ดูแลผิว เคล็ดลับ ผิวหน้าสวยห่างไกลสิว หน้ากระจางใส
ปัญหากวนใหญ่ สำหรับหญิงหลายคนปัญหาผิว ที่แก้ไม่หนีไม่พ้น วันนี้เรามีวิธีการ ดูแลผิว เคล็ดลับ ให้ผิวหน้าคุณผู้กลับมาสวยใสห่างไกลสิวและปัญหาผิว รอยดำรอยแดง แผลเป็นจากสิว
ใช้น้ำสะอาดล้างหน้าทำความสะอาดผิว ใช้ได้ในผิวที่เป็นผิวของเด็กก่อนเข้าสู่วัยรุ่น เนื่องจากผิวของเด็กยังไม่มีการผลิตน้ำมันออกมา แต่เมื่อเข้าสู่วัยรุ่นแล้ว ต่อมไขมันจะเริ่มทำงานมากขึ้น ซึ่งไขมันเหล่านี้ไม่สามารถล้างออกด้วยน้ำเปล่าอย่างเดียวได้ จำเป็นต้องใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารชะล้างช่วยเอาไขมันออกไป แต่อย่างไรก็ตาม มีการล้างหน้าหลายแบบด้วยกันที่ทำร้ายผิวหน้าโดยไม่รู้ตัว อย่าใช้มือถูหน้าจนแรง
เพราะจะทำให้หน้าเกิดริ้วรอยและระคายเคืองได้ หลังจากล้างจนสะอาดแล้วให้ใช้ผ้าขนหนูค่อยๆซับจนใบหน้าแห้งและอย่าล้างหน้าบ่อย ให้ล้างหน้าเพียงตอนเช้า-เย็น จะไม่ส่งผลเสียต่อผิวของเรา
การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า มีความสำคัญสำหรับการดูแลผิวพรรณอย่างมาก เพราะผิวของแต่ละคนมีสภาพผิวที่แตกต่างกัน และนอกจากสภาพผิวมีความแตกต่างกันแล้ว การเปลี่ยนแปลงของอากาศตามช่วงฤดูกาลก็มีผลต่อการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าเช่นกันก่อนเลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวล้างหน้า ควรรู้สภาพผิวแต่ละประเภทก่อนว่ามีลักษณะเป็นอย่างไร
วิธีการดูแลผิวหน้าแบบง่ายสำหรับสาวๆที่ไม่ค่อยมีเวลา
1.ล้างหน้าให้สะอาดหมดจด การล้างหน้าตามแนวขน
การล้างหน้าตามแนวขนเป็นวิธีที่นิยมทำกันอย่างแพร่หลาย เพราะมีหลายเสียงคอนเฟิร์มแล้วว่าสิวแทบจะไม่ขึ้นเลย ก่อนจะเข้านอนทุกครั้ง สาวๆ ต้องล้างหน้าให้สะอาดอยู่เสมอ โดยเฉพาะสาวคนไหนที่แต่งหน้าต้องเช็ดเครื่องสำอางออกเสียก่อนแล้วล้างหน้าตามขั้นตอนปกติอย่างถูกต้อง และควรล้างหน้าให้สะอาดเช้าเย็น เพียงเท่านี้ก็จะช่วยกำจัดสิ่งสกปรกไม่ให้อุดตันรูขุมขน อันเป็นสาเหตุของการเกิดสิวได้แล้ว
สำหรับการทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาดหมดจด เพราะหากเรารู้ว่าอะไรเหมาะสมกับผิว ผิวเรามีสภาพแบบไหน ผิวแห้ง ผิวมัน ผิวมันขาดน้ำ หรือผิวบอบบางแพ้ง่าย ก็จะทำให้การล้างหน้ามีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะสาว ๆ ที่มีผิวบอบบาง แพ้ง่าย ที่มีอาการตั้งแต่ผิวหยาบกร้าน แดงคัน ไปจนถึงผื่นแพ้ ระคายเคืองผิว
2.เลือกผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่เหมาะสมกับผิว
ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าในปัจจุบันมีให้เลือกใช้มากมายหลายยี่ห้อ แนะนำให้สาวๆ เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่เหมาะสมกับสภาพผิว ไม่ว่าจะเป็นเจล ครีม สบู่หรือโฟมล้างหน้า สำหรับสาวผิวแห้ง ควรเลือกสูตรที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและอ่อนโยนต่อผิว การทำความสะอาดหน้าทั้งตอนเช้าและเย้นเราควรบำรุงผิวอย่างเป็นประจำจำทำให้ผิวของเราชุ่มชื้นไม่แห้งกร้าง เพราะการเติมความชุ่มชื้นให้ผิวจะช่วยปรับสมดุลของ PHบนผิวให้เหมาะสม
3.ซับผิวหน้าอย่างเบามือ
หลังจากล้างหน้าเสร็จแล้ว หลายคนอาจจะเผลอหยิบผ้าขนหนูมาเช็ดถูผิวหน้าอย่างรุนแรง แต่แบบนี้จะเป็นการทำลายผิวให้เกิดการเสียดสีและมีริ้วรอยง่ายขึ้น แนะนำให้ซับหน้าด้วยผ้าขนหนูนุ่มๆ อย่างเบามือจะดีที่สุด และควรหมั่นเปลี่ยนผ้าขนหนูผืนใหม่ทุกสัปดาห์ เพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งสกปรกบ่มเพาะในเส้นใยผ้ามากเกินไป
4.สครับผิวหน้า
ควรสครับผิวหน้าบ้าง สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง เพื่อผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพแล้วให้หลุดออก เผยผิวใหม่ที่สดใสและแข็งแรงกว่าเดิม
การ สครับหน้า เป็นการทำความสะอาดรูขุมขนอย่างมีประสิทธิภาพ เพราะการกำจัดเซลล์ผิวที่แห้งหรือสิ่งสกปรกที่ตกค้างอยู่บนผิวหลังจากการทำความสะอาด สามารถลดการอุดตันของรูขุมขน และลดโอกาสการเกิดสิวชนิดต่างๆ
การสครับจะทำให้รูขุมขนเปิดและเมื่อรูขุมขนสะอาดปราศจากสิ่งสกปรกที่ตกค้าง ไม่มีเซลล์ผิวที่ตายแล้วหรือผิวหนังที่แห้งมาอุดตันเหมือนเป็นกำแพงปิดกั้นบนชั้นผิว สกินแคร์ชนิดอื่นๆ ที่เราทาก็สามารถซึมผ่านเข้าสู่ชั้นผิวหนังได้ลึกล้ำ และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
5.ทาครีมบำรุงที่เหมาะกับผิว
เลือกทาครีมบำรุงผิวที่มีเหมาะสมกับสภาพผิวหน้า เช่น สาวผิวแห้งก็ควรเลือกครีมบำรุงชนิดเซรั่มหรือมอยส์เจอไรเซอร์เข้มข้น เพื่อการบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นอย่างล้ำลึก
ครีมบำรุง เป็นผลิตภัณฑ์เพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว ช่วยฟื้นฟูผิวแห้งกร้าน ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ปกป้องผิวจากสิ่งสกปรกภายนอก บรรเทาอาการผิวหนังอักเสบชนิดไม่รุนแรง ลดเลือนริ้วรอยร่องตื้น และช่วยปรับสภาพผิวก่อนลงเครื่องสำอาง
6.ทาครีมกันแดดทุกวัน
หลังจากทาครีมบำรุงหน้า แล้ว สิ่งที่ละเลยไม่ได้เด็ดขาดก็คือ การทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน โดยเฉพาะในช่วงกลางวัน แม้ว่าสาวๆ จะไม่ได้ออกจากบ้านก็ตาม แต่แสงไฟและแสงจากหน้าจอคอม/มือถือก็มีผลทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำได้เช่นเดียวกัน ดังนั้น การทาครีมกันแดดไว้เสมอจะช่วยปกป้องผิวจากรังสีเหล่านี้ได้แน่นอน
แสงแดดมีส่วนทำให้เกิดอนุมูลอิสระในร่างกายเรา รวมถึงมี UVA และ UVB ซึ่งอันตรายมากต่อชั้นผิวหนัง หากไม่ทาครีมกันแดดป้องกัน จะทำให้ร่างกายโดนรังสีแบบเต็มๆ มีโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดมะเร็งได้มากกว่าการทาครีมกันแดดปกป้องผิวไว้
7.หยุดพักการแต่งหน้าบ้าง
จริงอยู่ที่การแต่งหน้าจะทำให้สาวๆ สวยมั่นใจ แต่เราควรพักการแต่งหน้าบ้าง โดยเฉพาะวันหยุดที่ไม่ได้ออกไปไหน เพื่อให้รูขุมขนได้พัก ได้ฟื้นฟูตัวเองและรับออกซิเจนมากขึ้น
8.ทำความสะอาดอุปกรณ์แต่งหน้า
ไม่ว่าจะเป็นพัฟ ฟองน้ำหรือแปรงแต่งหน้า ล้วนเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคทั้งสิ้น สาวๆ จึงควรนำอุปกรณ์แต่งหน้าเหล่านี้มาล้างทำความสะอาดบ้างอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง ก็จะช่วยลดการสะสมของแบคทีเรียลงได้ เป็นการป้องกันการเกิดสิวอีกทางหนึ่งได้ดีทีเดียว
อย่ามองข้ามการรักษาความสะอาดของอุปกรณ์แต่งหน้ากันเลยนะคะ ยิ่งเป็นอุปกรณ์อย่างพวกแปรงแต่งหน้า ฟองน้ำแต่งหน้า หรือพัฟที่ใช้ลงรองพื้น ยิ่งไม่ควรปล่อยให้สกปรกเลยค่ะ เพราะความสกปรกบนอุปกรณ์แต่งหน้า เป็นสิ่งที่ทำให้เกิดสิว และปัญหาผิวอื่นๆ ด้วย
9.มาส์กบำรุงผิวหน้า
การมาส์กหน้า เป็นการบำรุงผิวหน้าอย่างล้ำลึก สาวๆ สามารถทำได้ง่ายๆ ไม่ว่าจะใช้แผ่นมาส์กสำเร็จรูปที่มีขายทั่วไป หรือมาส์กสูตรโฮมเมดก็ได้เช่นกัน สารอาหารจากมาส์กจะฟื้นบำรุงผิวและทำให้ผิวขาวกระจ่างใสในทันตาเลยล่ะ
การมาส์คหน้าจะช่วยกระตุ้นให้ผิวของสาวๆ ได้รับออกซิเจนมากขึ้น ทำให้ผิวดีมีออร่า พร้อมกันนั้นการมาส์คหน้ายังช่วยกำจัดเม็ดสีส่วนเกิน ทำให้ผิวเรียบเนียนไร้รอยด่างดำกวนใจ
นอกจากนี้ควรใช้โทนเนอร์เช็ดล้างเครื่องสำอางทุกครั้ง โทนเนอร์คือโลชั่นเช็ดผิว ทำหน้าที่ปรับสภาพผิวและรูขุมขนให้พร้อมรับการบำรุง และหากมีเกิดสิวขึ้นบนในหน้า ให้รีบใช้ เจลแต้มสิว เพื่อลดอาการอักเสบของสิวที่อาจกลายเป็นสิวหัวเหลือง ที่ทำให้เกิดรอยดำรอยแดง บนหน้า
โทนเนอร์ คือ ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในการทำความสะอาด หรือชำระล้างสิ่งสกปรกบนใบหน้าของเรา หลังจากการทำความสะอาดด้วยคลีนซิ่ง หรือโฟมล้างหน้า ซึ่งนอกจากคุณสมบัติที่จะช่วยในการทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาดไปอีกขั้นหนึ่งแล้ว เจ้าโทนเนอร์นี้ยังมีคุณสมบัติในการช่วยปรับสภาพผิวให้พร้อมก่อนการทาครีมบำรุงผิว เพื่อให้ครีมซึมเข้าสู่ผิวได้ดีขึ้น และสร้างสมดุลให้กับผิวหน้า ลดความมัน กระชับรูขุมขน เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว และช่วยให้ครีมบำรุงผิวซึมลงสู่ผิวได้ดีขึ้นอีกด้วยค่ะ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับการเลือกโทนเนอร์ให้เหมาะกับสภาพผิวของสาวๆ ด้วยนะคะ
ตรวจสอบสภาพผิวของคุณ เพื่อการดูแลผิวไม่ให้มีสิว
ผิวมัน
คนที่มีผิวหน้ามันส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนและความไม่สมดุลของฮอร์โมนภายในร่างกาย ลักษณะของผิวหน้าจะมีรูขุมขนที่กว้าง ผิวเงาเป็นมันวาว มีลักษณะหยาบกว่าผิวประเภทอื่นๆเพราะมีน้ำมันออกมาหล่อเลี้ยงผิวหนังมาก คนที่มีผิวหน้ามันมักมีแนวโน้มที่จะเกิดสิวอุดตัน รวมถึงสิวประเภทอื่นๆได้ง่าย
การเลือกผลิตภัณฑ์ล้างหน้า ผิวมันควรใช้ครีมบำรุงเพื่อปกป้องผิวหลังล้างหน้าหรือใช้ผลิตภัณฑ์ใด ๆ ที่ทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้น โดยเลือกครีมเนื้อโลชั่นที่ระบุไว้ว่าไม่อุดตันรูขุมขน เพื่อลดโอกาสการเกิดสิว ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดความมัน เช่นการล้างหน้าด้วยโฟมล้างหน้าหรือสบู่บ้างหน้าที่มีความอ่อนโยนต่อผิว
2.ผิวแห้ง
สำหรับคนที่มีผิวแห้ง ต้องบำรุงและดูแลผิวหน้ามากเป็นพิเศษ เนื่องจากสภาพผิวมีแนวโน้มที่จะแห้งมากขึ้นตามวัย ลักษณะของผิวแห้ง เมื่อสัมผัสจะรู้สึกว่าผิวหน้าแห้งตึง ไม่เรียบ ซึ่งก่อให้เกิดการระคายเคือง แพ้ง่ายและมักเกิดริ้วรอยที่ผิวหนังได้ง่าย
การเลือกผลิตภัณฑ์ล้างหน้า ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์มีส่วนผสมของสารให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวที่ทำมาจากปิโตรเลียมบนผิวหนังบริเวณที่แห้งและหยาบกร้านมาก หรือมอยส์เจอไรเซอร์ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหน้า
3.ผิวธรรมดา
เป็นผิวที่สมบูรณ์แบบที่สุด และไม่ค่อยพบว่ามีปัญหาสุขภาพผิว ลักษณะของผิวไม่แห้งกร้านหรือมันจนเกินไป
การเลือกผลิตภัณฑ์ล้างหน้าสำหรับคนที่มีธรรมดา สามารถเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ได้ง่ายกว่าผิวประเภทอื่นๆ หรืออาจเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าตามสภาพผิวในช่วงนั้นๆ เลือกใช้ครีมบำรุงที่มีส่วนผสมหลักเป็นน้ำและซิลิโคนชนิดเบา อาทิ ไซโคลเมทิโคน (Cyclomethicone) เพราะมีเนื้อบางเบาและไม่เหนียวเหนอะหนะและไม่ทำให้ผิวตึง หรือ มันมากเกินไป
4.ผิวผสม
ผิวผสมบ่งบอกถึงผิวที่ประกอบด้วยประเภทของผิวมากกว่าหนึ่งประเภท ลักษณะของผิวบริเวณแก้มจะมีลักษณะเป็นผิวธรรมดา แต่ส่วนอื่นๆของใบหน้าจะเป็นผิวมัน
การเลือกผลิตภัณฑ์ล้างหน้า ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ช่วยกำจัดไขมันส่วนเกิน และล้างหน้าด้วยดิปคลีนซึ่งเพื่อกระชับรูขุมขน
5.ผิวแพ้ง่าย
ผิวแพ้ง่ายพบได้บ่อยในคนที่มีปัญหาผิวแห้ง ลักษณะผิวค่อนข้างบาง อาจเห็นเส้นเลือกฝอยเล็กๆตามใบหน้า
การเลือกผลิตภัณฑ์ล้างหน้า ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่ไม่มีส่วนผสมของสีหรือน้ำหอม เพื่อป้องกันการแพ้หรือทำให้ผิวระคายเคือง
อย่าล้างหน้าด้วยน้ำร้อยหรือน้ำอุ่น ถ้าไม่อยากทำให้ผิวหน้าแห้ง ทางที่ดีควรใช้น้ำสะอาดอุณหภูมิห้องชโลมลงบนใบหน้าของเรา ไม่ควรใช้น้ำร้อนหรือน้ำอุ่นในการชโลมลงบนผิวหน้า น้ำร้อนหรือน้ำอุ่นอาจจะขจัดสิ่งสกปรกได้ง่ายกว่าก็จริง แต่อาจทำให้ผิวของเราระคายเคืองได้ และจะทำให้รูขุมขนของเรานั้นขยายกว้างขึ้น ซึ่งหากใช้น้ำอุ่นหรือน้ำร้อนล้างหน้าไปนานๆ ก็อาจจะทำให้ผิวแห้งและหยาบกร้านขึ้นด้วย
วิธีการล้างหน้า หากพูดถึงวิธีการล้างหน้าหลายคนอาจคิดแต่เพียงว่าถูสบู่หรือโฟมให้ทั่วใบหน้าก็เพียงพอแล้ว แต่ความจริงแล้วมีรายละเอียดมากว่านั้นคะ ซึ่งวิธีที่ถูกต้องมีดั้งนี้ - ไม่ควรให้เจลหรือโฟมสัมผัสกับผิวหน้าโดยตรง ควรผสมน้ำเล็กน้อยลงบนฝ่ามือก่อน แล้วค่อยนวดลงบนใบหน้า - การถูใบหน้าควรลูบไล้อย่างเบามือให้ทั่วใบหน้า ไม่ควรถูแรงๆ เพราะอาจทำให้ผิวถลอกได้ - อีกประการหนึ่งก็คือ ไม่ควรถูเจลหรือโฟมนานเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดการระคายเคืองได้ และจะทำให้ชั้นขี้ไคลก็คือชั้นหนังกำพร้าที่เกาะติดอยู่บนผิวหนังชั้นบนควบคู่ไปกับชั้นน้ำมันเคลือบผิว ที่เป็นเกราะคุ้มครองปกป้องผิวหน้าจากฝุ่นละออง เชื้อโรคไม่ให้ซึมผ่านลงไปทำร้ายผิว
ปัญหาผิวหน้าที่หลายคนหนักใจคงหนีไม่พ้นเรื่องสิวและผิวหน้าหมองคล้ำ นอกจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินอาหารที่มีประโยชน์ ดื่มน้ำสะอาด พักผ่อนให้เพียงพอแล้ว การเลือกใช้โฟมล้างหน้าสูตรลดสิวเพื่อล้างทำความสะอาดผิวหน้า และใช้ เจลแต้มสิว เพื่อลดปัญสิวและหลีกเลี่บงการดีดสิว ถ้าไม่อยากให้หน้ามีรอยดำรอยดำ รอยแลผเป็ยจากสิวนะ
สำหรับสาวๆ แล้ว การล้างหน้า หรือการเช็ดเครื่องสำอางถือเป็นหนึ่งในกิจวัตรประจำวันก็ว่าได้ เพราะในแต่ละวันสาวๆ ต้องแต่งหน้า หรืออย่างน้อยที่สุดคือการลงครีมกันแดด แต่ไม่ว่าจะแต่งหน้าแบบจัดเต็มหรือแต่งเบาๆ ในวันสบายๆ ก็ควรต้องทำความสะอาดผิวหน้าอยู่ดี
ล้างมือให้สะอาดก่อนล้างหน้านั้นสำคัญ มือเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคและแบคทีเรียต่างๆ และ โควิด สายพันธ์ุใหม่ อันตรายมากสามารถแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็วในอากาศ หากมีคนที่ติดเชื้อนี้จะแสงอาการปวดมีไข้ ไอมาก หากอยู่ใกล้ชิดผู้ป่วยในสถานที่ที่อากาศถ่ายเทไม่สะดวก อาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อไสรัสนี้ได้
อ่านเพิ่มเติม ได้ที่ ดูแลผิว เคล็ดลับ
ติดตามอ่านบทความดีๆ ได้ที่ beautymustknow.com
กันแดด กันดะ มีวางจำหน่ายแล้วทั่วประเทศ สอบถามข้อมูลและเลือกซื้อสินค้าเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : https://www.facebook.com/pg/kandabeauty.company/ website : Kandabeauty.com
Comments