top of page
ค้นหา
รูปภาพนักเขียนniracha payyakul

ผิวดี สวยกรุบ เนียนกริ๊บ กันแดดโทนอัพแบบไอดอลเกิร์ลกรุ๊ป

ผิวดี สวยกรุบ เนียนกริ๊บ กันแดดโทนอัพแบบไอดอลเกิร์ลกรุ๊ป


อากาศในช่วงหน้าหนาวที่อากาศเย็น ๆ แบบนี้แหละจึงทำให้ผิวของเราแห้งเสียเอาง่าย ดูแล ผิวดี สวยกรุบ เนียนกริ๊บ สำหรับคนผิวแห้ง และผิวธรรมดา ควรใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ประเภทเนื้อครีมในการบำรุงผิวให้ความชุ่มชื้นยาวนาน และช่วยเคลือบผิว ลดการสูญเสียน้ำให้ผิว เหมาะกับสภาพผิวที่ขาดความชุ่มชื้นได้ง่าย



โรคผิวหนังบางโรคมีอาการกำเริบขึ้นในช่วงหน้าหนาว เช่น โรคภูมิแพ้ผิวหนังในเด็ก ทำให้เกิดอาการผิวแห้ง ผื่นแดง คัน กำเริบ ประกอบกับเด็กบางคนไม่ได้อาบน้ำในช่วงที่อากาศเย็น ทำให้แบคทีเรียที่ผิวหนังเพิ่มขึ้น เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้โรคกำเริบ โรคเซบเดิมหรือผื่นแพ้ต่อมน้ำมัน อาการผื่นแดงลอกเป็นขุยที่บริเวณไรผม ร่องแก้ม ข้างจมูก รูหู จะกำเริบมากขึ้นในช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลง นอนดึก พักผ่อนน้อย ดื่มเหล้า การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อผิวร่วมกับทาครีมบำรุง จะช่วยควบคุมอาการของโรค


ผิวแห้งควรใช้ครีมทาผิวแบบไหน ?


1.ครีมทาผิวที่มีสาร Humectant : Humectant คือสารดูดความชื้น เช่น Hyaluronic Acid, Glycerin, Urea โดยเค้าจะทำหน้าที่ดักจับความชื้นจากอากาศและสิ่งแวดล้อมให้เข้ามาอยู่ในผิวของเรา หรือที่เราได้ยินกันบ่อย ๆ ว่า เติมน้ำให้ผิวนั่นแหละค่ะ

2.ครีมทาผิวที่มีสาร Occlusive : สาร Occlusive เช่น Petroleum Jelly, Mineral Oil, Ointment จะเป็นตัวสร้างปราการปกป้องผิว ไม่ให้ผิวสูญเสียน้ำ ซึ่งเมื่อทาสาร Occlusive ลงไปแล้ว น้ำจะไม่สามารถระเหยออกจากผิวได้เลย นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมตัวเขาถึงกักเก็บความชุ่มชื้นให้ผิวได้เป็นเวลานาน

3.ครีมทาผิวที่มีสาร Emollient : สาร Emollient เช่น Ceramides, Lanolin, Jojoba Oil นั้น ควบ 2 ฟังก์ชั่นกันไปเลยค่ะ เพราะทำหน้าที่เป็น Occlusive ด้วย และยังทำให้ผิวเนียนนุ่มเด้งด้วย

เวลา 3-4 ทุ่มเป็นเวลาที่เหมาะที่สุดในการบำรุงผิว! เพราะรูขุมขนของเราจะเปิดกว้างในช่วงเวลานี้ ทำให้ครีมบำรุง โดยเฉพาะมอยส์เจอร์ไรเซอร์ ซึบซาบเข้าสู่ผิวได้ดีที่สุด รีบพุ้งตัวกลับบ้านแล้วทาครีมโลด

  • ทามอยซ์เจอไรเซอร์ที่มี SPF 15 หรือสูงกว่า เพื่อช่วยปกป้องผิวจากการทำลายของรังสียูวี และที่สำคัญเมื่อมีหิมะที่พื้นซึ่งสามารถเป็นตัวสะท้อนแสงแดดได้

  • ปกป้องผิวด้วยการใส่หมวก ผ้าพันคอและสวมถุงมือ

  • ใส่แว่นสำหรับใส่เล่นกีฬาในวันแดดจ้าหรือลมแรง เพื่อป้องกันผิวรอบดวงตาและการหรี่ตาที่อาจนำไปสู่การเกิดริ้วรอยได้

อากาศหนาวมิได้หมายความว่าจะไม่ต้องใช้ครีมกันแดด ขอให้จำไว้เลยว่าก่อนออกจากเคหะสถานทุกครั้งให้ทา ครีมกันแดด ทั้งผิวหน้า ลำคอ และส่วนแขนขาที่อาจได้สัมผัสแดด ถือเป็นมันตราสำคัญที่ไม่ควรลืมทั้งเมืองร้อน เมืองหนาวและเมืองหิมะปกคลุม เพราะแสงแดดนี่ก็เป็นอีกหนึ่งตัวการสำคัญที่ทำให้ผิวของคุณแห้งกร้านได้ ใครว่าแดดฤดูหนาวไม่แรง จริงๆ แล้วแรงไม่แพ้แดดฤดูร้อนเลยทีเดียว



ดูแลผิวจัดเต็มแบบไอดอลเกิร์ลกรุ๊ป

  1. การทาผลิตภัณฑ์ให้ความชุ่มชื่น การทาผลิตภัณฑ์ให้ความชุ่มชื่นแก่ผิวเป็นประจำอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง จะช่วยเพิ่มสารอาหารและน้ำแก่เซลล์ ทำให้เซลล์ผิวหนังทำงานได้ดีขึ้น และควรทาหลังอาบน้ำเสร็จทันทีภายใน 3-5 นาที ซึ่งจะดูดซึมและให้ความชุ่มชื่นกับผิวดีกว่าทาช่วงเวลาอื่นผิวหน้ายิ่งสำคัญกว่าผิวกายนะคะ ต้องดูแลเอาใจใส่ผิวหน้าของเราเป็นพิเศษเพราะถ้าผิวหน้าแห้ง แตก ลอกแล้วเนี่ย ทรมานสุดๆ เลยล่ะบอกเลยว่าเครื่องสำอางก็เอาไม่อยู่ เพราะฉะนั้นเราต้องดูแลตั้งแต่ขั้นตอนการบำรุงผิวซึ่งการบำรุงผิวหน้านั้น ควรต้องเลือกผลิตภัณฑ์ที่ให้ความชุ่มชื่นอย่างสูงสุดไม่ว่าจะเป็นเซรั่ม ครีม โลชั่น หรือออยล์โดยเฉพาะถ้าเป็นออยล์ที่ให้ความชุ่มชื่นแก่ผิวอย่าง

  2. ทำความสะอาดผิว คราวนี้ มาถึงการทำความสะอาดผิวในหน้าหนาวนี้กันบ้าง ซึ่งไม่ว่าใครจะมีสภาพผิวแห้ง หรือผิวธรรมดา ควรหลีกเลี่ยงการล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น เพราะจะยิ่งทำให้ผิวแห้ง ลอก เป็นขุย และทำให้เกิดอาการคันอีกด้วย ทั้งยังเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดริ้วรอยก่อนวัยได้ง่าย ขอแนะนำให้ล้างหน้าด้วยน้ำสะอาดธรรมดา หรือใช้เจลล้างหน้า ที่มีค่า PH ประมาณ 5.5 – 6.0 เพื่อป้องกันการสูญเสียน้ำหล่อเลี้ยงในผิว และคงความชุ่มชื้นให้กับผิวอีกด้วย สำหรับใครที่ผิวมัน ควรทราบว่า ในช่วงหน้าหนาวรูขุมขนจะหดตัวมากกว่าปกติ ปัญหาที่ตามมาคือเกิดการอุดตันได้ง่าย จึงควรใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวประเภทควบคุมความมันทุกเช้าเย็น และเวลาล้างหน้าไม่ควรนานเกิน 20 วินาที แล้วล้างออก เพื่อผิวจะไม่แห้งขาดความชุ่มชื้น ส่วนใครมีผิวบอบบางแพ้ง่าย มีวิธีดูแลผิวเช่นเดียวกับผิวแห้ง และผิวธรรมดา แต่ควรเลือกผลิตภัณฑ์คลีนซิ่งสำหรับผิวบอบบางแพ้ง่ายโดยเฉพาะ ซึ่งจะอ่อนโยนต่อผิวและปราศจากสารระคายเคือง จำพวกน้ำหอม แอลกอฮอล์ โดยประเภทผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับผิวบอบบางแพ้ง่าย เช่น เจลล้างหน้า สบู่เหลว โฟมล้างหน้าฟองฟูนุ่มเพื่อลดการเสียดสีระหว่างผิวมือและผิวหน้า เป็นต้น

  3. เลือกทานของที่มีประโยชน์รับประทานอาหารและดื่มน้ำอย่างเพียงพอก็เป็นส่วนสำคัญ สารอาหารบางชนิดช่วยให้เซลล์ผิวหนัง ผลิตน้ำมันตามธรรมชาติได้ดีขึ้น เช่น วิตามินอี ไข่ไก่ ปลาเนื้อวัวหมู ถั่วต่างๆ พืชผักต่างๆ หากคุณขาดสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายในช่วงเวลาติดต่อกัน จะส่งผลให้ผิวพรรณของคุณแห้งกร้านได้ นอกจากนั้นการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก้หนาวกันจนเพลินหรือดื่มชา-กาแฟมากเกินไป ก็ทำให้ร่างกายเกิดภาวะขาดแคลนน้ำและผิวแห้งได้เช่นกัน

  4. เลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับผิวหน้าไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ใส่สารฆ่าเชื้อที่มากเกินจำเป็น เนื่องจากในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดปกติก็จะใส่สารดังกล่าวในปริมาณพอควรอยู่แล้ว การใส่สารดังกล่าวมากเกินไปอาจทำให้เกิดการระคายเคือง หรือผิวแห้งได้

  5. เคล็นเซอร์สำหรับใบหน้าใช้เคล็นเซอร์สำหรับใบหน้า ไม่ควรใช้สบู่ทั่วไป เพื่อช่วยล้างเมคอัพและสิ่งสกปรกโดยไม่ทำให้สูญเสียน้ำมันตามธรรมชาติที่จำเป็นต่อผิว ผลิตภัณฑ์ที่ทำหน้าที่ในการทำความสะอาดใบหน้า โดยจะมีสูตรที่แตกต่างกันออกไป เพื่อให้เหมาะกับสภาพผิวหน้าของแต่ละบุคคล ส่วนใหญ่ที่เห็นกันเป็นประจำก็จะแบ่งเป็น สูตรหน้ามัน หน้าแห้ง และสำหรับผู้ที่เป็นสิว หรือมีผิวแพ้ง่าย

  6. โทนเนอร์เช็ดทำความสะอาดโทนเนอร์ คือ ผลิตภัณฑ์เช็ดทำความสะอาดสิ่งสกปรกบนใบหน้า ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยปรับสมดุลของผิว ช่วยลดความมัน และกระชับรูขุมขน ในคนที่มีผิวมัน รูขุมขนกว้าง หรือ เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ในคนที่มีผิวแห้ง หลังการล้างหน้า โทนเนอร์จะช่วยให้ครีมบำรุงทำงานดีขึ้น โดยครีมจะซึมซาบลงสู่ผิวง่ายและลึกมากขึ้น หากใช้ครีมบำรุงหลังโทนเนอร์ภายใน หรือบางยี่ห้อ อาจมีการเพิ่มประโยชน์ในแง่อื่นๆ เช่น ความขาวกระจ่างใส และลดเลือนริ้วรอย

  7. พักผ่อนให้เพียงพออย่ามัวแต่ห่วงเที่ยวจนลืมนอน เพราะหากคุณพักผ่อนไม่พอ ร่างกายของคุณจะอ่อนเพลียและรู้สึกเหมือนขาดน้ำ ผิวกายหยาบแห้งกร้าน และต่อให้คุณอาบชโลมผิวด้วยครีมบำรุงผิว ตั้งหน้าตั้งตาดื่มน้ำมากเพียงใดก็ไม่สามารถลบความเหนื่อยและทดแทนน้ำหล่อเลี้ยงที่ร่างกายสูบไปใช้เพื่อพยุงให้กลไกของร่างกายทำงานได้ ข้อแนะนำข้อนี้อีกเช่นกันที่ไม่ว่าคุณจะไปเที่ยวเมืองหนาวระดับไหน ก็อย่าได้ละเลยการนอนหลับพักผ่อน

ในช่วงหน้าหนาว อากาศเย็นสบาย ทำให้หลายคนลืมที่จะปกป้องผิวจากแสงแดด ภัยร้ายทำลายผิว ต้นเหตุของโรงมะเร็งผิวหนัง, กระ,ฝ้า, จุดด่างดำ และริ้วรอยก่อนวัย! การปกป้องผิวจากแสงแดดทำได้หลายวิธี แต่วิธีที่เป็นที่นิยมและมีประสิทธิภาพคือการใช้ผลิตภัณฑ์ ครีมกันแดด เพื่อปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB รวมทั้งรังสีอินฟราเรด (Infrared) การทากันแดดให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดคือ ควรทาซ้ำทุกๆ 2 ชั่วโมง แต่ใครมีผิวบอบบาง แพ้ง่าย แนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดที่มีค่า SPF ประมาณ 15-30 เพื่อผิวจะไม่เกิดการระคายเคือง เพราะยิ่งมีค่า SPF สูง จะยิ่งทำให้เกิดการระคายเคืองได้ง่าย



การดูแลผิวพรรณ ที่มองข้ามไม่ได้ เพราะการบำรุงผิวแต่ภายนอกยังไม่เพียงพอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูหนาว อากาศเย็นจะทำให้เราผิวแห้ง ขาดความชุ่มชื้นได้ง่าย ดังนั้น ควรเติมน้ำให้ผิวมีความชุ่มชื้น โดยการดื่มน้ำมากๆ ให้ผิวอิ่มน้ำ แลดูสุขภาพดี และให้อาหารผิว โดยการรับประทานอาหารเสริม และวิตามิน ที่มีคุณสมบัติช่วยเพิ่มความชุ่มชื่น บำรุงผิวให้เนียนนุ่ม น่าสัมผัส อาทิ วิตามินอี น้ำมันตับปลา และคอลลาเจน เพื่อเผยผิวสุขภาพดี จากภายในสู่ภายนอกในหน้าหนาวนี้


การดูแลรักษาและฟื้นฟูสภาพผิวหนัง รวมถึงผิวหน้าด้วย บำรุงผิว แบบมือโปร นั้นจึงมีความจำเป็นและต้องทำอย่างถูกต้องและต่อเนื่องการทาผลิตภัณฑ์ที่ให้ความชุ่มชื่นกับผิวเป็นการดูแลผิวหนังเบื้องต้นที่สำคัญที่สุดเพื่อให้เซลล์ผิวหนังมีสุขภาพที่ดี ฟื้นฟูและซ่อมแซมเซลล์ให้แข็งแรงซึ่งจะเห็นได้จากการที่มีผิวหนังที่ชุ่มชื่น สดใส เต่งตึง นุ่มเนียนซึ่งผู้ที่มีผิวหนังดี สดใส ก็เป็นที่นิยมและทุกผู้คนอยากอยู่ใกล้ชิดเนื่องจากจะเป็นสิ่งสะท้อนถึงการเป็นผู้ที่ดูแลตนเองดี และมีสุขภาพดีนั่นเอง


 

อ่านเพิ่มเติม ได้ที่ ผิวดี สวยกรุบ

ติดตามอ่านบทความดีๆ ได้ที่beautymustknow.com

กันแดด กันดะ มีวางจำหน่ายแล้วทั่วประเทศ สอบถามข้อมูลและเลือกซื้อสินค้าเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : https://www.facebook.com/pg/kandabeauty.company/ website : Kandabeauty.com

ดู 4 ครั้ง0 ความคิดเห็น

Comments


bottom of page