารถทะลุผ่านเข้าไปยังผิวหนัง และทำลายคอลลาเจนและอีลาสตินที่มีส่วนช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่นได้ หากเราไม่ป้องกันผิวเลย ก็อาจทำให้ผิวเราถูกแสงแดดทำร้ายไปเต็มๆ ริ้วรอยถามหาเร็ว และอาจเสี่ยงเป็นมะเร็งผิวหนังได้ ดังนั้น ถ้าไม่อยากมีริ้วรอย การทาครีมกันแดดก็เป็นวิธีป้องกันที่มีประสิทธิภาพอย่างหนึ่งค่ะ

  • ปัญหาสิว จริงๆ แล้วอากาศร้อนไม่ใช่สาเหตุโดยตรงที่ทำให้ผิวหน้าเราเกิดสิว แต่อากาศร้อนทำให้ผิวหน้าเรามันได้ง่าย และส่งผลให้รูขุมขนของเราเกิดการอุดตัน เป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวเราสามารถเกิดสิวได้ต่อไป อีกทั้งแดดร้อนๆ ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้สิวเกิดการอักเสบได้อีกด้วย ดูแลผิวหน้าไม่ให้มีความมันมากเกินไป อาจจะใช้กระดาษซับหน้ามัน หรือถ้ารู้สึกว่าหน้ามันเกิน ก็สามารถล้างหน้าระหว่างวันได้ ต้องใช้เจลล้างหน้าที่ไม่เกิดการระคายเคือง และดูแลความสะอาดของใบหน้าไปในตัวด้วย เช่น อย่าใช้มือสกปรกจับหน้า หรือใช้ผ้าเช็ดหน้าที่ยังไม่ได้ซักหลายวัน เพราะสิ่งสกปรกก็เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดสิวได้นอกจากความมันบนใบหน้าเช่นกัน



ครีมกันแดดมีส่วนผสมอยู่หลายชนิดที่มีคุณสมบัติในการต้านรังสีอัลตราไวโอเลตนั่นก็คือ UVA ที่เป็นตัวการทำให้ผิวแห้งกร้านและเกิดริ้วรอย และ UVB ซึ่งเป็นตัวการก่อให้เกิดจุดด่างดำ ฝ้า กระ เป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวไหม้แดด ส่วนผสมในครีมกันแดดจะเป็นตัวดูดซึมรังสียูวีและปกป้องผิวไม่ให้สัมผัสกับรังสียูวีโดยตรง ในการเลือกซื้อครีมกันแดดคุณควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่สามารถป้องกันได้ทั้งรังสี UVA และ UVB เพราะครีมกันแดดบางชนิดมีคุณสมบัติในการป้องกันเฉพาะรังสี UVB ทำให้ผิวของคุณไม่ได้รับการปกป้องอย่างเต็มที่ คุณจึงควรใส่ใจในการเลือกผลิตภัณฑ์กันแดดที่มีประสิทภาพมากที่สุด


โดยปกติผิวหน้าจะกระชับเต่งตึงได้ บำรุงผิว อ่อนวัย เพราะสารคอลลาเจนที่อยู่ใต้ผิว เมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายผลิตคอลลาเจนได้น้อยลง หรือความสมบูรณ์ของคอลลาเจนเสื่อมลง ริ้วรอยย่อมเกิดขึ้น ซึ่งในแต่ละคน แต่ละเชื้อชาติล้วนมีคอลลาเจนแตกต่างกัน สำหรับชาวเอเซียอย่างเรา คอลลาเจนไม่แข็งแรงเท่ากับกลุ่มคนผิวสี แต่ดีกว่าฝรั่งเยอะ เปรียบเทียบคนเอเซียกับชาวตะวันตกที่อายุเท่ากันจะเห็นว่าคนไทยสาว ใส ดูดีกว่ามาก


 

อ่านเพิ่มเติม ได้ที่ กันแดด ที่มีประสิทธิภาพ

ติดตามอ่านบทความดีๆ ได้ที่beautymustknow.com

กันแดด กันดะ มีวางจำหน่ายแล้วทั่วประเทศ สอบถามข้อมูลและเลือกซื้อสินค้าเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : https://www.facebook.com/pg/kandabeauty.company/ website : Kandabeauty.com

ดู 8 ครั้ง0 ความคิดเห็น

Commentaires


bottom of page