top of page
ค้นหา
รูปภาพนักเขียนniracha payyakul

ผิวสวย ไม่แห้ง ITEM หน้าหนาว เตรียมผิวท้าลมหนาวกัน

ผิวสวย ไม่แห้ง ITEM หน้าหนาว เตรียมผิวท้าลมหนาวกัน

ฤดูหนาวเป็นช่วงเวลาที่ใครหลายคนต่างรอคอย และลุ้นว่าจะได้สัมผัสกับลมหนาวยาวนานสักแค่ไหน ผิวสวย ไม่แห้ง พร้อมโชว์ผิวดูอิ่มเอิบ ส่วนใครที่ไม่อยากรอหรืออยากสัมผัสลมหนาวแบบของแท้ออริจินอล ก็เลือกวางแผนไปรับลมหนาวที่ต่างประเทศ ซึ่งนอกจากแพลนเที่ยวสนุกๆ แล้ว การเตรียมตัวเพื่อดูแลผิวในช่วงฤดูหนาวให้พร้อมก่อนออกเดินทางก็นับว่าเป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน

ผู้ที่มีผิวแห้งต้องงดยาทาแก้คันที่มีลักษณะเป็นแป้งน้ำ เพราะจะทำให้ผิวหนังแห้งมากขึ้น และต้องไม่ใช้ยาฆ่าเชื้อราทา เพราะไม่สามารถแก้ปัญหาผิวแห้งและยังทำให้ผิวแห้งกำเริบขึ้น การใช้ครีมบางตัวเช่น กรดผลไม้ กรดวิตามินเอ ครีมรักษาสิว เช่น เบนซอยล์เพอร์ออกไซด์ โลชั่นทาสิว (เช่น กำมะถัน) ต้องระวัง เพราะทำให้ผิวแห้งระคายเคืองได้ง่าย ถ้าจำเป็นต้องทายาให้น้อยลงหรืองดเป็นช่วงๆ



หากขาดการดูแลที่ดี ซึ่งในฤดูหนาวเรามักจะพบเจอปัญหาผิวต่างๆ ดังต่อไปนี้

1. ผิวพรรณไม่สดใส เกิดจากความแห้งที่มาพร้อมกับอากาศหนาว ทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นบางส่วนไป เมื่อผิวแห้งสะสมกันหลายชั้น ความหมองคล้ำจึงเกิดขึ้นตามมา

2. ผิวแห้ง – หยาบกร้าน ก็เนื่องจากความแห้งที่มาพร้อมกับอากาศหนาวเช่นเดียวกัน เมื่อความชุ่มชื้นก็ถูกดึงออกไปจากผิวไปดื้อ ๆ ผลที่ตามมาก็คือผิวแห้ง ลอกเป็นขุยได้ง่าย โดยเฉพาะคนที่มีผิวแห้งโดยธรรมชาติ จะยิ่งแห้งเข้าไปอีก

3. ผิวไหม้แดด ในช่วงอากาศเย็น ๆ คนส่วนมากมักจะละเลยการทาครีมกันแดดไป เนื่องจากอากาศที่เย็นทำให้คิดว่าไม่ต้องทาก็ได้ ซึ่งอากาศเย็นกับแสงแดดนั้นเป็นคนละเรื่องกัน เพราะแม้อากาศจะเย็นก็จริง แต่รังสียูวียังคงทำงาน เมื่อไม่ทาครีมกันแดด ผิวจึงโดนรังสียูวีทำร้ายได้ง่าย บวกกับอากาศแห้งและเย็น ก็ยิ่งทำให้ผิวแสบไหม้ได้ง่ายขึ้นไปอีก

4. ริมฝีปากแห้งแตก เป็นอาการที่พบได้บ่อยในช่วงฤดูหนาว นอกจากผิวหน้าและผิวกายแล้ว ริมฝีปากก็เป็นอีกบริเวณหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากอากาศเย็น เนื่องจากผิวปากนั้นไม่มีต่อไขมัน เมื่อสัมผัสกับอากาศแห้งและหนาวเย็นจึงทำให้ริมฝีปากแห้งแตก และลอกเป็นขุยได้

5. ผิวมัน อาจฟังดูขัดกับความรู้สึกสักนิดว่าทำไมอากาศแห้งแล้วผิวยังมันอยู่ได้อีก? ที่เป็นเช่นนี้ก็เนื่องจากอากาศแห้งเช่นเดียวกัน ทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้นหรือขาดน้ำนั่นเอง เมื่อผิวขาดน้ำ ต่อมไขมันใต้ชั้นผิวก็จะปล่อยน้ำมันออกมามากกว่าปกติเพื่อปกป้องไม่ให้ผิวแห้งจนเกินไป คนที่มีผิวมันโดยธรรมชาติจึงมีโอกาสผิวมันได้มากกว่าปกตินั่นเอง

ฤดูที่หนาวที่สุดคือฤดูที่แห้งที่สุดเช่นกัน ซึ่งหมายความว่าคุณต้องมีขั้นตอนเพิ่มเติมในการช่วยฟื้นบำรุงผิวแห้งของคุณ สาเหตุของผิว แห้งมากในฤดูหนาวคืออะไรเมื่ออุณหภูมิต่ำจะส่งผลให้ความชื้นในอากาศต่ำ เพื่อความสมดุลของอากาศความชื้นจะถูกดึงจากผิวอย่างต่อเนื่อง หากไม่มีการดูแลที่ถูกต้อง ผิวแห้งในฤดูหนาวอาจแตกและ เป็นสะเก็ดเกิดการระคายเคืองได้ง่ายขึ้นและอาจเป็นแผลอักเสบตามมา การนำน้ำใส่แก้ว มาวางรอบๆจะสามารถเพิ่มความชื้นภายในห้องได้ รวมถึงการใช้เวลาอาบน้ำน้อยลงและทาโลชั่นหรือเซรั่มที่ช่วยกักเก็บความชุ่มชื่นบ่อยๆก็จะช่วยฟื้น บำรุงผิว และป้องกันความแห้งในฤดูหนาวได้



เคล็ดลับดีๆ ในการดูแลผิวช่วงหน้าหนาว

  • หลีกเลี่ยงการอาบน้ำอุ่น

การดูแลผิวในฤดูหนาวเริ่มได้ตั้งแต่ขั้นตอนการอาบน้ำ หลายคนชอบอาบน้ำอุ่นเพื่อให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย แต่จริงๆ แล้วการอาบน้ำอุ่นจะทำให้เราสบายตัวได้แค่ตอนอาบเท่านั้น เพราะหลังจากอาบน้ำ..ความชุ่มชื้นในผิวจะลดลง ส่งผลให้ผิวแห้ง เป็นขุยได้ เพราะฉะนั้น ถ้าอยากให้ผิวนุ่มชุ่มชื้นอาจจะต้องกลั้นใจอาบน้ำอุณหภูมิปกติเพื่อรักษาผิวกันหน่อยนะ

  • ไม่ควรอาบน้ำนานเกิน 10 นาที

เข้าใจว่าอากาศหนาว หลายคนจึงชื่นชอบการอาบน้ำอุ่น แต่น้ำที่อุ่นเกินไปคือสาเหตุที่ดึงความชุ่มชื้นของผิวไปด้วย (สังเกตว่าเมื่อน้ำอุ่นเกินลิมิต หากโดนผิวหนังจะทำให้ผิวแดง แสดงว่าร้อนเกินไป) เวลาที่ใช้น้ำอุ่นอาบน้ำก็ไม่ควรเกิน 10 นาที แค่อาบน้ำอุณภูมิปกติก็ทำให้ผิวชุ่มชื้นได้ ซึ่งความจริงแล้วการอาบน้ำอุณหภูมิปกติแต่อาบนานๆ ก็ทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นได้เช่นกัน ดังนั้น ควรอาบน้ำโดยใช้เวลาประมาณ 5-10 นาทีก็เพียงพอ และหลีกเลี่ยงการขัดถูผิวแรงๆ

  • เลือกประเภทสบู่ให้เหมาะกับผิว

ในช่วงฤดูหนาวถ้าอากาศแห้งมากอาจอาบน้ำเปล่าโดยไม่ถูสบู่ก็ได้ แต่หากจำเป็นต้องใช้สบู่ ควรเลือกประเภทสบู่ให้เหมาะสม เช่น ใช้สบู่เหลวชนิดอ่อนเพื่อรักษาความชุ่มชื้นของผิว การใช้สบู่ที่ไม่ถูกต้อง เป็นสาเหตุหลักของการสร้างความระคายเคือง และทำให้คันผิวได้ ทางที่ดีควรหลีกเลี่ยงสบู่ก้อนแบบปกติ และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่มีฟอง เพราะสามารถสร้างความระคายเคือง ทำให้ผิวแห้ง ลอก คัน แต่ยกเว้นบริเวณรักแร้ ขาหนีบ เท้า ให้ใช้สบู่หรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดได้

  • ทาครีมบำรุงหลังอาบน้ำ ภายใน 3-5 นาที

หลังจากอาบน้ำเสร็จ ภายใน 3-5 นาทีแรกนับได้ว่าเป็นช่วงนาทีทองของผิว เพราะเมื่อผิวโดนน้ำแล้วจะยังมีความชุ่มชื้นอยู่ หลังเช็ดตัวหมาดๆ จึงควรทาครีมบำรุงผิวลงไปทั้งที่ใบหน้าและลำตัวโดยเร็ว และที่สำคัญควรเลือกครีมบำรุงที่เป็นเนื้อครีม เพราะจะให้ความชุ่มชื้นได้ดีกว่าเนื้อโลชั่น

  • เลือกครีมบำรุงที่เหมาะสม

ในการเลือกใช้ครีมบำรุง ควรเลือกครีมที่มีส่วนประกอบเพิ่มความชุ่มชื้นได้ดี เช่น olive oil, jojoba oil, shea butter, urea, lactic acid, hyaluronic acid, glycerin, lanolin, mineral oil หรือ petrolatum และหลีกเลี่ยงครีมที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ น้ำหอม หรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ AHA หรือเรตินอยด์ เพราะจะทำให้ผิวแห้งมากยิ่งขึ้น

ช่วงนี้แนะนำให้เลือกผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ใช้ บำรุงผิว โดยพิจารณาจากสูตรหรือส่วนผสมที่ปราศจากแอลกอฮอล์และน้ำหอม เพื่อช่วยให้ผิวรักษาน้ำมันตามธรรมชาติได้ดีขึ้น ส่วนเวลากลางคืนให้เน้นบำรุงผิวด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์หรือเซรั่มบำรุงผิวที่เข้มข้นมากขึ้น

  • อย่าลืมพกลิปบาล์มและแฮนด์ครีม

เมื่อดูแลผิวหน้าและผิวกายให้ดีแล้ว ก็ต้องไม่ลืมดูแลริมฝีปากและมือด้วย เพราะอวัยวะทั้ง 2 ส่วนนี้ต้องเผชิญกับอากาศหนาวตลอดเวลา ซึ่งอากาศแห้งจะทำให้ริมฝีปากแห้งและแตกง่ายขึ้น จึงไม่ควรเลียริมฝีปากบ่อยๆ และหมั่นทาลิปบาล์มอยู่เสมอ ส่วนการดูแลมือนั้น หลังล้างมือควรรีบเช็ดให้แห้งและทาแฮนด์ครีมทันที เพราะอากาศแห้งจะทำให้มือลอกและแตกได้ง่ายเช่นกัน

  • กิน(อาหาร)ดีอีกวิธีในการบำรุงผิว

การกินอาหารในช่วงฤดูหนาวควรกินให้ครบทั้ง 5 หมู่ตามหลักการดูแลสุขภาพทั่วไป แต่สิ่งที่ควรเน้นมากเป็นพิเศษ คืออาหารที่มี omega 3 เพราะเป็นไขมันชนิดดี โดยเน้นกินปลา ถั่ว เนื้อไก่ และเน้นอาหารหรือผักผลไม้ที่มีวิตามิน A, C, E และ Zinc เพื่อเติมอาหารให้กับผิว และที่สำคัญที่สุดคือดื่มน้ำให้ได้วันละ 8-10 แก้ว เพราะร่างกายต้องการน้ำเพื่อให้ผิวชุ่มชื้นอยู่ตลอด

เลือกทานอาหารที่สมส่วน โดยให้มีทั้งผักและผลไม้ เพื่อให้คุณได้รับวิตามินและแร่ธาตุและช่วยในการสร้างเซลล์ผิวกลับขึ้นมาใหม่ อาหารที่มีโปรตีนสูง เช่น ปลา เนื้อสัตว์ไขมันต่ำ หรือผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองล้วนมีส่วนช่วยให้ผิวมีสุขภาพแข็งแรง

  • เลือกสวมใส่เสื้อผ้าที่ไม่ทำให้ระคายเคือง

อากาศในฤดูหนาวจะแห้งและเย็นมาก การเลือกเสื้อผ้าในช่วงนี้จึงควรเลือกเนื้อผ้าที่ใส่สบาย ไม่บาดหรือระคายเคืองผิว เช่น ผ้าคอตตอน ส่วนการใช้ผ้าขนสัตว์หรือใยสังเคราะห์อาจจะทำให้คันหรือระคายเคืองผิวได้

  • ดื่มน้ำเติมความชุ่มชื้นให้ผิว

เมื่อสาว ๆ เริ่มรู้สึกว่าผิวของตัวเองแห้งแตก ตกสะเก็ดและเริ่มมีอาการคันยิบ ๆ ขึ้นมาแล้วละก็ อย่านิ่งนอนใจนะคะ ควรดื่มน้ำในแต่ละวันให้เพียงพอต่อความต้องการ เพื่อให้น้ำเข้าไปฟื้นบำรุงให้ผิวแห้งกร้านจากการสูญเสียความชุ่มชื้น ช่วยให้ผิวกลับมาอิ่มน้ำได้เหมือนเดิม นอกจากนี้สาว ๆ ยังสามารถดื่มเครื่องดื่มอุ่น ๆ เช่น น้ำอุ่นผสมน้ำมะนาว โกโก้หรือชาร้อนบ่อย ๆ ในช่วงหน้าหนาว ก็จะเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยบำรุงทำให้ผิวรู้สึกสดชื่นจากภายในได้ค่ะ


เตรียมผิวท้าลมหนาวกัน

กำลังจะเข้าสู่หน้าหนาว อย่างเป็นทางการ จะหนาวไหมไม่รู้ แต่ที่รู้ๆ คือเราต้องเตรียมผิวท้าลมหนาวกันนะด้วย Kanda Wonder Soft & Snow ครีมเนื้อนุ่มเหมือนปุยหิมะช่วยบำรุงผิวให้นุ่มฟู กระจ่างใสดุจหิมะพร้อมมอบความหอมสดชื่นตลอดวัน

Charming Woods นึกถึงป่าสนอันหนาวเหน็บ Holly Red ชวนสัมผัสถึงลมหนาว Icy Blue สดชื่นราวหิมะ

ในช่วงหน้าหนาวนี้ผิวจะบอบบางเป็นพิเศษจากอากาศหนาว ผิวแห้ง ผิวแตก ทำให้เกิดอาการแพ้ การระคายเคืองได้ง่าย จึงควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่อาจมีสารกระตุ้นการระคายเคือง เช่น น้ำหอม และแอลกอฮอล์ หลีกเลี่ยงเสื้อผ้าที่มีเนื้อหยาบ เพราะอาจระคายเคืองผิวได้ง่าย เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวและครีมบำรุงผิวที่ถูกออกแบบมาเพื่อผิวบอบบาง ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้


 

อ่านเพิ่มเติม ได้ที่ ผิวสวย ไม่แห้ง

ติดตามอ่านบทความดีๆ ได้ที่ beautymustknow.com

กันแดด กันดะ มีวางจำหน่ายแล้วทั่วประเทศ สอบถามข้อมูลและเลือกซื้อสินค้าเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : https://www.facebook.com/pg/kandabeauty.company/ website : Kandabeauty.com

ดู 2 ครั้ง0 ความคิดเห็น

Comments


bottom of page