บำรุงผิว ชุ่มชื้น ปรับผิวให้เรียบเนียนแทนเบสเมคอัพ
ผิวไม่ว่าจะมีสภาพผิวแบบไหนก็ต้องการ บำรุงผิว ชุ่มชื้น ด้วยกันทั้งนั้น แต่จะแตกต่างกันเพียงแค่จะต้องการในปริมาณมากน้อยเพียงใด หรือในรูปแบบผลิตภัณฑ์บำรุงผิวรูปแบบใดก็ต้องได้รับการบำรุงอย่างเต็มที่จากสารสกัดที่ช่วยเพิ่มความอิ่มน้ำ เรียบเนียน
งานเลยโหมเข้ามาไม่หยุดหย่อน จนหน้าโทรมมัวหมอง จนหมดออร่า แต่ไม่ต้องห่วง เพราะวันนี้มิเนะมีสารพัดสูตรที่จะช่วยบำรุงผิวให้กลับมาสวยดังเดิมแน่นอน
ชุ่มชื้น หมายถึง สิ่งที่มีไอนํ้าหรือนํ้าซึมซาบชุ่มอยู่ แต่ในขณะที่ ชุ่มชื่น คือความรู้สึกที่จับต้องไม่ได้ ดังนั้น ถ้า “ผิวชุ่มชื่น” ก็อาจเป็นเพียงความรู้สึกซึ่งก็อาจเป็นเพียงชั่วขณะ หรือไม่ได้หมายถึงว่าผิวจะมีน้ำในผิวเพียงพอจริงๆ มั้ย แต่ถ้าหาก “ผิวชุ่มชื้น” จะหมายถึงในผิวมีน้ำหล่อเลี้ยงเพียงพอจนดูสดใสสดชื่น แลดูสุขภาพดีนั่นเอง บำรุงครบ เพื่อ ผิว ขาวใสอมชมพู ทำความสะอาดผิวจะช่วยขจัดสิ่งที่อุดดันอยู่ตามรูขุมขน ซึ่งจะช่วยปรับสภาพผิวให้พร้อมในขั้นตอนบำรุงได้อย่างล้ำลึก
ผิวที่ขาดน้ำ แห้งกราน ผิวชุ่มชื่น≠ผิวชุ่มชื้น กู้ผิวกลับมาชุ่มชื้นดูเหมือนเด็กอีกครั้ง ยิ่งกับช่วงอากาศเปลี่ยนแปลงแบบนี้ ผิวต้องการการดูแลใส่ใจเป็นพิเศษ ปรับความสมดุลให้ผิวเป็นปกติ มีความนุ่มชุ่มชื้นและแข็งแรง ให้ดูสดใสและเปล่งประกายมีออร่า
ลักษณะของผิวหนังที่ขาดความชุ่มชื้น (dehydrated skin) - ผิวไม่เรียบ มีขุยหรือไม่มีขุยก็ได้ แต่ถ้ามีขุยคืออาการหนัก ทาแป้งไม่ติด (หน้ามันมาก ทาแป้งไม่ติด หน้าแห้งไปก็ทาแป้งไม่ติดเหมือนกัน) - มองเห็น fine line ชัด (ริ้วเล็ก) โดยเฉพาะใต้ตา มุมปาก - ผิวแดงง่าย สีผิวไม่สม่ำเสมอ - คันและเกิดผิวหนังอักสบ - ระคายเคืองง่าย แพ้ง่าย
การรักษาความชุ่มชื้นให้ผิวหนัง จึงต้องทำทั้งเติมความชุ่มชื้นเข้าไปก่อน ด้วยการดื่มน้ำให้เพียงพอ และเลือกใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ประเภท humectant ปิดกั้นความชุ่มชื้นไม่ให้ระเหยออก ด้วยการใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ประเภท occlusive เพิ่มความสามารถในการกักเก็บน้ำใต้ผิว
เนื่องจากสารเคลือบผิว Occlusives ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวด้วยการเคลือบปิดผิวชั้น Stratum Corneum เพื่อลดหรือชะลอการระเหยของน้ำ เพื่อให้ได้รับประโยชน์สูงสุด เราจึงควรทามอยซ์เจอไรเซอร์ทีมีส่วนผสมของมอยเจอร์ไรเซอร์ประเภท occlusive ขณะที่ผิวยังมีเปียกหรือมีความชื้นอยู่เพื่อให้ occlusive moisturizers ทำหน้าที่กักความชุ่มชื้นเอาไว้ ในเครื่องสำอางแบรนด์ญี่ปุ่นเกือบทุกแบรนด์จะแนะนำให้ลงโลชั่นที่ผสม hyaluronic acid (บ้านเราเรียกโทนเนอร์) เพื่อเติมน้ำ ต่อด้วยการยลง emusion หรือ milk ที่มีส่วนผสมของ occlusive moisturizers เพื่่อปิดล๊อกความชุ่มชื้นให้แก่ผิวอีกครั้ง
ผิวสวยเริ่มต้นชั้น stratum corneum
อยากให้ผิวดูสวย ควรหันมาดูแลผิวชั้น stratum corneum ให้สมบูรณ์ โดยการรักษาระดับ NMFs และ intercellular lipids ให้สมบูรณ์มากที่สุด การที่ระดับความชุ่มชื้นในผิวเพียงพอจะช่วยให้เซลล์ผิวมีความยืดหยุ่นดี ถูกทำอันตรายได้ยาก
-เสริมการทำงานของเอนไซม์ที่ช่วยในกระบวนการผลัดเซลล์ผิวให้เป็นไปอย่างสมบูรณ์ หากผิวขาดความชุ่มชื้นที่พอเหมาะ เอนไซม์เหล่านี้จะทำงานไม่ดี การผลัดเซลล์ผิวจึงรวน ผิวหน้าหมองคล้ำ ฝ้ากระ สะสม รูขุมขนอุดตัน เป็นสิว
-ส่งเสริมให้โครงสร้างมีความแข็งแรงและทำหน้าที่กรองสารที่จะผ่านเข้าออกผิว ได้ดีและสมบูรณ์ หากผิวขาดความชุ่มชื้นที่พอเหมาะ เซลล์ corneocyte จะลีบแบน การเรียงตัวไม่เป็นระเบียบ เกิดช่องโหว่ น้ำใต้ผิวระเหยออกง่าย สิ่งแปลกปลอมจากภายนอกผ่านเข้าไปได้ง่าย ทำให้ผิวหนังอักเสบ เกิดการติดเชื้อ เป็นต้น
-รักษาระดับ pH ของผิว : ผิวที่มี pH ผิวพอเหมาะ จะช่วยให้ NMFs ถูกผลิตได้ดี
-สิวขึ้นน้อยลง : ผิวที่ขาดความชุ่มชื้น ทำให้เซลล์ผิวเรียงตัวไม่เป็นระเบียบ มีการหลุดลอกผิดปกติและไปอุดตันตามรูขุมขน เมื่อรวมกับน้ำมันที่ระบายออกไม่ได้ จึงเกิดการอุดตันเป็นสิวอุดตัน สิวอักเสบ เมือผิวชุ่มชื้น การผลัดเซลล์กลับมาปกติ การอุดตันเกิดน้อยลง สิวลดลง
-รูขุมขนกระชับ : ผิวที่ชุ่มชื้นพอเหมาะ เซลล์ corneocyte จะมีความอวบอิ่มและพองตัวเบียดกัน ทำให้รูขุมขนซึ่งอยู่ระหว่างจุดเชื่อมของเซลล์ corneocyte ถูกบีบอัดให้แคบลง ผิวจึงดูละเอียดขึ้น ดังนั้นในคนที่ผิวแห้งมากๆ นอกจากผิวจะดูหยาบแล้ว รูขุมขนก็จะกว้างขึ้นด้วย
-งดใช้ผลิตภัณฑ์ที่มี ส่วนผสมของ AHA หรือ BHA : หลังจากเผชิญกับแสงแดดจัดจนมีอาการแสบร้อนที่ผิวและยิ่งกำลังเผชิญกับปัญหาสิวอักเสบอยู่นั้น ควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของจาก กรดอัลฟาไฮดรอกซี (Alpha Hydroxy Acids) หรือ AHA และกรดบีต้าไฮดรอกซี (Beta Hydroxy Acids ) หรือ BHA หรือรู้จักกันดีภายใต้ชื่อ กรดซาลิกไซลิก (Salicylic Acids) แม้ว่าสารทั้งสองชนิดจะช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าหรือเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดออกจากชั้นหนังกำพร้า เพื่อลดการเกิดสิวอุดตัน และ เผยผิวใหม่ แต่ยังไม่ควรใช้กับผิวที่เพิ่งผ่านมรสุมผิวไหม้แดด ผดผื่น หรือสิวอักเสบ ในช่วงเวลานี้จึงยังไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว หรือ ลอกผิว อาการที่พบบ่อย ๆ จากการใช้กกรดในการลอกผิวคือ เกิดการระคายเคือง อักเสบ แห้งลอก และมีรอยแดงนอกจากนั้นผิวที่บางลงจะทำให้ไวต่อแสงมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
การออกกำลังกายจะช่วยให้ระบบไหเวียนเลือดของเราทำงานได้ดี ช่วยให้เลือดขนส่งออกซิเจนและสารอาหารเข้าสู่ผิวได้ดีขึ้น ส่งผลให้ผิวเรามีความเปล่งปลั่ง มีความเรียบเนียนขึ้นค่ะ แต่ก็ต้องระวังว่าอย่าออกกำลังกายหักโหมมากเกินไป เพราะว่าอาจจะทำให้ร่างกายเครียด และเกิดผลเสียกับผิวได้
ทานอาหารที่เหมาะสม
เพื่อผิวเรียบเนียน ต้องอย่าลืมให้อาหารผิวจากภายในด้วย อาหารที่ควรกิน ถ้าอยากมีผิวที่เรียบเนียนขึ้นก็คือ อาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินเอ วิตามินบี1 วิตามินบี 6 วิตามินซี และวิตามินดี ที่ทั้งช่วยให้ผิวเรียบเนียนขึ้นและป้องกันจุดด่างดำได้ด้วย อาหารอีกอย่างที่อยากแนะนำก็คือพวกปลาทะเลที่อุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่จะช่วยให้ผิวเราชุ่มชื้นขึ้น และผัก ผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินซีก็จะช่วยให้ผิวเรากระจ่างใสขึ้นค่ะ และที่สำคัญอย่าลืมดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายด้วยนะคะ
ความสะอาดบนใบหน้า
ผิวที่เรียบเนียน ต้องเริ่มจากการมีผิวที่สะอาดจริงๆ ก่อนค่ะ เพราะการล้างหน้าที่สะอาด จะลดโอกาสการเป็นสิว พอสิวไม่มี หน้าก็ใส เกลี้ยงเกลา มีความเรียบเนียนขึ้น เคล็ดลับการล้างหน้าให้ผิวเรียบเนียนก็คือ ให้ใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่อ่อนโยน ปราศจากสารระคายเคืองอย่าง SLS, SLES เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการระคายเคือง ป้องกันผิวถูกทำร้าย และเพื่อรักษาความชุ่มชื้นเอาไว้ ล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น หรืออุณหภูมิห้อง อย่าล้างหน้าบ่อยเกินไป แค่ 2 รอบต่อวันก็เพียงพอแล้วค่ะ
ปกป้องผิวถูกทำร้ายจากแสงแดด
แสงแดดเป็นตัวต้นเหตุของปัญหาผิวคล้ำเสีย ริ้วรอย และสัมผัสผิวที่หยาบกร้าน เพื่อให้ผิวเราเรียบเนียนขึ้น ควรปกป้องผิวด้วยการทาครีมกันแดดเสมอค่ะ และหลีกเลี่ยงออกไปเจอแดดข้างนอกในช่วง 10 โมงเช้า – 4 โมงเย็น เพราะเป็นช่วงที่มีระดับรังสี UV ที่ค่อนข้างแรง ควรใช้ครีมกันแดดที่ป้องกันได้ทั้งแสง UVA (ค่า PA+++) แสง UVB (ค่า SPF 30-50) เพื่อการปกป้องรังสี UV ได้อย่างครอบคลุมค่ะ
ชีวิตในทุกวันของคนทำงานต้องรับมือกับความเครียดในหลายรูปแบบไม่ว่าจะรถติดตอนเช้า ฝุ่นควัน และมลภาวะระหว่างวัน ผิว เป็นสิ่งที่มองห้ามไม่ได้ปัญหาของฝ้า กระ จุดด่างดำ รอยสิว จ้ำแดง
ถ้าอยากมีผิวเรียบเนียน ก็ต้องเริ่มมาจากมีผิวที่สุขภาพแข็งแรงก่อนหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีสารระคายเคือง เพราะพวกนี้จะทำให้ผิวอ่อนแอ
เน้นหาครีมบำรุงที่เสริมความแข็งแรง กู้ ผิว แห้ง ให้กับผิวเรา พอผิวเราแข็งแรงขึ้น ก็จะช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ในผิวได้ดีขึ้นด้วย ทำให้ผิวเรามีสัมผัสที่เนียนนุ่มขึ้นอย่างสังเกตเห็นได้
อ่านเพิ่มเติม ได้ที่ บำรุงผิว ชุ่มชื้น
ติดตามอ่านบทความดีๆ ได้ที่ beautymustknow.com
กันแดด กันดะ มีวางจำหน่ายแล้วทั่วประเทศ สอบถามข้อมูลและเลือกซื้อสินค้าเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : https://www.facebook.com/pg/kandabeauty.company/ website : Kandabeauty.com
Comments