top of page
ค้นหา
รูปภาพนักเขียนniracha payyakul

บำรุงหน้า หมอง สีผิวไม่เสมอกัน สาเหตุและวิธีการรักษา

บำรุงหน้า หมอง สีผิวไม่เสมอกัน สาเหตุและวิธีการรักษา

ปัญหาหน้าหมองคล้ำนั้นเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุด้วยกัน บำรุงหน้า หมอง ไม่ว่าจะเป็นแสงแดด มลภาวะต่างๆ ความเครียด การนอนดึก รวมทั้งการไม่บำรุงดูแลผิวนั่นเอง ซึ่งล้วนแล้วแต่ส่งผลให้ผิวหน้าดูหมองคล้ำ ไม่มีสง่าราศี ทั้งยังแลดูไม่สดใส อีกทั้งเป็นต้นเหตุที่มาของปัญหาริ้วรอยและจุดด่างดำต่าง ๆ อีกด้วย

อยากมีหน้าขาว มีผิวสวยใสกันเป็นธรรมดาอยู่แล้ว หรือบางคนที่ไม่ได้อยากมีผิวขาวมากแต่ความกระจ่างใสมันก็สำคัญใช่ไหม แต่จะปล่อยให้ตัวเองหน้าโทรมหน้าหมองไม่ดูแลผิว ควรหาตัวช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้แก่ผิว ครีมบำรุงหน้า ผิวขาว กระจ่างใส ลดริ้วรอย ฝ้า กระ จุดด่างดำ ดูจางลง กระชับรูขุมขน ไม่อุดตันผิว ลดรอยแผลเป็น



สาเหตุหลักของหน้าหมองคล้ำ


แสงแดด

แสงแดดมีทั้งรังสี UVA และ UVB ที่จะทำลายเซลล์ผิวและทำให้ผิวหมองคล้ำขึ้นได้อย่างรวดเร็ว แม้การรับแสงแดดอ่อน ๆ ในยามเช้าช่วยให้ผิวหนังผลิตวิตามินดีซึ่งจำเป็นต่อพัฒนาการของกระดูกและสุขภาพของผิวหนัง แต่การรับแสงแดดที่ร้อนจ้าหรือถูกแดดเป็นเวลานานเกินไป อาจทำให้เกิดอันตรายต่อผิวได้ นอกจากทำให้หน้าหมองคล้ำ ผิวหยาบกร้าน มีจุดด่างดำ รังสียูวีจากแดดจะทำลายเส้นใยในผิวหนังหรืออีลาสตินทำให้ผิวหนังเริ่มหย่อนคล้อย เหี่ยวย่น เป็นริ้วรอย ขาดความกระชับตึง ดังนั้น การรักษาผิวให้กลับไปดีดังเดิมจึงเป็นไปได้ยาก และอาจเสี่ยงเป็นมะเร็งผิวหนังจากรังสียูวีได้ด้วยเช่นกัน


สภาพอากาศ

อากาศที่หนาวเย็นจะดูดซับความชุ่มชื้นไปจากผิว ทำให้ผิวแห้งและแตกเป็นขุย ส่งผลให้หน้าหมองคล้ำได้ แม้ไม่ได้อยู่ในสภาพอากาศเย็นจัด แต่การอยู่ในห้องแอร์เป็นเวลานาน ก็อาจทำให้ผิวแห้งได้ เนื่องจากอากาศภายในห้องมีความชื้นต่ำ โดยสภาพผิวที่แห้งมาก ๆ อาจทำให้เกิดปัญหาผิวอื่น ๆ ตามมาได้ด้วย เช่น ผิวแตก ผิวลอก มีผื่นคัน ผิวหนังอักเสบ เป็นต้น


การนอนดึก ไม่เป็นเวลา

นอนดึก นอนน้อยบ่อยๆ ก็เป็นสาเหตุทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำได้ การพักผ่อนที่ไม่เพียงพอส่งผลต่อผิวมากเกินกว่าที่เราคิด เพราะร่างกายจะหลั่ง Melatonin ฮอร์โมนที่ช่วยในการซ่อมแซมและดูแลร่างกายในช่วงเวลาที่เราหลับสนิท โดยเฉพาะหากหลับสนิทได้ในช่วงเวลาตั้งแต่ 22.00 – 02.00 น. ฮอร์โมนจะทำงานได้มีประสิทธิภาพมากที่สุด แต่หากเรานอนดึก อดนอน หรือนอนไม่เป็นเวลาในช่วงเวลาที่ฮอร์โมนเหล่านั้นทำงานไม่ได้รับการฟื้นฟูอย่างเต็มที่ ก็อาจทำให้ผิวหน้าไม่ได้รับการซ่อมแซมตามที่ควรจะเป็น จนส่งผลให้ผิวหน้าดูไม่สดชื่นสดใส ตาคล้ำหรือผิวหน้าโทรมและดูแก่ก่อนวัย ดังนั้นควรปรับพฤติกรรมการนอนใหม่ ด้วยการเข้านอนให้เร็วขึ้นและนอนให้เพียงพอในแต่ละวัน ซึ่งหากทำแบบนี้เป็นประจำ รับรองเลยว่าคุณจะมีผิวหน้าที่สวยใสและไม่มีปัญหาผิวหมองคล้ำมากวนใจอย่างแน่นอน


ความเครียด

ความเครียดไม่เพียงส่งผลต่อสุขภาพเท่านั้น แต่อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผิวหน้าดูหมองคล้ำ เพราะจะไปกระตุ้นให้เกิดการผลิตเม็ดสีเมลานินออกมามากกว่าปกติ จึงทำให้ผิวเกิดความคล้ำเสียอย่างเห็นได้ชัด ความเครียดส่งผลต่อสภาพจิตใจและก่อปัญหาต่อสุขภาพร่างกายของเราให้แย่ลงแล้วผิวแห้ง และอาจทำให้เกิดสิวได้อีกด้วย การที่เราสะสมความเครียดเอาไว้อยู่ตลอดเวลา จะทำให้ผิวพรรณหมองคล้ำ แลดูไม่มีชีวิตชีวา การทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกายผิดปกติ ทำให้เกิดสิว และริ้วรอยก่อนวัยได้ เนื่องจากเมื่อเผชิญความเครียดร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ซึ่งทำให้ต่อมไขมันใต้ผิวหนังผลิตน้ำมันออกมามากขึ้นจนทำให้เกิดสิวนั่นเอง ดังนั้นใครที่มักจะเครียดบ่อยๆ ก็ต้องพยายามลดความเครียดให้น้อยลงด่วนเลย ไม่เช่นนั้นต่อให้ใช้ครีมบำรุงหน้าขาวใสที่ดีแค่ไหนก็ไม่สามารถช่วยคุณได้


เครื่องสำอาง

การใช้เครื่องสำอางแต่งหน้า อาจจะทำให้สาวๆ ดูสวยและมั่นใจมากขึ้นก็จริง แต่ถ้าใช้แล้วไม่ล้างออกให้สะอาด มักจะเข้านอนทั้งที่ยังมีเครื่องสำอางอยู่บนใบหน้าเป็นประจำ ก็จะส่งผลให้เกิดการอุดตันรูขุมขนและทำให้ผิวหมองคล้ำได้ อีกทั้งยังก่อให้เกิดปัญหาสิวอีกด้วย ดังนั้นสาวๆ ที่ชอบแต่งหน้า ก็อย่าลืมล้างหน้าให้สะอาดทุกครั้งก่อนเข้านอน หรือก่อนที่จะทาครีมบำรุงหน้าขาวใสด้วย


ไม่รับประทานผักผลไม้

ผักผลไม้มีวิตามินที่ดีและเป็นประโยชน์ต่อการบำรุงดูแลผิว เช่น วิตามินซีที่ช่วยให้ผิวกระจ่างสดใส นอกจากนี้ผลไม้บางชนิดยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยชะลอวัย ลดริ้วรอย ดังนั้นการไม่รับประทานผักและผักผลไม้จึงทำให้ร่างกายขาดวิตามินที่มีประโยชน์ตามธรรมชาติ



การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวมากเกินไป

การใช้ทั้งคลีนเซอร์ ครีมบำรุงผิว หรือโลชั่น อาจทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำ เกิดอาการระคายเคืองและผิวลอกได้ เนื่องจากส่วนประกอบต่าง ๆ ในครีมทาผิว อาจมีปฏิกิริยากับสารบางชนิดจนส่งผลให้ประสิทธิภาพของครีมชนิดอื่น ๆ ลดลง เช่น การใช้ครีมที่มีส่วนผสมของกรดซาลิไซลิกหรือกรดไกลโคลิก จะลดประสิทธิภาพของผลิตภัณ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของเรตินอล ไฮโดรควิโนน หรือวิตามินซี เป็นต้น


การสูบบุหรี่

ควันบุหรี่ทำลายออกซิเจนในผิว ทำให้หน้าหมองคล้ำ แห้งกร้าน เหี่ยวย่น ดูแก่กว่าวัยและมีผิวมันมากกว่าผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ นอกจากนี้ นิโคตินในบุหรี่ยังทำให้เลือดไหลเวียนได้ไม่ดี และทำให้ประสิทธิภาพของหลอดเลือดในการดูดซับวิตามินเอลดลง ซึ่งเป็นสาเหตุของผิวแห้งและหยาบกร้าน


ดื่มน้ำน้อย

ร่างกายประกอบด้วยน้ำมากถึง 3 ใน 4 ส่วน หากร่างกายเกิดภาวะขาดน้ำอาจทำให้มีอาการปวดศีรษะ ไม่มีสมาธิ และอาจเกิดปัญหาผิวต่าง ๆ เป็นสาเหตุให้เราผิวแห้งกร้าน ผิวเหี่ยวย่น เกิดปัญหาผิวขาดน้ำ และส่งผลให้หน้าหมองคล้ำ ไม่สดใส ไร้ชีวิตชีวา ไม่มีความชุ่มชื้น ริมฝีปากแห้งแตกและผิวไม่เด้ง ทำให้ดูหน้าโทรมหรือแก่ก่อนวัย นอกจากนี้ ผิวหน้าซึ่งขาดน้ำเพราะดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไปและพักผ่อนไม่เพียงพออาจหมองคล้ำและหย่อนคล้อยได้


อายุ

วัยที่เพิ่มขึ้นทำให้ผิวเสื่อมสภาพลงได้ โดยผิวหน้าจะเริ่มมีริ้วรอย หย่อนคล้อย ขาดความกระชับ มีฝ้าและกระเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งผิวหน้าหมองคล้ำลงด้วย


การผลัดเซลล์ผิวช้า

โดยปกติเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วมักหลุดลอกออกไปได้เองและจะผลัดเซลล์ผิวใหม่ทุก 28 วัน แต่กระบวนการผลัดผิวที่เกิดขึ้นช้าอาจส่งผลให้หน้าหมองคล้ำและหยาบกร้านได้


ไม่ทาครีมกันแดด

แสงแดดมีรังสีที่ทำให้ผิวของเราแห้งกร้านและสร้างริ้วรอยที่ทำให้เราดูมีอายุเพิ่มขึ้น เพราะฉะนั้นเมื่อรู้ตัวว่าต้องออกแดดหรือผิวหน้าต้องกระทบกับแสงแดดเมื่อไหร่ เราจำเป็นที่จะต้องทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกครั้ง เพื่อช่วยป้องกันไม่ให้ผิวเสีย ใบหน้าหมองคล้ำ ดูโทรม และช่วยลดการเกิดริ้วรอยก่อนวัยด้วย


วิธีการรักษาหน้าหมอง


1.ทำความสะอาดให้หมดจด โดยการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับสภาพผิวหน้า รวมทั้งล้างหน้าให้ถูกวิธี จะช่วยให้ผิวกลับมาดูสดใส มีชีวิตชีวาได้ สิ่งสำคัญในการล้างหน้า สำหรับสาวๆ ที่แต่งหน้าจัด ห้ามละเลยการเช็ดเครื่องสำอางออกให้หมดจดก่อน โดยเช็ดด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเครื่องสำอางโดยตรง ให้ชุบผลิตภัณฑ์ด้วยแผ่นสำลีแล้วเช็ดจนทั่วทั้งเปลือกตา ริมฝีปากและผิวหน้าจนกว่าสำลีจะขาวสะอาด จากนั้นจึงล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่อ่อนโยน เหมาะสมกับสภาพผิว และอาจจะเช็ดหน้าอีกครั้งด้วยโทนเนอร์ตบท้ายก็ได้ แต่ควรเลือกใช้โทนเนอร์ประเภทปราศจากแอลกอฮอล์จะดีที่สุด ไม่เช่นนั้นจะทำให้ผิวแห้งตึง นำมาซึ่งริ้วรอยและปัญหาสิวภายหลัง


2.หมั่นดูแลผิวหน้าด้วยการพอกหน้าหรือมาร์คหน้าเป็นประจำ

โดยการนำผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนช่วยให้หน้ากระจ่างใสมากมาร์กหน้า หรือพอกหน้า ซึ่งจะช่วยให้ผิวหน้าขาวขึ้นได้ แต่ควรทำเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ เพื่อผลลัพธ์ที่ดี นอกจากนี้ยังสามารถนำผลไม้ หรือของใช้ใกล้ตัวมาบำรุงผิวได้อีกด้วย เช่น มะเขือเทศ แตงกวา น้ำผึ้ง โยเกิร์ต กล้วย เป็นต้น โดยการนำมามาร์คหน้าทิ้งไว้ประมาณ 15 – 20 นาที จะช่วยให้ผิวหน้านุ่มชุ่มชื่น แลดูกระจ่างใสขึ้น


3.ครีมบำรุงผิวหน้า

เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับผู้มีปัญหาหน้าหมองคล้ำ โดยหมั่นทาเป็นประจำหลังการอาบน้ำ หรือล้างหน้า โดยเลือกครีมบำรุงที่มีส่วนช่วยในการฟื้นฟูผิว ให้กลับมาขาวกระจ่างใส อาการขี้เกียจลงครีมบำรุงผิวหน้า ใช้เวลานอนเสียเวลาเนี่ยเข้าใจได้ว่าเกิดจากความเหนื่อยล้าจากกิจกรรมประจำวัน ไม่ว่าจะเรื่องงานที่ต้องทำทั้งวัน หรือคร่ำเคร่งกับการเรียนอย่างหนัก ส่งผลให้หมดแรงเมื่อกลับถึงบ้าน แต่ฝืนใจตัวเองสักนิดแล้วหันมาให้ความสำคัญกับบำรุงผิวหน้ากันสักหน่อย ถ้าคุณต้องการทำหน้าใส วิธีนี้จะช่วยให้ใบหน้ากระจ่างเนียนใส แลดูอ่อนเยาว์อยู่เสมอ


4.อบไอน้ำผิว

การอบไอน้ำผิวก็จะทำให้หน้าขาวใสได้ด้วย โดยคุณสามารถทำเองได้ที่บ้าน ไม่ต้องเสียเวลาไปทำที่คลินิกหรือสถานเสริมความงามให้ยุ่งยาก เพียงนำหม้อขนาดพอเหมาะสักใบมาต้มน้ำให้เดือดจัด จะเห็นว่ามีไอน้ำพุ่งขึ้นมาจากหม้อ ก็ให้คุณยื่นหน้าเข้าไปอังไอน้ำนั้นได้เลย โดยทำแบบนี้วันละครั้งจะพบว่าใบหน้าดูขาวกระจ่างใสขึ้น รูขุมขนกระชับ แถมผิวยังมีความเนียนนุ่มมากกว่าเดิมอีกด้วย ที่สำคัญไม่ต้องเสียเงินเข้าสถานความงามเลยล่ะ เพราะฉะนั้นต้องลองทำตามกันดูแล้วคุณจะโดนใจกับผลลัพธ์ที่ได้อย่างแน่นอน


5.ทานอาหารที่มีวิตามินซี

วิธีนี้เหมาะสำหรับคนที่ไม่อยากใช้ครีมบำรุงหน้าขาวใส และต้องการมีผิวหน้าที่ขาวใสจากภายในสู่ภายนอก โดยให้เน้นทานอาหารที่มีวิตามินซีสูงเป็นหลัก เช่น ส้ม สตรอว์เบอร์รี่ สับปะรด และมะละกอ เป็นต้น นอกจากนี้ก็อาจทานวิตามินซีในรูปแบบอาหารเสริมร่วมด้วยก็ได้ แต่ต้องเลือกยี่ห้อที่น่าเชื่อถือ มีความปลอดภัยจริง และทานตามคำแนะนำข้างกล่องอย่างเคร่งครัด เพราะการทานวิตามินซีเสริมผิดวิธีหรือทานมากเกินไป ก็อาจเกิดผลเสียได้เหมือนกัน นอกจากนี้วิตามินซีก็จะช่วยบำรุงผิว ลดรอยดำรอยแดงจากสิว และชะลอการเกิดริ้วรอยได้อย่างดีเยี่ยม ดังนั้นห้ามพลาดที่จะทานวิตามินซีให้เยอะๆ เลยเชียว


6.บำรุงผิวด้วยครีมที่มีไวท์เทนนิ่ง

นอกจากเลือกทานอาหารที่อุดมไปวิตามินซีที่ช่วยหน้าขาวใส ก็มีครีมบำรุงที่มีส่วนผสมของไวท์เทนนิ่งที่จะทำให้ใบหน้าของคุณขาวกระจ่างใสขึ้นอย่างทันใจ เพียงทาครีมบำรุงเป็นประจำทุกวัน ก็จะทำให้คุณมีผิวที่ขาวใสได้ไม่ยาก นั่นก็เพราะไวท์เทนนิ่งมีส่วนช่วยในการบำรุง และปรับสีผิวที่คล้ำให้ขาวขึ้นโดยตรง


7.ปรึกษาแพทย์ แนะนำให้ไปพบคุณหมอผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณและความงามเพื่อแก้ปัญหาผิวหน้า และการทำหน้าใสกันบางกรณีอาการผิวแห้งและใบหน้าหมองคล้ำอาจเกิดจากปัญหาสุขภาพได้ เช่น โรคเบาหวาน หรือโรคไต การไปพบแพทย์เพื่อตรวจและรับการรักษาอย่างเหมาะสมอาจช่วยบรรเทาอาการและทำให้ผิวหน้ากระจ่างใสขึ้นได้


8.เสริมความงามและศัลยกรรม หากใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหรือแก้ปัญหาหน้าหมองคล้ำด้วยวิธีต่าง ๆ แล้วไม่ได้ผล อาจปรึกษาผู้เชี่ยวชาญและแพทย์ผิวหนัง เพื่อหาวิธีที่เหมาะสมในการรักษาดูแลผิวหน้าให้กระจ่างใส เช่น เลเซอร์หน้าใส เลเซอร์ขนหน้า ทรีทเมนต์ กรอผิว



การดูแลผิวหน้าอย่างเหมาะสมสม่ำเสมอ หรือเทคโนโลยีต่าง ๆ ทางการแพทย์ในปัจจุบันอาจช่วยแก้ไขปัญหาหน้าหมองคล้ำให้ผิวหน้ากลับมาขาวใสได้อีกครั้ง แต่การดูแลผิว ครีมบำรุงหน้า เป็นประจำทุกครั้ง เพื่อจะได้ป้องกันผิวและไม่ทำให้ผิวหน้ากลับมาหมองคล้ำอีก


ถึงแม้จะใช้ครีมบำรุงหน้าที่เหมาะสมกับสภาพผิวแล้ว แต่หากสาวๆละเลยการทาครีมกันแดดในนทุกๆวันก็เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้หน้าหมองคล้ำได้เหมือนกัน ซึ่งสาเหตุหลักก็เป็นเพราะรังสียูวีและแสงสีฟ้าจากหน้าจอ ทางที่ดีควรทาครีกกันแดดที่ป้องกันได้ทั้งรังสีญุวีเอและยูวีบี และรังสีจากปลอดไฟ ก็สามารถช่วยปกป้องผิวไม่ให้คล้ำสะสมได้ ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้ออกไปเผชิญกับแสงแดดภายในอาคารก็ตาม

ผิวหน้าหมองคล้ำนั้น เกิดได้จากหลายสาเหตุด้วยกันแต่สามารถป้องกันผิวได้ สเปรย์กันแดด สำหรับผิวหน้า ควรทากันแดดทุกครั้งที่ออกจากบ้านและหลีกเลี่ยงแดดจัด โดยการใส่เสื้อแขนยาวหรือพกหมวกปีกกว้าง


 

อ่านเพิ่มเติม ได้ที่ บำรุงหน้า หมอง

ติดตามอ่านบทความดีๆ ได้ที่ beautymustknow.com

กันแดด กันดะ มีวางจำหน่ายแล้วทั่วประเทศ สอบถามข้อมูลและเลือกซื้อสินค้าเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : https://www.facebook.com/pg/kandabeauty.company/ website : Kandabeauty.com

ดู 2 ครั้ง0 ความคิดเห็น

Comments


bottom of page