top of page
ค้นหา
รูปภาพนักเขียนniracha payyakul

กันแดด ป้องกัน กระ ฝ้า จุดด่างดำ ริ้วรอยและมะเร็งผิวหนัง

กันแดด ป้องกัน กระ ฝ้า จุดด่างดำ ริ้วรอยและมะเร็งผิวหนัง

ออกแดดครู่เดียวก็เกิดอาการแสบร้อนผิว กันแดด ป้องกัน รังสียูวีและเกิดปัญหาผิว กระ ฝ้า จุดด่างดำ ริ้วรอย หรือออกอาการเหมือนจะเป็นลม ช่วงเวลาที่สาธารณสุขแจ้งว่าควรหลบเลี่ยงแดดเพื่อลดความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็งผิวหนัง



ปัญหาหน้าหมองคล้ำหนักมาก เป็นคนที่ผิวหน้าคล้ำกว่าผิวส่วนอื่นๆบนร่างกาย ทั้งๆที่พยายามใช้ สเปรย์กันแดด หรือครีมกันแดดก็เลือกที่ไม่มีแอลกอฮอล์ ไม่ผสมน้ำหอมกับพาราเบน แล้วก็ใช้มอยเจอไรเซอร์ที่ช่วยให้ผิวหน้าชุ่มชื่นเพราะเป็นคนผิวหน้ามันแต่ขาดน้ำ มีครีมรือผลิตภัณฑ์ที่ช่วยให้ผิวหน้ากระจ่างใสขึ้น สำหรับผิวแพ้ง่ายเป็นสิวง่าย

ปัญหาผิวจากแสงแดดที่พบมาก

  • กระ จุดเล็กๆ สีน้ำตาลอ่อน มีทั้งกระธรรมดา และกระแดด

  • จุดด่างดำ ภาวะสีผิวเข้มขึ้น จากการที่ร่างกายผลิตเม็ดสีเมลานินมากเกินไปในบางตำแหน่งของผิว

  • ฝ้า ปัญหาผิวที่กวนใจผิววัย 30+ มากที่สุด ลักษณะสีน้ำตาลเข้มกว่าสีผิว ฝ้าตื้นจะอยู่ที่ชั้นผิวหนังกำพร้า และฝ้าลึกจะอยู่ในชั้นผิวหนังแท้ มีสีเข้มกว่า


วิธีเลือกซื้อและใช้ครีมกันแดดอย่างถูกต้อง

ครีมกันแดดคือผลิตภัณฑ์ที่ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด ผู้ใช้ควรเลือกซื้อและใช้ครีมกันแดดอย่างถูกวิธี เพื่อให้ได้ครีมกันแดดที่สามารถป้องกันรังสีจากแสงแดดได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยวิธีเลือกซื้อและใช้ครีมกันแดดที่ถูกต้อง มีรายละเอียด ดังนี้

  • วิธีเลือกซื้อครีมกันแดด การเลือกซื้อครีมกันแดดหรือผลิตภัณฑ์ที่ป้องกันแสงแดดอย่างถูกต้อง เลือกครีมกันแดดที่ปกป้องผิวได้อย่างครอบคลุม (Broad-Spectrum) ซึ่งจะช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวีเอและรังสียูวีบี เนื่องจากครีมกันแดดทุกตัวจะช่วยป้องกันรังสียูวีบี ซึ่งเป็นรังสีที่ทำให้ผิวไหม้และเป็นมะเร็งผิวหนัง ครีมกันแดดหรือผลิตภัณฑ์ป้องกันแดดอื่น ๆ ที่ป้องกันทั้งรังสียูวีเอและยูวีบีจะได้รับการระบุบนฉลากผลิตภัณฑ์ว่า Broad-Spectrum ส่วนครีมกันแดดหรือผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดที่ไม่ได้รับการระบุดังกล่าวจะป้องกันผิวไหม้ แต่ไม่ครอบคลุมการป้องกันมะเร็งผิวหนังและผิวแก่ก่อนวัย

  • ควรเลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 หรือมากกว่านั้น โดยค่า SPFจะช่วยบอกระดับการป้องกันผิวจากรังสียูวีบี ครีมกันแดดที่มีค่าดังกล่าวสูงก็จะปกป้องผิวจากแสงแดดได้มาก โดยครีมกันแดดที่มีค่า SPF 15 จะกรองรังสียูวีบีได้ร้อยละ 93 ครีมกันแดดที่มีค่า 30 จะกรองได้ร้อยละ 97 และครีมกันแดดที่มีค่า SPF 50 กรองได้ร้อยละ 98 ส่วนครีมกันแดดที่มีค่า SPFต่ำกว่า 15 สามารถป้องกันผิวไหม้ได้ แต่ไม่ป้องกันมะเร็งผิวหนังหรือผิวแก่กว่าวัย

  • เลือกครีมกันแดดที่กันน้ำได้ (Water Resistant) โดยครีมกันแดดชนิดนี้จะช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดระหว่างที่ว่ายน้ำหรือเหงื่อออกได้นานประมาณ 40-80 นาที ผู้ใช้ควรทาครีมกันแดดซ้ำอย่างน้อยทุก 2 ชั่วโมง หรือมากกว่านั้น

รังสีอัลตราไวโอเลต แบ่งออกเป็น 3 ชนิด

รังสีอัลตราไวโอเลตคือพลังงานรูปแบบหนึ่งซึ่งมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า เดินทางผ่านตัวกลางในรูปของคลื่น โดยมีความยาวคลื่นอยู่ระหว่าง 40-400 นาโนเมตร มีแหล่งกำเนิดหลักมาจากแสงอาทิตย์ หรืออาจเกิดจากอุปกรณ์ที่ปล่อยรังสียูวีออกมา เช่น หลอดแบล็คไลท์ (Black Lights) เครื่องทำผิวแทน (Tanning Booth) รวมถึงหลอดไฟชนิดต่าง ๆ รังสียูวีแบ่งออกเป็น 3 ชนิดหลัก ๆ ตามความยาวคลื่นที่ต่างกัน คือ รังสียูวีเอ (UVA) รังสียูวีบี (UVB) และรังสียูวีซี (UVC)

  • รังสียูวีเอ (UVA) มีความยาวคลื่นอยู่ในช่วง 320-400 นาโนเมตร และไม่ถูกดูดซับจากชั้นบรรยากาศที่ห่อหุ้มโลก คนเราจึงได้รับรังสีชนิดนี้มากกว่าชนิดอื่น ๆ UVA แสงที่ไม่ถูกดูดซับที่ชั้นบรรยากาศของโลก ทำให้เราได้รับรังสี UVA มากที่สุด เกิดปัญหาผิวแห้งกร้าน และริ้วรอย ฝ้า กระ

  • รังสียูวีบี (UVB) มีความยาวคลื่นอยู่ในช่วง 290-320 นาโนเมตร ชั้นบรรยากาศที่ห่อหุ้มโลกดูดซับรังสีชนิดนี้ไม่ได้ทั้งหมด ทำให้มีบางส่วนตกลงมายังพื้นโลก UVB แสงที่ถูกดูดซับบางส่วนจากชั้นบรรยากาศโลก และมีบางส่วนที่ส่องมายังพื้นโลก ก่อให้เกิดปัญหาผิวไหม้แดด

  • รังสียูวีซี (UVC) มีความยาวคลื่นอยู่ในช่วง 220-290 นาโนเมตร ชั้นบรรยากาศโลกสามารถดูดซับรังสียูวีซีจากธรรมชาติไว้ได้ทั้งหมด รังสีชนิดนี้จึงไม่ตกลงมายังพื้นโลก UVC แสงที่ถูกดูดซับจากชั้นบรรยากาศไว้ทั้งหมด ไม่สามารถส่องมายังโลกได้


รู้ไหมว่าแสงแดดอันตรายมากน้อยแค่ไหน ?

แสงแดดที่เราเห็นทุกวันนั้นก็คือรังสัลตราไวโอเลต (ultraviolet) เรียกสั้นๆว่า รังสียูวี (UV) นั่นเอง เมื่อแสงแดดจัดๆ จะสามารถทำลายผิวของเราได้ ทำให้คอลลาเจนของเราเสื่อมสภาพเร็วขึ้น เมื่อผิวโดนแสงแดดเป็นเวลานาน หรือว่าโดน ฝุ่น ควัน มลพิษ แล้วเกิดการตกค้างอยู่บนผิว จะทำให้เซลล์รอบๆ ตัวเรานั้นถูกทำลายได้ และก่อให้เกิดโรคมะเร็งผิวหนังได้ ถึงแม้ว่าโอกาสจะน้อย แต่ก็ถือว่ามีความเสี่ยงเช่นกัน

รังสียูวีมีหลายชนิด

รังสียูวีเอ (UVA) มีลักษณะของรังสีที่เป็นคลื่นแบบยาวกว่ารังสีอื่น ที่จะสามารถทะลุเข้าไปถึงชั้นผิวหนังกำพร้า และชั้นผิวหนังแท้เลย เมื่อเราโดนรังสีนี้เข้าไปมากๆ อาจจะทำให้ความยืดหยุ่นของเซลล์เราพัง เกิดผิวหนังเหี่ยวย่นผิวไหม้ ผิวสีเข้มมากขึ้น ผิวดูดำหมองคล้ำไม่สดใส เกิดริ้วร้อย

รังสียูวีบี (UVB) มีลักษณะของรังสีที่ยาวรองลงมาจากรังสี UVA จะลงมาไม่ค่อยถึงข้างล่างผิวโลก หรือถึงน้อยนิด 0.1 ของแสงทั้งหมดเลยก็ว่าได้ เพราะถูกชั้นบรรยากาศกั้นเอาไว้ รังสี UVB นี้สามารถทำให้ผิวหนังแห้งกร้าน ขาดความชุ่มชื้น ไหม้ เมื่อโดนแดดจัดๆ ก็จะมีอาการแสบร้อน ผิวแดง

รังสียูวีซี (UVC) มีลักษณะของคลื่นรังสีที่สั้นที่สุด รังสีนี้ไม่สามารถทะลุมาถึงยังผิวโลกได้ เนื่องจากถูกกรองตั้งแต่บนอากาศชั้นโอโซนเป็นที่เรียบร้อย เป็นสาเหตุที่ทำให้รังสีนี้ลงมาไม่ถึงโลกนั่นเอง แต่ด้วยสถานะการณ์ปัจจุบันของโลกนั้น พบว่ารังสี UVC สามารถทะลุมาจนถึงผิวโลกได้ เนื่องจากสภาพมลพิษที่มนุษย์ได้เป็นคนก่อขึ้น จึงทำให้มลพิษทั้งหลายไปทำลายบรรยากาศซั้นโอโซน ทำให้บรรยากาศชั้นโอโซนมีความบางลง

ด้วยรังสีทั้งหมดจะเห็นได้ว่า มีอยู่ 2 รังสีที่สามารถทำลายผิวของเราได้ นั่นก็คือรังสี UVA และ รังสี UVB ทำให้ผิวเข้มขึ้น ไหม้ แดง แห้งกร้าน และมีรอยเหี่ยวย่นนั่นเอง อีกทั้งยังเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งผิวหนังได้อีกด้วย รังสีทั้ง 2 จะมีความเข้มข้นมาที่สุดในประเทศของเราในช่วงเวลา 10.00-15.00 น. ฉะนั้น ถ้าเราสามารถหลีกเลี่ยงมันไปได้ก็เป็นสิ่งที่ดีต่อเรา แต่ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ จำเป็นต้องได้เจอกับรังสีเหล่านี้

วิธีใช้ครีมกันแดด การใช้ครีมกันแดดอย่างถูกต้องจะช่วยปกป้องผิวจากรังสีของแสงแดดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งทำได้ ดังนี้

  • ควรทาครีมกันแดดก่อนออกแดดประมาณ 15-30 นาทu

  • ควรลงครีมกันแดดก่อนแต่งหน้า โดยใช้ครีมกันแดดในปริมาณ 1 ออนซ์ หรือ 2 ช้อนโต๊ะ ทาให้ทั่วตัว ควรทาให้เนื้อครีมซึมซาบสู่ผิวทั้งหมด

  • ควรทาครีมกันแดดที่หู เท้า ด้านหลังขา หรือบริเวณที่อาจลืมทาได้ง่าย

  • ควรทาลิปบาล์มที่มีค่าป้องกันแสงแดด 30 เพื่อปกป้องริมฝีปากจากรังสียูวี

  • ควรทาครีมกันแดดชนิดกันน้ำทุกครั้งก่อนว่ายน้ำ และควรทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมง หรือหลังจากว่ายน้ำหรือมีเหงื่อออก

  • ไม่ใช้ครีมกันแดดที่หมดอายุ เนื่องจากครีมกันแดดจะเสื่อมประสิทธิภาพ รวมทั้งไม่ใช้ครีมกันแดดที่ซื้อทิ้งไว้ 3 ปีหรือนานกว่านั้น

  • ไม่ควรทาครีมกันแดดให้แก่เด็กที่อายุต่ำกว่า 6 เดือน โดยดูแลเด็กไม่ให้โดนแสงแดดมากเกินไปและสวมเสื้อผ้าที่ปกป้องผิวของเด็กจากแสงแดดได้

ข้อดีและข้อเสียของครีมกันแดด

การใช้ครีมกันแดดหรือผลิตภัณฑ์ปกป้องผิวจากแสงแดดมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้

ข้อดีของครีมกันแดด ครีมกันแดดช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวีเอและรังสียูวีบี ผู้ใช้ครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอจะได้รับประโยชน์ดังกล่าว ซึ่งช่วย:

  • ป้องกันความเสี่ยงเป็นมะเร็งผิวหนังได้ง่าย

  • ปกป้องผิวไม่ให้ถูกแสงแดดเผาหรือทำลาย

  • ช่วยไม่ให้ผิวแก่ก่อนวัย ส่งผลให้ไม่เกิดจุดด่างดำหรือฝ้าบนใบหน้าและผิวหนังส่วนอื่o

ข้อเสียของครีมกันแดด ผู้ใช้ครีมกันแดดอาจได้รับผลข้างเคียงจากการใช้ครีม ดังนี้

  • ลดการผลิตวิตามินของผิวหนัง ผู้ใช้ครีมกันแดดอาจรับประทานอาหารที่มีวิตามินดีหรือวิตามินเสริม เพื่อเสริมสร้างวิตามินดีให้ร่างกายอย่างเพียงพอ

  • มีคราบครีมกันแดดติดตามเสื้อผ้า เนื่องจากครีมกันแดดหรือผลิตภัณฑ์กันแดดบางตัวผสมกรดอะมิโนเบนโซอิก หรือกรดพาราอะมิโนเบนโซอิก

  • ผิวแพ้ง่ายขึ้น เกิดการระคายเคือง หรือมีรอยแดงที่ผิว เนื่องจากครีมกันแดดมีส่วนผสมบางตัวที่ทำให้ผิวแพ้สารต่าง ๆ ได้ง่าย ควรล้างออกและหยุดใช้ รวมทั้งปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร เพื่อเลือกใช้ครีมกันแดดหรือผลิตภัณฑ์ป้องกันแดดตัวอื่นแทน

  • กระตุ้นให้เกิกสิวได้

แนะนำสเปรย์กันแดด

กันดะสเปรย์กันแดด เป็นสเปรย์กันแดดสูตรน้ำ ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด ทั้งรังส๊ UVA และ UVB แสงบลูไลท์จากมือถือ และมลพิษทางอากาศ เช่นฝุ่น PM2.5 มีส่วนผสมของเซ็นเทลล่าบำรุงผิวให้ความชุ่มชื่น ไม่อุดตัน จึงไม่ก่อให้เกิดสิว ไม่มีส่วนผสมของพาราเบนซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง ไม่มีส่วนผสมของOxybenzone และ Octinoxate จึงไม่ทำให้ประการังฟอกขาว มีถึง 4 สูตรให้เลือก ครอบคลุมกว่า สามารถป้องกันการเกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ ใช้ สเปรย์กัดแดด ฉีดลงบนผิว ง่าย รวดเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ



การดูแลผิวจากแสงแดดโดยการใช้ กันแดด นั้นเป็นเรื่องสำคัญแต่อย่าละเลยการดูแลผิว บำรุงผิว แบบไหน ถึงจะกลับมาขาวใส สุขภาพดีได้ดั่งเดิมนั้นก็เป็นเรื่องสำคัญไม่ต่างกัน ดูแลผิวให้ถูกต้องอย่างตรงจุด


 

อ่านเพิ่มเติม ได้ที่ กันแดด ป้องกัน

ติดตามอ่านบทความดีๆ ได้ที่beautymustknow.com

กันแดด กันดะ มีวางจำหน่ายแล้วทั่วประเทศ สอบถามข้อมูลและเลือกซื้อสินค้าเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : https://www.facebook.com/pg/kandabeauty.company/ website : Kandabeauty.com

ดู 1 ครั้ง0 ความคิดเห็น

Comments


bottom of page