ผิว หย่อนคล้อย ริ้วรอยเหี่ยวย่น ผิวแห้ง ปัญหาผิวหน้า
หลายคนประสบปัญหาอายุผิวหน้า เรามาเช็คสัญญาณเตือน ผิว หย่อนคล้อย ริ้วรอยเหี่ยวย่น ผิวแห้ง รูขุมขนกว้าง ปัญหาผิวหน้า ผิวที่ดูแก่กว่าอายุจริง เกิดปัญหาจากปัจจัยภายในร่างกายและภายนอกร่วม ซึ่งการดูแลผิวอย่างถูกวิธี จะช่วยลดปัญหาผิวแก่ก่อนวัยได้ มาเริ่มต้นรับมือกับปัญหาผิวแก่ โดยการเช็คสภาพผิวง่ายๆ จากสัญญาณเตือนที่ผิวฟ้อง ด้วยตัวเองกัน
ควรหันมาให้ความสำคัญกับการใช้เซรั่มเพราะเซรั่มมีลักษณะเด่นตรงที่มีส่วนผสมที่เข้มข้นเนื้อสัมผัสที่เบากว่าครีมเพราะมีขนาดโมเลกุลที่เล็กจึงเติมอาหารเข้าสู่ชั้นผิวได้อย่างล้ำลึก ทำให้ผิวหน้ามีความกระจ่างใสไร้ริ้วรอยฝ้ากระจุดด่างดำ อยากมีผิวแข็งแรงผิวสวยขึ้นต้องเพิ่มการ บำรุงผิว ด้วยเซรั่มเท่านั้นค่ะด้วยเนื้อสัมผัสที่บางเบาไม่ใช่แค่ไม่ทำให้เกิดสิวเท่านั้น แต่ทาแล้วไม่ทำให้หน้ามันปรับผิว ทำให้ริ้วรอยดูจางลงเพราะว่าเซรั่มซึมเข้าสู่ผิวอย่างรวดเร็วไม่ทิ้งความเหนอะหนะให้ผิวและเซรั่มมีหน้าที่กระตุ้นการสร้างความชุ่มชื้นให้สำหรับผิวที่ขาดน้ำสร้างสมดุลให้ผิวสุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอก
เช็ค 5 สัญญาณเตือน ปัญหาผิว
ผิวแห้งและหมองคล้ำ
คอลลาเจนเสื่อมถอยไปตามอายุที่มากขึ้นทำให้ผลิตไขมันได้น้อยลงผิวจึงเกิดอาการแห้งขาดน้ำและปัจจัยอื่น ๆ เช่นแสงแดดความเครียดการดื่มน้ำน้อยล้วน แต่เป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวแห้งและหมองคล้ำลง
รูขุมขนกว้าง
ผิวไม่เรียบเนียนปริมาณน้ำมันใต้ผิวที่คุมไม่ได้ผิวขาดความสมดุลของน้ำและปัญหาผิวจากกรรมพันธุ์เป็นสาเหตุให้รูขุมขนขยายกว้างขึ้นได้ส่งผลให้สภาพผิวภายนอกดูมัน แต่ใบหน้าเป็นริ้วรอยต่างๆผิวดูไม่เรียบเนียนอย่างเห็นได้ชัด
ผิวหย่อนคล้อย
ผิวหนังที่เคยสวยเต่งตึงกลับเริ่มอ่อนแอลงใบหน้าเริ่มสูญเสียสมดุลทำให้หางตาตกแก้มหย่อนคล้อยผิวหนังบริเวณลำคอไม่กระชับนับเป็นความกังวลใจของหลาย ๆ คนที่เกิดจากความเสื่อมของคอลลาเจนและอีลาสตินตามวัยริ้วรอยเหี่ยวย่นเกิดรอยใต้ผิวหนังเพราะกล้ามเนื้อใบหน้าเคลื่อนที่ไปในทิศทางเดิมซ้ำ ๆ เมื่อผิวหนังสูญเสียความยืดหยุ่นและไม่สามารถดึงตัวกลับเพราะอายุที่มากขึ้นร่องรอยดังกล่าวจึงปรากฏขึ้นอย่างถาวรให้เห็นเป็นเส้นบาง ๆ
ริ้วรอยเหี่ยวย่น
เกิดรอยใต้ผิวหนังเพราะกล้ามเนื้อใบหน้าเคลื่อนที่ไปในทิศทางเดิมซ้ำ ๆ เมื่อผิวหนังสูญเสียความยืดหยุ่นและไม่สามารถดึงตัวกลับเพราะอายุที่มากขึ้นร่องรอยดังกล่าวจึงปรากฏขึ้นอย่างถาวรให้เห็นเป็นเส้นบาง ๆ หรือเป็นร่องลึกบริเวณรอบดวงตาปากและลำคอ
ฝ้ากระจุดด่างดำ
ด้วยรังสี UV และความร้อนจากจอคอมพิวเตอร์การพักผ่อนน้อยหรือเครียดสะสมรบกวนเมลานีนบนใบหน้ากระตุ้นเม็ดสีผิวทำงานผิดปกติจนกระทั่งสะสมในเซลล์ผิวหนังทำให้ผิวหน้ามีรอยด่างดำเกิดเป็นฝ้าได้
ล้างหน้า VS ทาครีม
เคยได้ยืนกันใช่ไหมว่า การล้างหน้าให้ล้างตามแนวรูขุมจน ส่วนการทาครีมให้ทาย้อนแนวโพรงรูขุมขน การล้างหน้าของหลายๆคนชอบ ถูขึ้น-ลง บางคนถูวนทั่วใบหน้า แม้การล้างแบบนั้นจะสร้างก็จริงแต่ก็ไม่ได้ชะล้างสิ่งสกปรกที่อุดตันในรูขุมขนอย่างหมดจด แถวการถูวนยังเป็นตัวการของริ้วรอยด้วย มาดูวิธีการล้างหน้าและทาครีมแบบแบบถูกต้องกัน
1.ล้างหน้าตามแนวโพรงขน
จะช่วยให้ไม่เกิดสิว เพระาไม่ทำให้สิ่งสกปรกย้อนกลับเข้าไปในรูขุมขนแถมเป็นการถูล้างแบบทางเดียวจ ลดโอกาสการเกิดของริ้วรอย หลังจากชโลมใบหน้าด้วยน้ำแล้วบีบโฟมลงบนฝ่ามือถุให้เกิดฟองแล้วนำฟองมาแต้มบนใบหน้า 5 จุด หน้าผาก/แก้มทั้ง2ข้าม/จมูก/และคาง ต่อมาทำการถูล้างให้เป็นทางเดียวกันไม่ถูย้อนขึ้น โดยถูจากหน้าแก้มออกไปทางกรอบหน้าในทิศทางลงถูจมูกในแนวดิ่งจากหว่างคิ้วลงมาที่ปลายจมูกถูหน้าผากจากกึ่งกลางออกไปยังไรผมด้านข้างและถูคางจากใต้ริมฝีปากลงไปยังสุดปลายคาง สุดท้ายล้างน้ำออกโดยใช้ทิศทางเดียวกับตอนถูล้างด้วยโฟมจากนั้นซับใบหน้าเบา ๆ ให้แห้ง
2.ทาครีมย้อนแนวโพรงรูขุมขน
สาว ๆ หลายคนอาจจะสงสัยว่าแค่ทาครีมให้ผิวชุ่มชื้นแถมครีมที่ใช้ยังช่วยลดริ้วรอยได้ด้วยทำไมผิวยังมีริ้วรอยบาง ๆ อีกล่ะนั่นเพราะว่าทิศทางการทาครีมที่เราทำเป็นประจำอาจจะต้องค่ะ อาจจะทาแบบวนรอบผิวซึ่งนั่นเป็นวิธีการที่ผิดและอาจก่อให้เกิดริ้วรอยได้วิธีการทาครีมให้ถูกคือการทาย้อนผิวค่ะ
แต้มครีม 5 จุดทั่วใบหน้าคือแก้มทั้ง ข้างปลายจมูกปลายคางและหน้าผากเพื่อให้ทาครีมได้สม่ำเสมอทั่วทั้งหน้า ใช้นิ้วกลางและนิ้วนางเกลี่ยครีมจากกึ่งกลางออกไปยังด้านข้างโดยทาย้อนขึ้นเพื่อยกกระชับผิวหน้า อย่าถูไป-มาหรือถูวนไม่งั้นจะเกิดริ้วรอยให้ทาไปในทิศทางเดียวกันจนครีมซึมซาบสู่ผิวจนหมด ส่วนรอบดวงตาให้ใช้นิ้วนางค่อยๆไล้ครีมจากหางตาลงมายังใต้ตาไล่ไปยังหัวตาแล้วค่อยๆทาจากหัวตาไปยังเปลือกตาแล้วจบที่หางตา
การล้างหน้าผิดอยู่หรือไม่
1.ล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น >> อาจจะง่ายสำหรับคนที่อาบน้ำอุ่นอยู่แล้วแต่อย่างไรก็ตามเราอยากให้หลีกเลี่ยงเพราะส่งผลเสียต่อผิวหลายประการ ไม่ได้ช่วยเปิดรูขุมขนให้ล้างหน้าสะอาดขึ้น แต่ทำให้หน้าแห้งตึงเกินไป ทำให้หน้าแห้งหยาบ และรูขุมขนกว้าง ถ้าล้างติดต่อกัน ในบางรายถ้าเป็นสิวอาจทำให้เกิดการอุดตันมากขึ้น ผิวอาจจะแห้งและลอก
- การล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น จะช่วยให้รูขุมขนขยายตัวได้ดี ช่วยให้เราทำความสะอาดผิวหน้าได้ดีขึ้น - สำหรับบางรายอาจทำให้รูขุมขนอุดตันได้ง่ายขึ้นเพราะสิ่งสกปรกเข้าไปในรูขุมขนที่เปิดได้ง่าย - ทำให้ผิวแห้งหยาบกร้าน เพราะผิวสูญเสียน้ำในผิวไปกับความร้อน - การล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นบ่อยๆทำให้รูขุมขนขยายตัว
หลีกเลี่ยงการล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นไม่ได้ หลังจากล้างหน้าแล้วก็ให้ใช้น้ำอุณหภูมิห้องหรือน้ำเย็นปิดท้ายให้รูขุมขนกระชัยตัวแล้วตามด้วยการใช้ครีมบำรุงผิวที่ให้ความชุ่มชื่นอย่างพอเหมาะ
2.ล้างหน้าบ่อยเกิน >> ทำให้หน้ามันกว่าเดิมและยังทำใหเกิดสิวตามมา ปัจจุบันก็ยังมีคนที่เข้าใจผิดเกี่ยวกับการล้างหน้าว่า ถ้ายิ่งเป็นสิว หรือหน้ามัน ก็ยิ่งต้องล้างหน้าบ่อยๆ และใช้เวลานานๆ ผิวหน้าจึงจะสะอาดหมดจด ไร้สิ่งสกปรกตกค้างบนผิว จากความเข้าใจผิดนี้ส่งผลร้ายต่อผิวอย่างคาดไม่ถึง เพราะความจริงแล้ว การล้างหน้านานๆ และล้างบ่อยเกินไป แทนที่จะเป็นจุดเริ่มต้นดีๆ ของการมีผิวสวย อาจกลับกลายเป็นสร้างความซวยให้ผิว ยังไม่สายเกินไปที่จะมาทำความเข้าใจใหม่ด้วยเหตุผลดีๆ ที่เราคัดสรรมาฝากเกี่ยวกับการล้างหน้าที่ถูกต้องเหมาะสม
- ล้างหน้าเช้า-เย็นพอ นอกเหนือจากนั้นหากจำเป็นจริงๆล้างน้ำเปล่าดีกว่า - ใช้สบู่อ่อนๆพอ หลีกเลี่ยงโฟมค่ะ พวกเซตาฟิล เจลล้างหน้าอ่อนๆที่ขายตามคลีนิค - สัญญานเตือนว่าคุณผิวแห้งขาดน้ำคืออาการคันยิบ สิวผดคล้ายๆสิวอุดตันแต่ไม่มีหัว ขึ้นเป็นเม็ดเล็กๆกระจายทั่วบริเวณที่คัน - หากใช้พวกBPก่อนล้างหน้า ให้ลดเวลาลงค่ะ ทิ้งไว้นานหน้าแห้งแสบเปล่าๆ - หากใช้ฟิมซับมันลองเปลี่ยมาใช้แบบกระดาษซับมันค่ะ เนื่องจากแบบฟิมซับมันได้ดีเกินไป หรือใช้ฟิมให้หน้าพอหายเหนี่ยว อย่าให้เกลี้ยงทุกรูขุมขนเลยค่ะ - บำรุงด้วยมอยเจอร์
3.ล้างหน้าทันทีหลังออกกำลังกาย >> หลังออกกำลังกายผิวกำลังขับของเสียออกมา รีบล้างหน้ารูขุมขนหดปล่อยของเสียยาก เพราะในเวลาที่เราออกกำลังกาย มีเหงื่อและไขมันถูกขับออกมาจากรูขุมขน ทำให้หน้ามันมาก ซึ่งแน่นอนทุกคนทราบว่าอาการหน้ามันทำให้เกิด สิว ได้ง่าย รีบไปล้างหน้าทันทีหลังจากเล่นกีฬาเสร็จ เพื่อขจัดความมันบนใบหน้า แต่ เชื่อหรือไม่ว่ามันอาจเป็นวิธีที่ผิด เพราะการล้างหน้าแบบนี้ อาจทำให้เกิด สิวได้
-ควรรอจนเหงื่อหยุดไหล เสียก่อน
-พักประมาณ 20 -30 นาที ให้ผิวหนังแห้ง
-รอร่างกายกลับสู่อุณหภูมิปกติ ค่อยล้างหน้า
-ทำการล้างหน้าด้วยสารทำความสะอาดที่อ่อนโอนต่อผิว
4.ล้างหน้าด้วยฝักบัว >> ฝักบัวแรงดันมากเกินไป ทำลายความมันที่มีประโยชน์บนใบหน้า ยิ่งผิวบอบบางจะยิ่งกระทบหน้า เอาฝักบัวทารดที่หน้าโดยตรง การที่เราเอาน้ำแรงๆมาล้างหน้าจะทำให้ผิวของเราระคายเคือง ใครที่ผิวแห้งรูขุมขนจะกว้างขึ้นด้วย การล้างหน้าด้วยฝักบัวยิ่งทำให้รูขุมขนกว้างกว่าเดิม เมื่อรูขุมขนกว้างกว่าเดิมผลให้ไขมันหรือสิ่งสกปรกไปอุดตันได้ง่าย ก่อให้เกิดสิวง่ายกว่าเดิม ใช้น้ำชะโลมล้างหน้าอย่างเบามือ
5.ใช้ผ้าเช็ดตัวซับหน้า >> ผ้าเช็ดตัวเป็นแหล่งเพราะเชื้ออย่างดี ควรหากระดาษมาซับหน้าแทน เราใช้เช็ดทำความสะอาดซับน้ำภายหลังการอาบน้ำทุกวันนั้น สามารถกักเก็บเชื้อโรคไว้ได้มากขนาดไหน ใช้ผ้าเช็ดตัวหลังการอาบน้ำ ซึ่งกว่าจะอาบน้ำเสร็จเราก็สะอาดใสปิ๊งแล้ว จะทำให้ผ้าเช็ดตัวสกปรกได้อย่างไร เราขอบอกเลยว่าคุณคิดผิดถนัด เพราะเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา เซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วก็ยังสามารถติดไปกับผ้าเช็ดตัวได้ แล้วยิ่งถ้าผ้าเช็ดตัวที่คุณใช้ตากในที่อับชื้น ไม่ได้รับแสงแดด เชื้อแบคทีเรียก็ยิ่งเจริญเติบโตได้ดี และอาจเข้าสู่ร่างกายผ่านบาดแผลบนตัวคุณได้ด้วย ให้ใช้ผ้าเช็ดหน้าแยกกับผ้าเช็ดตัว
การเช็ดหน้า
การถูหน้าแรงๆ >> การถูหน้างแรงทำให้ผิวถูกขีดข่วน ผิวหน้าอ่อนแอได้และเกิดริ้วรอยได้โดยไม่รู้ตัว ควรกระทำผิวหน้าอย่างเบามือเป็นการดีที่สุด
การถูหน้าวน >> การถูหน้าวนๆจะทำให้คราบสิ่งสกปรกวนกลับมาไปตกค้างในรูขุมขนเช่นเดิม แนะนำให้ล้าวหน้าตามแนวโพรงขนจะดีที่สุด
ปล่อยให้มันแห้ง >> หลังล้างหน้าควรซับน้ำให้แห้งทันที หากปล่อยให้น้ำระเหยเอง ผิวจะแห้งตึงเพราะความชุ่มชื้นของผิวจะหายไป
การถูหรือเช็ดหน้าแรง ๆ เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวได้ เพราะผิวที่เป็นสิวจะตอบสนองไว เมื่อโดนกระตุ้นบ่อย ๆ ก็จะทำให้สิวลุกลามไปมากขึ้นจนสิวอุดตันไม่ยอมหายสักที แถมการเช็ดหน้าแรง ๆ อยากทำให้เกิดสิวผดตามมาได้ด้วยค่ะ เพราะฉะนั้นใครที่เป็นสิวก็ไม่ควรทำอะไรรุนแรงกับผิวหน้าเด็ดขาด ใช้ผ้าเช็ดหน้าซับเอาน้ำออกอย่างนุ่มนวลก็พอค่ะ ที่สำคัญไม่ควรเอามือไปสัมผัสหน้าบ่อยๆนะคะ เพราะอาจจะเป็นการแพร่เชื้อสิวได้ค่ะ
โฟมล้างหน้าแบบไหนดีกับผิว
หน้าเอื๊ยด >> ทำลายสารเคลือบผิวตามธรรมชาติ สูญเสียความชุ่มชื้น หน้ามันเยิ้มมากกว่าเดิม ผิวผลิตน้ำมันออกมามากขึ้น สาเหตุของสิวอักเสบ
หน้าไม่เอี๊ยด >> ไม่ทำลายความมันตามธรรมชาติ คงความชุ่มชื้นให้ผิว คงความสมดุลของผิว ไม่ทำให้ผิวแห้งตึง ไม่สร้างความระคายเคืองให้แก่ผิว
ล้างหน้าที่ดี ไม่ควรจะล้างหน้าให้ผิวสะอาดเกินไป เพราะการที่ล้างหน้าจนผิวเอี๊ยดหลายๆคนคิดว่าผิวสะอาดแต่รู้ไหมว่า การที่ล้างจนผิวเอี๊ยดคือการล้างไขมันดีบนผิวหน้าออก >> ผลที่ตามมาคือ หน้าแห้ง ผิวขาดน้ำ ดังนั้นไม่อยากหน้าแห้งกร้านขาดสมดุลผิว พยายามเลี่ยงโฟมล้างหน้าที่ทำให้ผิวเอี๊ยดน้าาา
ใครก็อยากมีใบหน้าที่ดูเด็กกว่าวัยทั้งนั้น แต่หลายท่านอาจจะไม่ทราบว่าอาหารเมนูเด็ดที่หลาย ๆ ท่านโปรดปรานนั้นเป็นสาเหตุหนึ่งที่ เร่งหน้าแก่ก่อนวัยมาดูกันค่ะว่าเมนูไหนบ้างที่ควรจะเลี่ยงถ้าอยากมีผิวหน้าเด็ก
เมนูไหนบ้างที่ควรจะเลี่ยง
อาหารรสจัด
การทานอาหารรสเผ็ดจัดหวานจัดเค็มจัดหรือรสเปรี้ยวจี๊ดล้วนสร้างผลเสียทั้งนั้นค่ะเช่นอาหารรสหวานจัดทำให้เซลล์ผิวเสื่อมสภาพเหี่ยวย่น ขาดคอลลาเจนส่วนอาหารเค็มจัดทำให้ ผิวหนังแห้งกร้านเพราะร่างกายต้องดูดซับน้ำออกมามากกว่าปกตินั่นเองค่ะ
อาหารสำเร็จรูป
ส่วนมากมักผสมสารโซเดียมซัลไฟต์หรือวัตถุกันเสียไม่ว่าจะเป็นอาหารแปรรูปอาหารแช่แข็งอาหารกระป๋องรวมถึงบะหมี่สำเร็จรูปซึ่งสารเหล่านั้นจะไปกระตุ้นให้ผิวพรรณของเราเหี่ยวย่นและทิ้ง ริ้วรอยก่อนวัยอันควร
อาหารปิ้งย่าง
กรมอนามัยกระทรวงสาธารณสุขระบุว่าการทานอาหารปิ้งย่างเสี่ยงต่อการได้รับสารพีเอเอชที่ลอยขึ้นมาเกาะผิวอาหารก่อให้เกิด โรคมะเร็งได้และอาหารที่ไหม้เกรียมมีสารไฮโดรคาร์บอนซึ่งเป็นสารอนุมูลอิสระ ทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำและผิวไม่กระชับ
เครื่องดื่มคาเฟอีน
ไม่ว่าจะเป็นชากาแฟน้ำอัดลมเครื่องดื่มชูกำลังล้วนมีสารที่ทำให้ร่างกายตื่นตัวคือเอพิเนฟรีนหรืออะดรีนาลีน ทำให้ผิวหย่อนคล้อยและคาเฟอีนตัวร้ายจะดูดซับแร่ธาตุและวิตามินต่าง ๆ ออกจากร่างกายเราอีกด้วยค่ะ
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
หากดื่มเป็นประจำระบบการทำงานของอวัยวะภายในจะทำงานหนักขึ้นหลายเท่าโดยเฉพาะ "ตับ" ที่ทำหน้าที่ขับของเสียออกจากร่างกายจึงส่งผลให้ร่างกายและใบหน้าของเรานั้นไม่สดใส หมองคล้ำและ เหี่ยวย่นนั่นเองค่ะ
น้ำหวานหรือของหวาน
การทานอาหารที่มีน้ำตาลเป็นส่วนประกอบนั้นเมื่อน้ำตาลเข้าสู่ร่างกายจะเกิดกระบวนการที่เรียกว่า AGEs เข้าไป ทำลายเส้นใยคอลลาเจนที่มีหน้าที่รักษาความกระชับและความยืดหยุ่นของผิวหนังส่งผลให้ ผิวแห้ง หย่อนคล้อยและเกิดริ้วรอยตามมาค่ะ
ไม่อยากหน้าแก่ก่อนวัย หน้าโทรมอย่ามองข้ามการบำรุงรอบดวงตา หลังจากเราอาบน้ำหรือล้างหน้า เราควรรีบทาครีม บำรุงผิว ลงสกินแคร์ทันที ควรจะลงภายใน3นาที เพราะผิวหลังล้างหน้ากำลังกักเก็บน้ำได้ดี ถ้าเราปล่อยทิ้งไว้จะทำให้สูญเสียน้ำที่ผิวออกไป แต่ถ้าเราบำรุงภายใน3นาที ผิวก็จะสามารถกักเก็บความชุ่มชื่นเหล่านั้นได้
เป็นเรื่องยากใช่ไหมล่ะคะถ้าจะให้เลี่ยงเมนูโปรดทั้งหลายที่กล่าวไป แต่หากทุกท่านอยากมีผิวสวยและสุขภาพดีนั้นก็ต้องพยายามลดหรือเลี่ยงให้ได้มากที่สุดนะคะ
นี่จึงเป็นเหตุผลที่ผู้หญิงหลายคนที่รักในการดูแลตัวเอง หันมาดูแลผิวและ สิว ลดจางลง เติมคอลลาเจนทั้งดูแลของเดิมที่มีปัญหาอยู่แล้วและเติมเต็มไม่ให้ขาดหายไปเมื่ออายุเริ่มมากขึ้น
อ่านเพิ่มเติม ได้ที่ ผิว หย่อนคล้อย
ติดตามอ่านบทความดีๆ ได้ที่ beautymustknow.com
กันแดด กันดะ มีวางจำหน่ายแล้วทั่วประเทศ สอบถามข้อมูลและเลือกซื้อสินค้าเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : https://www.facebook.com/pg/kandabeauty.company/ website : Kandabeauty.com
Comments