top of page
ค้นหา
รูปภาพนักเขียนniracha payyakul

กันแดด แสงยูวี ที่จะก่ออันตรายต่อผิวหนัง

อัปเดตเมื่อ 7 ธ.ค. 2564

กันแดด แสงยูวี ที่จะก่ออันตรายต่อผิวหนัง

หนังกำพร้าทำให้เกิดฝ้า ผิวคล้ำ ผิวไหม้จากแดด กันแดด แสงยูวี ทะลุทะลวงสูงเข้าสู่ชั้นหนังแท้ ทำลายคอลลาเจนซึ่งเป็นสาเหตุหลักของรอยย่น ความหย่อนคล้อย กระ และมะเร็งผิวหนัง เมื่อผิวของเราได้รับแสงแดด โดยเฉพาะแสงแดดที่แรงมากขึ้นทุกๆปีในบ้านเรา เซลล์ผิวหนังก็จะสร้างเม็ดสีเมลานินเพิ่มมากขึ้น จนทำให้ผิวหนังมีสีคล้ำขึ้น และบางคนอาจเกิดปัญหาฝ้า กระ ตามมา ถ้าได้รับแสงแดดจัดมาก ๆ ก็อาจทำให้เกิดอาการแดงหรืออาการถูกแดดเผาได้ นอกจากนี้รังสีอัลตราไวโอเลตหรือรังสียูวีในแสงแดดยังอาจทำให้เกิดโรคมะเร็งผิวหนังได้อีกด้วย



การทากันแดด ช่วยปกป้องให้ผิวไม่ถูกแสงแดดทำลายจนไหม้หรือเกิดจุดด่างดำต่าง ๆ รวมทั้งลดโอกาสเสี่ยงเป็นมะเร็งผิวหนัง ส่วนผสมที่อยู่ในครีมกันแดดจะช่วยปกป้องผิวด้วยวิธีต่าง ๆ ทั้งดูดซับรังสีอัลตราไวโอเลต ปกป้องชั้นผิวที่อยู่ลึก หรือสะท้อนรังสีอัลตราไวโอเลตกลับออกไป ทั้งนี้ ครีมกันแดดมีให้เลือกใช้หลากหลายรูปแบบ ได้แก่ โลชั่น ครีม ขี้ผึ้ง หรือ สเปรย์กันแดด ที่มีค่าการปกป้องสูง และต้องทำกิจกรรมที่โดนน้ำหรือเป็นคนมีเหงื่อออกมาก


ชนิดของรังสียูวี แสงแดดที่แทรกชั้นบรรยากาศลงมาถึงโลกของเราได้นั้น จะมีรังสีแสงแดดที่มีผลต่อผิวหนังอย่างมาก ซึ่งจะแบ่งเป็น 3 ช่วงคลื่นใหญ่ ๆ ด้วยกัน คือ

  • ช่วงคลื่นระหว่าง 320-400 นาโนเมตร (คลื่นยาว) เราจะเรียกกันว่า รังสี UVA ซึ่งเป็นรังสีที่สามารถแทรกซ้อนถึงผิวชั้นลึก ๆ หรือผิวหนังชั้นล่างได้ ทำลายเนื้อเยื่อและดีเอ็นเอของเซลล์ผิว (สามารถทะลุผ่านเมฆและกระจกได้ด้วย) โดยเป็นตัวทำลายคอลลาเจนและความชุ่มชื้นของผิวหนัง ทำให้ผิวแห้งจนเกิดริ้วรอยลึกหรือผิวเหี่ยวย่น (++++), ทำให้เกิดฝ้า กระ (+++), มะเร็งผิวหนัง (++) และผิวหมองคล้ำ (+)

  • ช่วงคลื่นระหว่าง 290-320 นาโนเมตร (คลื่นกลาง) เราจะเรียกกันว่า รังสี UVB เป็นรังสีสามารถทะลุได้ถึงชั้นหนังกำพร้าเท่านั้น จึงทำให้ผิวหนังแดงหรือผิวไหม้แดด ซึ่งเป็นตัวการหลักทำให้สีผิวของเราหมองคล้ำ หรือที่เราเรียกว่า “แดดเผา” (++++), เป็นมะเร็งผิวหนัง (+++), ทำให้เกิดริ้วรอย (++) และปัญหาฝ้า กระ (+)

  • ช่วงคลื่นระหว่าง 200-290 นาโนเมตร (คลื่นสั้น) เราจะเรียกกันว่า รังสี UVC ซึ่งในปัจจุบันยังส่องมาที่พื้นโลกได้ไม่มากนัก เพราะเกือบทั้งหมดถูกกรองไปแล้วโดยชั้นบรรยากาศโอโซนที่ห่อหุ้มโลกของเราอยู่ จึงทำให้ไม่มีผลิตภัณฑ์สำหรับการป้องกันรังสีชนิดนี้

มาตรฐานทั่วโลกที่ใช้วัดค่าการป้องกันรังสี UVB คือ SPF (Sun Protection Factor)
  • ค่า SPF 30 หากกล่าวแบบง่ายๆ หมายถึงผลิตภัณฑ์ตัวนั้นสามารถป้องกันรังสี UVB ได้มากกว่าปกติ 30 เท่า สมมติถ้าเราไปตากแดด 15 นาทีผิวถึงจะเริ่มไหม้แสบแดง การที่ทา Sunscreen ที่มี SPF 30 ก็จะอยู่กลางแดดได้นานขึ้นอีก 30 เท่า นั่นก็คือ 450 นาที (15 x 30 = 450) หรือประมาณ 7 ชั่วโมง หากเราเราอยู่กลางแดดนานเกินกว่านี้ก็ควรทาซ้ำ

  • สิ่งที่ควรทราบคือ เราต้องใช้ผลิตภัณฑ์ ในปริมาณ 1/2 ช้อนชา ทาให้ทั่วใบหน้าหรือลำคอเพื่อที่จะได้ค่า SPF ตามที่ระบุเอาไว้บนฉลาก (ส่วนตามร่างกายประมาณ 1-2 ช้อนโต๊ะสำหรับแขนและขา)

  • ที่ SPF 30 ป้องกันรังสี UVB ได้ 97% ในขณะที่ SPF มากกว่า 50 ป้องกันได้ 98% ซึ่งแตกต่างกันเพียง 1% จึงอาจไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเลือกใช้ครีมกันแดดที่มี SPF สูงๆ และในเมืองไทยอนุญาตให้เคลมได้ที่ SPF50 หากมากกว่านั้น ผลิตภัณฑ์จะระบุว่า SPF50+

  • สำหรับแดดที่ร้อนระอุในเมืองไทย และ UV Index แรงขนาดนี้ แนะนำให้เลือกผลิตภัณฑ์ที่มี SPF มากกว่า 30 ขึ้นไป


มาตรฐานที่ใช้วัดค่าการป้องกันรังสี UVA

ปัจจุบันยังไม่มีการกำหนดมาตรฐานสากลในการวัดค่าการป้องกัน UVA ที่พบได้บ่อยเราจะเห็นมี PPD กับ PA (+)

  • PPD (Persistent Pigment Darkening) ค่า PPD นั้นใช้บอกว่าผลิตภัณฑ์ตัวนั้นจะช่วยปกป้องผิวจาก UVA ได้มากกว่าปกติกี่เท่า ซึ่งเราจะพบผลิตภัณฑ์ที่ระบุค่า PPD ได้จากผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในยุโรปหรือผลิตเพื่อจำหน่ายในยุโรป หากจะเลือกใช้ แนะนำให้เลือกที่ PPD มากกว่า 10 ขึ้นไป

  • PA (+) หรือ Protection grade of UVA เป็นค่าการป้องกัน UVA ซึ่งริเริ่มโดยสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องสำอางประเทศญี่ปุ่น

โดยค่า PA จะมีอยู่ด้วยกัน 4 ระดับ ดังนี้

  • PA+ หมายถึง มีประสิทธิภาพในการป้องกัน รังสี UVA เริ่มต้นได้ 1-4 เท่าของผิวปกติ หรือป้องกันได้น้อย

  • PA++ หมายถึง มีประสิทธิภาพในการป้องกั รังสี UVA กลางได้ 4-8 เท่าของผิวปกติ หรือป้องกันได้ปานกลาง (ทำงานในร่ม)

  • PA+++ หมายถึง มีประสิทธิภาพในการป้องกัน รังสี UVA สูงได้ 8-16 เท่า หรือป้องกันได้มาก (ทำงานกลางแดด)

  • PA++++ หมายถึง มีประสิทธิภาพในการป้องกั รังสี UVA สูงสุดได้ 16 เท่าขึ้นไป หรือป้องกันได้สูงมาก (ทำงานกลางแดดตลอดเวลา)

สำหรับแดดเมืองไทย ควรเลือกที่ PA มากกว่าหรือเท่ากับ 3+ ( PA+++, PA++++)


สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับครีมกันแดด

1.ช่วยป้องกันผิวจากรังสีอัลตราไวโอเลตหรือรังสียูวีในแสงแดด ป้องกันการเกิดริ้วรอย ช่วยไม่ให้ผิวหนังเหี่ยวย่นหรือดูแก่ก่อนวัย ผิวแห้งกร้าน ป้องกันการเกิดฝ้า กระ ปัญหาผิวคล้ำเสีย และมะเร็งผิวหนัง


2.ป้องกันอันตรายจากแสงแดดได้ดีที่สุด แต่ครีมกันแดดไม่สามารถปกป้องผิวจากรังสียูวีได้อย่างสมบูรณ์ ควรใช้วิธีอื่นปกป้องผิวร่วมด้วย


3.ผู้ที่มีอายุมากกว่า 6 เดือน สามารถใช้ครีมกันแดดได้ในกรณีที่แพทย์ไม่ได้กำหนดให้ใช้วิธีอื่นดูแลผิวจากแสงแดด ทั้งนี้ ควรสวมเสื้อผ้าที่ปกป้องผิวจากแสงแดดได้ รวมทั้งเลี่ยงเจอแดดจ้า เพื่อลดโอกาสเสี่ยงผิวถูกทำลายจากรังสียูวี


4.ไม่มีครีมกันแดดยี่ห้อใดที่ทาแล้วจะสามารถป้องกันรังสียูวีได้ 100% หรือป้องกันแสงแดดได้ตลอดทั้งวัน ดังนั้นการทาครีมกันแดดซ้ำทุก ๆ 2-3 ชั่วโมง


5.ควรสังเกตวันหมดอายุของครีมกันแดดด้วย ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะมีกำหนดอายุประมาณ 2-3 ปี นับจากวันที่ผลิต และไม่ควรเก็บครีมกันแดดไว้ในที่ร้อน ๆ


สเปร์ยกันแดด อาจทำให้ได้รับปริมาณสารกันแดดที่ใช้ทาผิวได้ยากกว่าสารกันแดดรูปแบบอื่น ส่งผลให้ทาสารกันแดดไม่เพียงพอ ครีมกันแดดอาจลดปริมาณการผลิตวิตามินดีของผิวหนัง

ครีมกันแดดที่ระบุว่า Water Resistant นั้น จะช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวีเมื่ออยู่ในน้ำได้นาน 40 นาที ส่วนครีมกันแดดที่ระบุว่า Very Water Resistant ช่วยปกป้องผิวเมื่ออยู่ในน้ำได้นานถึง 80 นาที อย่างไรก็ตาม ครีมกันแดดที่ระบุว่า Waterproof หรือ Sweat Proof ถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่ผ่านการรับรอง เนื่องจากใช้คำที่ไม่ถูกต้องและทำให้ผู้บริโภคเข้าใจผิด


การทาครีมกันแดดมากเกินไปจะก่อให้เกิดปัญหาด้านความมัน ความเหนอะหนะไม่สบายตัว และอาจมองดูไม่สวยงาม ชนิดและปริมาณของสารป้องกันแสงแดดที่มีในผลิตภัณฑ์จะทำให้ค่า SPF ต่างกัน โดยครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงมักมีปัญหาในด้านความงาม มักจะมีส่วนผสมของน้ำมันมาก ทำให้เหนียวเหนอะหนะและมีราคาแพงกว่า เลือกเครื่องสำอางที่ผสมสารป้องกันแสงแดดนั้นจัดเป็น “เครื่องสำอางควบคุม” ซึ่งโดยทั่วไปแล้วเครื่องสำอางเหล่านี้จะผสมสารป้องกันแสงแดดหลายชนิด เพื่อให้ผลิตภัณฑ์นั้น ๆ มีคุณสมบัติป้องกันได้ทั้งรังสี UVA และ UVB


สิวบุกหนักจากมลภาวะหรือจากการแพ้คลีนซิ่งเช็ดเครื่องสำอาจ เกิด สิว รอยหลุม ที่รักษายากเพื่อไปทดแทนเส้นใยที่เก่าและเสื่อมสลายไปตามวัยทำให้ริ้วรอยต่างๆ หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่จะทำให้สิวอักเสบ

 

อ่านเพิ่มเติม ได้ที่ กันแดด แสงยูวี

ติดตามอ่านบทความดีๆ ได้ที่ beautymustknow.com

กันแดด กันดะ มีวางจำหน่ายแล้วทั่วประเทศ สอบถามข้อมูลและเลือกซื้อสินค้าเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : https://www.facebook.com/pg/kandabeauty.company/ website : Kandabeauty.com

ดู 4 ครั้ง0 ความคิดเห็น

Comments


bottom of page