top of page
ค้นหา
รูปภาพนักเขียนniracha payyakul

ผิวสวย ฟื้นฟูล้ำลึก บอกลาหน้าแห้ง เติมความชุ่มชื้น

อัปเดตเมื่อ 7 ธ.ค. 2564

ผิวสวย ฟื้นฟูล้ำลึก บอกลาหน้าแห้ง เติมความชุ่มชื้น

ปัญหาผิวเราทุกคนต่างหลีกไม่ได้ มาทำ ผิวสวย ฟื้นฟูล้ำลึก จัดการความแห้งกร้านของผิว มาเติมความชุ่มชื้นสู่ผิว ลดเลือนริ้วรอย บำรุงล้ำลึก แก้ผิวหน้ามัน

ผิวของเรามีความแตกต่างกันตามลักษณะของสภาพผิวของแต่ละคน ผิวแห้งกร้านเกิดขึ้นได้ง่าย เนื่องจากการที่เราล้างด้านด้วยน้ำอุ่น นั้งนอนในห้องแอร์ ทำงานในห้องแอร์ แถมยังต้องเจอแสงแดดในทุกวันๆ ในจะหน้าจอคอม สมาร์ทโฟนและมลภาวะข้างนอก ทำให้ผิวแห้งกร้านเกิดจากผิวขาดน้ำ เรามาเติมความชุ่มชื้นดูแลฟื้นฟูผิวหน้ากัน

การเลือกสกินแคร์ที่อ่อนโยนและเหมาะสมกับผิวบอบบางมากๆ เนื้อครีมที่ดีควรมีลักษณะบางเบา ซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ไวเพิ่มประสิทธิภาพการฟื้นและเสริมเกราะปกป้องผิวอย่างอ่อนโยนและเติมความชุ่มชื้น ผิวเรียบเนียนขึ้นหรือแม้แต่การเลือกคลีนเซอร์ที่ใช้ทำความสะอาดผิวหรือแม้แต่ล้างเครื่องสำอางก็สำคัญ



ทำความสะอาดให้ถูก

อันดับแรกที่ทำให้ผิวของสาวๆแห้งนั้นเกิดจากการล้างหน้าความสะอาดที่ไม่ถูกวิธี เราต้องรู้วิธีทำความสะอาดผิวหน้าและผิวกายอย่างถูกต้อง เพื่อไม่ให้น้ำมันธรรมชาติในผิวหนังสูญเสียไปมากนัก โดยเริ่มจากการเลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่อ่อนโยนต่อผิว มีส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์ ไม่มีสวนผสมของแอลกอฮอล์ เลี่ยงการใช้สบู่ และไม่ควรใช้โทนเนอร์ทำความสะอาดผิว ที่สำคัญต้องล้างหน้าและถูผิวกายอย่างอ่อนโยนที่สุด แต่ถ้าหากว่าผิวของคุณแห้งมากจนแตกเป็นสะเก็ด ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มาจากธรรมชาติ เช่น มะละกอ ฟักทอง และโยเกิร์ตทำความสะอาดผิวร่วมด้วย การเลือก บำรุงผิว ที่มีผสมของที่ทำให้ผิวกระจ่างใส ฝ้า กระ ดูจางลง ให้ความชุ่มชื้น กระชับรูขุมขนและช่วยให้ริ้วรอยดูตื้นขึ้น และต้องไม่มีส่วนผสมของพาราเบนจึงปลอดภัยต่อทุกสภาพผิว


วิธีกู้ผิวแห้งกร้าน ให้กลับมานุ่นชุ่นชื้น

  • เลี่ยงการอาบน้ำอุ่น

เราควรอาบน้ำในอุณหภูมิปกติ การอาบน้ำอุ่นจะทำให้ผิวเราแห้งแตกแล้วน้ำมันตามธรรมชาติในผิวก็จะถูกชะล้างออกไปได้ง่ายขึ้น ถ้าสำหรับใครที่อยากอาบน้ำอุ่นไม่ชอบอาบน้ำเย็นก็มีวิธีแก้ คือ การลดเวลาในการอาบน้ำลง เพราะการที่เราอาบน้ำอุ่นหรือแช่น้ำอุ่นเป็นเวลานานจะยิ่งทำให้ผิวแห้งกร้าน แตก ลอกออกมา การอาบน้ำนานก็เป็นการทำลายน้ำมันและความชุ่มชื้นในผิวทางหนึ่ง ดังนั้นสาวผิวแห้งจึงไม่ควรจะใช้เวลาอาบน้ำชำระร่างกายนานเกินไป และถ้าเป็นไปได้พยายามอย่าอาบน้ำอุ่นด้วย เพราะความร้อนจะยิ่งทำให้ผิวคลายความชุ่มชื้นและน้ำมันธรรมชาติออกมามากขึ้น เป็นเหตุให้ผิวแห้งกร้านยิ่งขึ้นนะ

  • ทาเบบี้ออยล์

หลังจากที่อาบน้ำเสร็จ ทำการเช็ดตัวให้หมาดๆ ทาเบบี้ออยล์ตอนผิวหมาดๆยังให้ความชุ่มชื้นของน้ำเหลืออยู่ แล้วเราก็ใช้เบบี้ออยล์ทาให้เบบี้ออยล์กับน้ำหมาดๆผสมกันแล้วมันจะช่วยให้ทาได้ง่ายแล้วตอนนั้นผิวก็จะกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดีกว่าตอนที่เราทาเบบี้ออยล์ตอนผิวแห้ง เคร็บลับของการทาเบบี้ออยล์คือการทาเบบี้ออยล์ทันทีที่เราพึ่งอาบน้ำเสร็จที่ผิวยังเปียกอยู่หมาดๆมันจะดีต่อผิวที่สุด พอหลังจากเราทาเบบี้ออยล์เสร็จอย่าเว้นช่วงให้เราลงโลชั่นตามทันที โดยให้ทำในตอนกลางคืนเราจะเน้นเป็นการบำรุงผิวด้วยเนื้อครีมหนักๆ เลือกโลชั่นที่ให้ความชุ่มชื้นผิวและมันจะช่วยเสริมสร้างปราการแก่ผิวให้กลับมาชุ่มชื้นและช่วยกักเก็บน้ำไม่ให้น้ำระเหยออกมาได้ง่าย พอเราตื่นมาในตอนเช้าให้เราเลือกใช้เนื้อครีม เนื้อโลชั่น บอดีเซรุ่มที่มีเนื้อบางเบา เพื่อทาออกไปข้างนอกจะไม่ได้เหนียวเหนาะหนะตัวระหว่างวัน

  • เปลี่ยนสบู่อาบน้ำ

หลายคนอาจมองข้ามหรือคิดไม่ถึงว่าสบู่ก็เป็นตัวการในการทำให้ผิวของเราแห้ง เปลี่ยนสบู่อาบน้ำเป็นแบบสูตรที่ไม่มีฟองสบู่เป็นสิ่งที่ทำให้ผิวของเราแห้งหรือไม่แห้งเพราะ เราเลือกให้สบู่ที่มีฟองเยอะๆมันก็จะชะลอล้างมันในผิวเราออกไปจนหมดไม่เหลือเลย แบบนั้นมันจะให้ผิวแห้งมากถึงเราจะใช้โลชั่นหรือตัวเบบี้ออยล์ก็ไม่สามารถช่วยผิวให้ชุ่มชื้นได้ เลือกสบู่ที่ไม่มีฟองหรือที่มีบอกข้างฉลากว่า เป็นแบบShower Oil ได้ก็จะดี เพราะเป็นเนื้อน้ำมันพอโดยน้ำมันจะกลายเป็นเนื้อน้ำมัน

  • ตั้งเครื่องทำความชื้นไว้ในห้อง

การที่เราอยู่ห้องแอร์เป็นเวลานานทั้งวันจากที่ทำงาน แล้วกลับมาบ้านเราก็เปิดแอร์นอนทั้งคืนก็จะทำให้ผิวแห้ง หรือหากอยู่อาศัยเป็นสถานที่ที่มีสภาพอากาศแห้ง ก็ควรลงทุนซื้อเครื่องทำความชื้นไว้ เพราะสภาพอากาศภายในห้องแห้งไม่การถ่ายเทของอากาศมากพอ ดึงความชุ่มชื้นออกไปเยอะจนเกินควร เป็นสาเหตุให้ผิวพรรณของเราแห้งแตกและกร้านยิ่งขึ้น แนะนำให้ซื้อเครื่องทำความชื้นในห้องเหมือนที่เราดูในซีรี่ย์เกาหลี จะเห็นว่าในห้องนอนจะมีเครื่องทำความชื้นไว้ในห้อง เครื่องทำความชื้นจะเป็นการที่เราใส่น้ำลงไปในเครื่องแล้วพอเครื่องทำการพ่นไอน้ำออกมา ทำให้ห้องมีความชื้นมากขึ้นและยังช่วยทั้งเรื่องผิวหรือใครที่คอแห้ง ปากแห้ง มันก็สามารถช่วยในกรณีนี้ได้ด้วย

  • ทากันแดด

การทากันแดดทุกครั้งก่อนเราจะออกไปไหนก็ตามเป็นสิ่งสำคัญ เพราะแสงแดดก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผิวเราแห้งกร้าน อ่อนแอ ดูแห้งเสีย แบบกระดำกระด่าง กันแดดทาแล้วมันช่วยให้ผิวเราสุขภาพดีขึ้นด้วยหรือใครที่ขี้เกียจทากันแดดเพราะใช้เวลา 15-30นาที ในการทากันแดดก่อนออกจากบ้านก็ให้เลือกกักแดดแบบสเปร์ย เพียงแค่ทำการฉีดๆ ไม่เหนาะผิวและสามาารถเอาไปฉีดเติมได้ระหว่างวัน ให้ลงกันแดด ทุกๆ2-3 ชั่วโมงก็จะปกป้องเพิ่มได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น


  • เลี่ยงการขัด ถูหรือสครับผิว

การที่เราสัมผัสผิวแรงๆไม่ว่าจะเป็นการขัด การถูหรือแม้แต่การสรับผิวบ่อยๆจะดี ยิ่งใครที่ผิวแห้งกร้านเป็นขุยยิ่งต้องขัดผิวสิ ยิ่งต้องถูแรงๆให้เซลล์ที่ตายไปมันลอกออกมา การทำแบบนั้นจะยิ่งทำให้ผิวแห้ง แดงเกิดอาการอักเสบจนบางคนอาจจะต้องไปหาหมอได้ เราควรสังเกตผิวของเรามาพอสครับไปแล้วผิวมันนุ่นชุ่มชื้นไหม แต่ถ้าเราขัดหรือสครับผิวแล้วเกิดอาการแสบผิวแล้วผิวแห้งลอกกว่าเดิมให้เราหยุดการสัมผัสผิวแบบแรงๆ เราอาจจะขัด ถูหรือสครับแค่ 2-3 ครั้งต่อเดือนพอ เพื่อให้เซลล์ผิวที่ตายไปผลัดออกไปได้

  • ทานวิตามินเสริม

การบำรุงภายนอกเราทำแล้วอีกหนึ่งสิ่งที่ช่วยในการบำรุงจากภายในอีกอย่าง คือ การรับประทานอาหารที่มีแมกนีเซียม วิตามินซี เบต้าแคโรทีน เพราะสารอาหารเหล่านี้เป็นตัวช่วยที่ดีในการบำรุงผิวให้สวยสดใส เนียนนุ่ม และชุ่มชื้นมากยิ่งขึ้น การทานวิตามินเสริมพวกคอลลาเจนที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ มีคอลลาเจนเยอะๆประมาณ 10,000-12,000 มิลลิกรัม เพียงพอสำหรับร่างกายที่ต้องการต่อวัน แนะนำให้กินแบบเป็นซองจะดีกว่าแบบเม็ด

  • บำรุงด้วยน้ำผึ้ง

โดยปกติแล้วลักษณะของคนที่มีผิวแห้ง มักจะมีริมฝีปากแตกลอก ส้นเท้าแตก และข้อศอกด้านด้วย ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ผิวดูไม่สวยงามน่ามอง ปัญหาแห้งกร้านมากกว่าตำแหน่งอื่นๆ ในร่างกาย เพียงเรา นำน้ำผึ้งมาทาบริเวณจุดต่างๆ ที่มีความแห้งกร้านเป็นประจำ ก็จะช่วยให้ผิวที่แห้งแตกกลับมาเนียนนุ่ม ชุ่มชื้นมากขึ้นแต่วิธีแก้ปัญหาเหล่านี้ให้หมดไปก็ไม่ยาก เพียงแค่นำน้ำผึ้งมาทาผิวบริเวณที่แห้งแตกมีปัญหา แล้วนวดวนสักพัก ทำอย่างนี้เป็นประจำ ผิวที่แห้งแตกและหยาบกร้านก็จะกลับมาเนียนนุ่มได้อีกครั้ง เพราะน้ำผึ้งมีคุณสมบัติช่วยทำให้ผิวนุ่มชุ่มชื้นนั่นเอง


ผลิตภัณฑ์ที่มีสารสกัดจากธรรมชาติ หรือ Natural Product จะสามารถจำแนกได้ออกเป็น 2 ลักษณะ

  1. สารสกัดที่มาจากธรรมชาติ จะต้องได้มาจากธรรมชาติจริงๆ เช่น น้ำมันหอมระเหยต่างๆ น้ำมันมะพร้าว หรือ น้ำมันอื่นๆที่มาจากธรรมชาติจริงๆ

  2. สารสกัดจากธรรมชาติ ที่เกิดจากกระบวนการผลิต ซึ่งจะทำให้เกิดสารสกัดบางตัวที่ไม่ได้มีอยู่ตามธรรมชาติ แต่เกิดจากกระบวนการผลิต เรียกว่า (Natural Origin) เช่น สารประกอบในน้ำมันหอมระเหยบางชนิด ซึ่งจริงๆแล้วไม่ได้มีในธรรมชาติ แต่จะเกิดขึ้นจากกระบวนการผลิตจากการกลั่นด้วยไอน้ำ เช่น สาร Chamazulene ซึ่งเป็นสารสกัดมีสีน้ำเงินที่เป็นสารสำคัญ ในน้ำมันหอมระเหย German Chamomile ซึ่งจะเกิดขึ้นในกระบวนการกลั่นน้ำมันหอมระเหยด้วยไอน้ำเท่านั้น

สารสกัดจากธรรมชาติที่ได้สัตว์
  • รกม้า:กำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในประเทศญี่ปุ่น คนญี่ปุ่นเชื่อว่า รก เป็นจุดต้นกำเนิดของชีวิต สารสกัดจากรกจึงสามารถคืนความอ่อนเยาว์ คงความงามอันเป็นอมตะให้กับสาวญี่ปุ่นได้ ร้านขายผลิตภัณฑ์เพื่อความงามของญี่ปุ่น จะจำหน่ายเครื่องดื่ม placenta อาหารเสริม placenta ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว Placenta หรือแม้แต่ยาบางชนิดก็ยังมีส่วนผสมของ Placenta ธรรมชาติของม้ามีช่วงการตั้งท้อง 11 เดือน จึงทำให้ปริมาณสารอาหารที่สะสมมีความเข้มข้น อุดมไปด้วยโปรตีนและกรดอะมิโนที่เป็นประโยชน์มากกว่า ซึ่งจากการทดสอบในห้องวิจัยพบว่า กรดอะมิโนในรกม้ามีมากกว่ารกหมู ถึง 300 ชนิด และมีคุณประโยชน์ต่อการนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์บำรุงผิว

  • รกแกะ : รกแกะสกัด ชนิด Hydrolyzed Placental Extract คือการนำรกแกะ มาสกัด แล้วนำไปผ่านกระบวนการ hydrolysate ทำให้ protein ที่สกัดได้ มีความยาวสั้นลงจนถึงระดับ peptide ซึ่งผิวสามารถนำไปใช้ได้โดยตรง จึงให้ประโยชน์ได้สูงสุด

  • นกอีมู : น้ำมันนกอีมู เป็นน้ำมันเนื้อเบา มีกรดไขมัน และสารอาหารแก่ผิวหลากหลายชนิด นิยมอย่างยิ่งในประเทศออสเตรเลีย ซึ่งใช้บำรุงผิว ให้ความชุ่มชื้น และลดการระคายเคืองใดๆ

  • ตัวมิงค์ : น้ำมันจากขนของตัวมิงค์ มีลักษณะเนื้อหนัก สามารถเคลือบผิวได้ดี เหมาะสำหรับใช้ในสูตรที่ต้องการประสิทธิภาพการเคลือบผิวเพื่อปกป้องผิวจากการสูญเสียความชุ่มชื้น ใช้ในอัตรา 1-100% ผสมในเครื่องสำอางรูปแบบใดๆ โดยผสมในส่วนของน้ำมันในสูตร กรุณาหลีกเลี่ยงความร้อนแสงแดด และ อากาศ

  • เมือกหอยทาก : เมือกหอยทาก ประกอบด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์กับผิว ช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ลดการระคายเคือง ให้ความชุ่มชื้นผิว โดยให้ตัวหอยทาก ใช้เมือกนี้ในการสร้างเปลือกใหม่เมื่อเปลือกถูกทำลาย เมือกหอยทากประกอบด้วยส่วนผสมหลากหลายชนิด เช่น Allantoin (ช่วยลดการระคายเคือง), Collagen (ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนของผิว), Elastic (ช่วยเสริมสร้างการยืดหยุ่นของผิว), Glycolic Acid (ช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนๆ), Antibiotic Peptides (ช่วยลดการระคายเคือง ลดการอักเสบของผิว) และวิตามินต่างๆ

  • แซลมอน : Proteoglycan ที่ได้จาก กระดูกอ่อนแซลมอน (Salmon Cartilage) โดยจากการวิจัยพบว่า ออกฤทธิ์คล้าย Epidermal Growth Factor (EFG) จึงมีประโยชน์หลากหลายด้านต่อผิว


การทาครีมหรือโลชั่น ออยล์หรือการทานอาหารเสริมที่ช่วยบำรุงและแก้ผิวให้ชุ่มชื้นแก่ผิว เป็นการบรรเทาอาการอาการผิวแห้งลอกหรือหน้าแห้งเป็นขุยได้หรือหากเกิดบริเวณผิวหน้าก็จะมีครีมแก้หน้าแห้งหร้าน ที่ บำรุงผิว ได้อย่างดี การทาครีมสำหรับทาผิวแห้งที่เติมน้ำในผิว หากหน้าแห้งลอกแดงร่วมด้วยสามารถรักษาด้วยวิธีธรรมชาติ เช่น น้ำผึ้ง หรือน้ำมันมะกอกมีประโยชน์อย่างมหาศาล โดยเฉพาะกับผิวแห้งกร้าน ที่ไม่เพียงแต่ช่วยบำรุงผิวที่แห้งกร้านอย่างล้ำลึกเท่านั้น แต่สามารถแก้ปัญหาผิวลอกแตก และอาการคันของผิวแห้ง ๆได้อีกด้วย


การบำรุงผิวต่อให้เราดูแลผิวให้ดี ใช้ผลิตภัณฑ์แพงแค่ไหน หรือการเข้าคลินิกเสริมความงามยังไงแต่ กันแดด คุณภาพดี เป็นหนทางที่สามารถป้องกันผิวจากแสงแดดวายร้าย ผิวแห้งหยาบกร้านก็ไม่ต้องกังวลใจกับเรื่องผิวพรรณอีกต่อไป เพียงลองทำตามที่เราได้แนะนำไปก็ลองทำตามผิวก็จะกลับมาเนียนนุ่มชุ่มชื่นเหมือนเดิมแล้วนะ

 

อ่านเพิ่มเติม ได้ที่ ผิวสวย ฟื้นฟูล้ำลึก

ติดตามอ่านบทความดีๆ ได้ที่ beautymustknow.com

กันแดด กันดะ มีวางจำหน่ายแล้วทั่วประเทศ สอบถามข้อมูลและเลือกซื้อสินค้าเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : https://www.facebook.com/pg/kandabeauty.company/ website : Kandabeauty.com

ดู 3 ครั้ง0 ความคิดเห็น

Comments


bottom of page