ผิวหน้า ผิวกาย เคล็ดลับบำรุงผิวสุขภาพดี
เปรียบเทียบกับโครงสร้างผิวของแต่ละคน ผิวหน้า ผิวกาย สำหรับบางคนมีความบอบบางมากกว่าคนอื่นๆ ยังมีปัจจัยที่ส่งผลต่อผิว ทำให้การกักเก็บความชุ่มชื่นน้อยลง โอกาสสูญเสียน้ำในผิวการดูแลและป้องกันต้องให้ความสำคัญ สู่ว่าผิวดี ชุ่มชื่นสมวัย
ใคร ๆ ก็อยากมีผิวกายขาวใสสุขภาพดีกันทั้งนั้น เพราะผิวขาวเปรียบเสมือนใบเบิกทางที่จะทำให้สาว ๆ มีความกล้าและมั่นใจทั้งนี้จึงทำให้สาว ๆ หลายคนที่มีผิวพรรณหม่นหมองทั้งหลายต้องหันไปพึ่งยาและอาหารเสริม อย่างเช่น กลูต้าไธโอน หรือคอลลาเจน และสารพัดวิธีอีกมากมาย เพื่อต้องการสวยทางลัดและเพื่อให้ผิวขาวขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งบางครั้งอาจเป็นอันตรายต่อผิว หรือบางกรณีอาจไม่ขาวยั่งยืนจนต้องกินยาและอาหารเสริมอยู่บ่อย ๆ ทำให้สิ้นเปลืองเงินทอง และอาจมีผลเสียตามมาได้ในระยะยาว
สำหรับกรณีแบบนี้สาว ๆ ควรแก้ไขด้วยการหันมาใส่ใจตนเอง ด้วยการให้ความสำคัญกับการ บำรุงผิว กายให้ขาวใสแบบตรงจุดน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด ที่สำคัญยังไม่ต้องกลัวอีกด้วยว่าในระยะยาวจะมีผลเสียตามมา เพราะการดูแลและบำรุงผิวอย่างสม่ำเสมอเพื่อผิวใสเนียนนุ่มน่าสมผัสด้วยเคล็ดลับง่าย ๆ ตามมาดูกันเลย
ดูแลบำรุงผิวหน้า
ผิวพรรณที่ดี ดูสวยงาม เป็นส่วนสำคัญอย่างหนึ่งที่เกิดจากการดูแลผิวที่ดี จนทำให้ปัจจุบันการบำรุงผิวพรรณด้วยครีมบำรุงให้สวยงามทำให้ผิวพรรณเสื่อมโทรม แก่ชรา หมองคล้ำ เป็นฝ้า กระ และจุดด่างดำ ริ้วรอยก่อนวัย
1.ทำความสะอาดผิวอย่างล้ำลึก
ขั้นตอนแรกของการบำรุงผิวให้สวยใส เด้ง มีออร่า ก็คือ การทำความสะอาดผิวที่ถูกต้อง และสะอาดล้ำลึก เริ่มจากการทำความสะอาดผิวหน้า ถ้าคุณแต่งหน้าเป็นประจำ สิ่งแรกที่ต้องทำคือใช้คลีนเซอร์ล้างเครื่องสำอางให้หมดจด หลายๆ รอบ จนกว่าคราบเครื่องสำอางออกหมดจริงๆ จากนั้นล้างหน้าด้วยโฟมล้างหน้าตามสภาพผิว ถ้าเป็นคนผิวมัน ก็ควรล้างด้วยเจลล้างหน้า 1-2 รอบ จากนั้นเช็ดหน้าให้แห้ง แล้วตามด้วยโทนเนอร์สูตรไม่มีแอลกอฮอล์อีก 1 ครั้ง แค่นี้ผิวหน้าของเราก็จะสะอาดล้ำลึกอย่างแท้จริง
2.ก่อนล้างด้วยน้ำ เช็ดหน้าด้วยคลีนซิ่ง
อากาศร้อนชื้นจะส่งผลให้ผิวหน้ามันและหมองคล้ำได้ง่าย เพราะมีไขมันและคราบเหงื่อสะสมอยู่มากเป็นพิเศษ ดังนั้น ก่อนจะล้างหน้าด้วยโฟมหรือสบู่ก็ควรขจัดคราบเหล่านี้ออกไปก่อน ด้วยการใช้สำลี ชุบคลีนซิ่งเช็ดเบาๆ บนใบหน้า จะได้ทำความสะอาดผิวหน้าได้อย่างหมดจดมากขึ้นค่ะ
3.เช็ดโทนเนอร์ซ้ำเพื่อความสะอาดมากขึ้น
หลังจากอาบน้ำล้างหน้าเรียบร้อยแล้ว สาวๆ ก็ควรเช็ดหน้าด้วยโทนเนอร์ ก่อนทามอยซ์เจอไรเซอร์บำรุงผิวนะคะ เพื่อเป็นการทำความสะอาดรูขุมขนอย่างล้ำลึก ขจัดสิ่งตกค้างอันเป็นสาเหตุของสิวอุดตัน ให้ผิวหน้ารู้สึกสะอาดสดชื่นมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นการกระชับรูขุมขน ปรับสภาพผิวหน้าให้พร้อมสำหรับการบำรุงด้วยเซรั่มและครีมในขั้นต่อไปค่ะ
4.บำรุงหน้าเป็นประจำทุกวัน
หลังจากทำความสะอาดอย่างหมดจดแล้ว ขั้นตอนต่อมาขาดไม่ได้เลย ก็คือ การใช้ครีมและโลชั่นบำรุงผิว ทั้งผิวหน้าและผิวกาย ทุกๆ วัน ย้ำว่าต้องทาทุกวัน ห้ามขี้เกียจเด็ดขาด เพื่อผิวจะได้ไม่แห้งกร้านและมีริ้วรอยก่อนวัย
5.สครับผิวกระตุ้นเซลล์ผิวใหม่
ในแต่ละสัปดาห์ก็ควรหาเวลาว่างขัดถูขี้ไคลที่ฝังลึกตามผิวหนังออกไปบ้าง ทั้งผิวหน้าและผิวกาย สำหรับผิวหน้าให้ใช้สครับที่อ่อนโยนที่สุด เพื่อป้องกันอาการแพ้ ถูนวดวนเบาๆ ให้ทั่วใบหน้า 5-10 นาที แล้วล้างออก จากนั้นล้างหน้าตามปกติ แล้วก็อย่าลืมนวดกดจุดบนใบหน้าด้วยเพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดบนผิวหน้า
6.ดื่มน้ำให้เพียงพอ
นอกจากการดูแลผิวภายนอกแล้ว การดูแลสุขภาพผิวจากภายในก็สำคัญเช่นกัน หนึ่งในวิธีดูแลผิวให้เด้งฉ่ำ ชุ่มชื้น มีออร่าอยู่เสมอก็คือการดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย พยายามดื่มให้ได้ 1-2 ลิตรต่อวันนะ
7.ดูแลระบบขับถ่าย
อีกอย่างที่สำคัญไม่แพ้กัน ก็คือ ดูแลสุขภาพของลำไส้ ทำได้โดยการรับประทานนมเปรี้ยวหรือโยเกิร์ตที่มีจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อลำไส้ ช่วยให้ขับถ่ายได้สะดวก และที่สำคัญควรฝึกตัวเองให้ขับถ่ายเป็นเวลาในทุกๆ วัน เมื่อเราขับของเสียออกจากร่างกายได้อย่างเป็นระบบ ก็จะส่งผลให้ผิวพรรณสดใสตามไปด้วย
8.ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
สาวๆ สมัยนี้คงรู้กันอยู่แล้วว่า การออกกำลังกาย สำคัญแค่ไหน นอกจากจะทำให้ร่างกายแข็งแรง หัวใจแข็งแรง และช่วยเบิร์นไขมันแล้ว อีกอย่างที่เป็นผลพลอยได้ที่ดี คือ ช่วยให้ร่างกายขับเหงื่อและปัสสาวะได้ดีขึ้น พอสิ่งสกปรกออกมาตามเหงื่อได้ดี ผิวพรรณก็จะสดใส เปล่งปลั่ง มีสุขภาพดีไปด้วย
9.นอนพักผ่อนให้เพียงพอ
สุดท้ายที่สำคัญมากๆ คือ การพักผ่อนให้เพียงพอ ควรนอนก่อน 23.00 น. และตื่นเช้าในช่วง 6.00-7.00 น. หรืออย่างน้อยต้องนอนให้ได้ 7-8 ชั่วโมงต่อวัน เพื่อให้โกรทฮอร์โมนในร่างกายของเราทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเจ้าฮอร์โมนตัวนี้จะช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย ทำให้ผิวสวย เด้ง สดใส ได้ในทุกๆ วัน แต่ถ้านอนไม่พอไม่ไหวนะ ตื่นมาหน้าโทรมเห็นชัดทันทีเลยจ้า
10.ครีมกันแดด
เพราะครีมกันแดดไม่ได้มีคุณสมบัติปกป้องคุณได้แบบเช้าจรดเย็นขนาดนั้น การทาครีมกันแดดซ้ำระหว่างวันจึงเป็นเรื่องสำคัญ เนื่องจากรังสี UV นั้นมีอยู่ทุกหนทุกแห่ง ไม่ว่าสภาพอากาศจะเป็นอย่างไร ดังนั้นครีมกันแดดเป็นสิ่งจำเป็นที่สาวๆ ต้องมีคู่กายตลอดทุกฤดูกาล ซึ่งต้องสามารถป้องกันได้ทั้งรังสี UVA และ UVB โดยทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้านประมาณ 15 นาทีทุกวัน ปัจจัยของประสิทธิภาพครีมกันแดดขึ้นอยู่กับ 2 ปัจจัยหลักคือ ค่า SPF/PA ในครีมกันแดดของคุณ
ดูแลบำรุงผิวกาย
การดูแลผิวกายให้มีผิวขาวกระจ่างใส อาจมีขั้นตอนการดูแลไม่มากนักและแตกต่างจากการดูแลผิวหน้าเพียงเล็กน้อย แต่โดยรวมนั้นยังคงต้องอาศัยความสม่ำเสมอและเอาใจใส่ในการบำรุงผิว ไปจนถึงการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ ซึ่งหลายคนอาจเกิดคำถามว่าจะเลือกโลชั่นผิวขาวอย่างไรให้ใช้แล้วผิวกระจ่างใส ที่สามารถเห็นผลลัพธ์และไม่มีผลข้างเคียงที่อันตราย สามารถสังเกตได้ง่ายๆ ดังนี้
1.เช็กสภาพผิวของตนเอง ผิวกายของแต่ละคนมีความแตกต่างกันไม่ว่าจะเป็นผิวแห้ง ผิวแพ้ง่าย ผิวหมองคล้ำ เราจึงต้องเลือกโลชั่นผิวขาวให้เหมาะกับสภาพผิว เพื่อให้การบำรุงเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากขึ้น ดังนี้
ผิวแห้ง คนผิวที่มีปัญหาผิวแห้งต้องการความชุ่มชื้นมากกว่าสภาพผิวแบบอื่น เพราะฉะนั้นจะต้องเลือกโลชั่นผิวขาวที่ให้ความชุ่มชื้น ขาวกระจ่างใส แถมบำรุงได้อย่างล้ำลึกก็จะตอบโจทย์สาวผิวแห้งได้มาก
ผิวแพ้ง่าย ต้องใส่ใจในส่วนผสมมากเป็นพิเศษ เพราะมีโอกาสเกิดการระคายเคืองได้ง่ายกว่าผิวปกติ ควรเลือกใช้โลชั่นที่มีส่วนผสมที่อ่อนโยนต่อผิวและไม่มีน้ำหอม ที่สำคัญต้องได้รับการพิสูจน์จากทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
ผิวหมองคล้ำ มักเกิดจากการที่ผิวต้องเผชิญกับมลภาวะรอบตัว เช่น แสงแดด ฝุ่นควัน ที่ถูกสะสมมาเรื่อยๆ จนเกิดปัญหาผิวหมองคล้ำขึ้น ดังนั้นควรเน้นโลชั่นผิวขาวที่สามารถฟื้นบำรุงผิวที่คล้ำเสียได้ลงลึกไปถึงชั้นเซลล์ผิว เพื่อให้ผิวกระจ่างใสได้อย่างรวดเร็ว
การเช็กสภาพผิวหน้าเลย เพราะผิวแต่ละแบบมีวิธีการดูแลที่แตกต่างกัน และใช้ครีมที่มีลักษณะเฉพาะต่างกัน เช่น ถ้าเราเป็นคนผิวแห้ง แต่ไปใช้ครีมแบบ oil-free ก็จะยิ่งทำให้ผิวแห้งไปกันใหญ่ หรือคนผิวแพ้ง่ายก็ต้องระวังในการเลือกครีมมากกว่าคนผิวประเภทอื่น
2.ใช้สบู่ถูตัวสูตรอ่อนโยน สบู่ก้อนเป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวตัวที่ได้รับความนิยมมากที่สุด แต่สบู่ส่วนใหญ่มักจะมีส่วนผสมของสาร SLS, SLES ที่ไปดึงความชุ่มชื้นออกจากผิวมากเกินไป จนทำให้ผิวแห้ง และอาจทำให้ผิวแพ้ระคายเคืองได้ แต่ทุกวันนี้ก็มีสบู่บางประเภทที่ไม่ทำร้ายผิวเกินไป และยังคงเก็บความชุ่มชื้นให้กับผิวอยู่ ถ้าไม่อยากให้ผิวถูกทำร้ายเกินไป ขอแนะนำให้เลือกสบู่ก้อน หรือสบู่เหลวที่มีส่วนผสมของ กรด hyaluronic ที่ช่วยรักษาน้ำให้อยู่ในชั้นผิวเรา หรือ ceramide ที่มีความสามารถช่วยรักษาความชุ่มชื้นให้กับผิวเราได้
3.ทำการครับผิวผลัดเซลล์ผิวใหม่ ผิวกายเองก็ต้องการสครับหรือขัดเซลล์ผิวเก่าออกไปบ้าง หากเราไม่เคยขัดผลัดเซลล์ผิวเลย ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผิวเราหมองคล้ำ เราเลยจำเป็นต้องขัดผิว เพื่อผลัดเซลล์ผิวเก่าออกไป และเผยผิวใหม่ที่กระจ่างใสออกมา
4.ดูความน่าเชื่อถือ ปัจจุบันโลชั่นผิวขาวมีวางขายจำนวนในช่องทางที่หลากหลาย แต่ไม่ว่าเราจะซื้อจากที่ไหนจะต้องดูว่าแบรนด์นั้นๆ มีความน่าเชื่อถือมากน้อยแค่ไหน แหล่งการผลิตมีคุณภาพหรือเปล่า ผลิตภัณฑ์ได้รับการวิจัยและรับรองจากแพทย์ผิวหนังหรือไม่ สิ่งเหล่านี้ถือเป็นข้อมูลที่เราจะต้องให้ความสำคัญ เพราะเป็นการเช็กเบื้องต้นว่าโลชั่นทาผิวขาวที่เราจะซื้อนั้นได้มาตรฐานจริงๆ ซึ่งควรค้นหาข้อมูล หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนทุกครั้งที่จะตัดสินใจซื้อ
5.เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีสารบำรุงเข้มข้น สิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ผิวกระจ่างใส คือ โลชั่นผิวขาวที่มีสารบำรุงเข้มข้นและไม่เกิดอันตรายต่อผิวกายเช่น ครีมบำรุงผิวกายที่มีสารสกัดจากลิโคริชที่ช่วยป้องกันรังสี UV จากแสงแดดที่เป็นตัวการทำให้ผิวหมองคล้ำ ไม่เรียบเนียน และยังช่วยฟื้นบำรุงไปถึงชั้นเซลล์ผิว นอกจากนี้หากมีส่วนผสมของวิตามินอีจะยิ่งเสริมเรื่องความชุ่มชื้น ให้ผิวเนียนนุ่มน่าสัมผัสมากยิ่งขึ้น
6.เลี่ยงสารอันตราย ก่อนที่เราจะเลือกใช้โลชั่นทาผิวขาวอย่าลืมดูส่วนผสมให้ละเอียดก่อน เพราะหากมีสารที่อันตรายอยู่ในผลิตภัณฑ์ เช่น สารสเตียรอยด์ สารปรอท กรดเรติโนอิก ก็อาจทำให้ผิวกายของเราเกิดอาการระคายเคือง แสบคัน ต้องใช้เวลารักษาและฟื้นฟูเป็นระยะเวลานานกว่าผิวที่เสียหายจะกลับมากระจ่างใสเหมือนเดิม
7.เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว หากอยากให้ผิวเราได้รับความชุ่มชื้น เวลาที่เหมาะสมแก่การทามอยส์เจอร์ไรเซอร์เลยก็คือ ให้ทาตอนที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จใหม่ๆ ในตอนที่ผิวเรายังชื้นๆ ไม่แห้งสนิท เพราะในช่วงนี้รูขุมขนจะขยายกว้างพร้อมเปิดรับเซรั่ม หรือครีมบำรุงเข้าสู่ผิวได้ดีที่สุด
8.เลือกโลชั่นที่มีส่วนผสมของกรดขัดผิว ทุกวันนี้ครีมหรือโลชั่นทาผิวไม่ได้แค่เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวเท่านั้น แต่บางตัวยังมีส่วนผสมของสาร AHA ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว เพิ่มระดับผิวกระจ่างใสให้เราไปอีกขั้น
9.ปกป้องผิวจากแสงแดด ต้นเหตุที่ทำให้ผิวตัวเราหมองคล้ำ ไม่สม่ำเสมอ และหยาบกร้านได้อย่างง่ายๆ ก็คือ รังสี UV จากแสงแดดเนี่ยแหละ การทาครีมกันแดด จึงเป็นเคล็ดลับสำคัญอย่างหนึ่งที่ละเลยไปไม่ได้ ถ้าอยากมีผิวสวยใส ไม่ว่าจะออกหรือไม่ออกไปข้างนอกก็ควรทาครีมกันแดดปกป้องผิวจากแสงแดดสม่ำเสมอ
10.ปรับจากอาหารการกิน อาจจะดูเป็นเคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ แต่เชื่อไหมว่า การกินอาหารดีๆ ก็ช่วยทำให้ผิวเราสวยได้เช่นกัน เราต้องทั้งทาครีมจากภายนอก และปรับผิวให้สวยจากภายในด้วยการกินด้วย ก็จะยิ่งทำให้ผิวเราสวยอย่างเป็นธรรมชาติได้มากขึ้น อาหารที่ดีต่อผิว ก็เช่น ผลไม้ ผักที่อุดมไปด้วยวิตามินซี อย่างฝรั่ง ส้ม ผักบร็อกโคลี่ นมถั่วเหลือง ไข่ต้ม เป็นต้น
โลชั่นแบบไหน? ที่ได้ชื่อว่าเป็นโลชั่นที่เข้าใจผิว
– มีความอ่อนโยนสูง ใช้ได้แม้จะเป็นผิวแพ้ง่ายก็ตาม
– มีค่าสมดุลในระดับ pH 5.5 ค่าสมดุลที่ส่งเสริมพัฒนาการผิวลูกให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด
– สร้างเกราะคุ้มครองผิว ทำให้โครงสร้างผิวแข็งแรงขึ้นอย่างรวดเร็ว
– ป้องกัน และสามารถลดการระคายเคืองที่อาจจะเกิดจากสิ่งเร้ารอบ ๆ ตัวลูกได้
– ลดผื่นแพ้ได้ เนื้อครีมซึมซาบเร็ว ชุ่มชื่นแต่ไม่เหนียวเหนอะหนะ
ที่สำคัญอย่าลืมเลือกสูตรโลชั่นให้เหมาะสมกับสภาพผิวด้วสำหรับใครที่ผิวแห้งมากเป็นพิเศษ ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ถนอมผิว และมอบความชุ่มชื่นมากเป็นพิเศษ มีpH 5.5 ที่อุดมไปด้วยน้ำมันจากธรรมชาติ มอบความชุ่มชื่นที่มากกว่า ยาวนานกว่า
นอกจากจะ บำรุงผิว และปกป้องผิวจากแสงแดดแล้ว สาวๆ ก็ต้องดูแลสุขภาพร่างกายของตัวเองให้ดี ด้วยการนอนหลับ พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายเป็นประจำ ดื่มน้ำบ่อยๆ และเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ อย่างผัก ผลไม้ ธัญพืช เพราะการมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงจะทำให้สาวๆ มีผิวที่สวยกระจ่างใสได้อย่างแท้จริง
ปัจจุบัน ความแปรเปลี่ยนของสภาวะสิ่งแวดล้อม การเพิ่มขึ้นของภาวะมลพิษในอากาศทำให้เกิด สิว ดูแล ในช่วงหน้าฝนเพราะในอากาศที่มีความชื้นสูงและในฝนยังมีทั้งเชื้อโรค แบคทีเรีย สารเคมี ยิ่งทำให้สิวเกิดขึ้นง่าย
อ่านเพิ่มเติม ได้ที่ ผิวหน้า ผิวกาย
ติดตามอ่านบทความดีๆ ได้ที่ beautymustknow.com
กันแดด กันดะ มีวางจำหน่ายแล้วทั่วประเทศ สอบถามข้อมูลและเลือกซื้อสินค้าเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : https://www.facebook.com/pg/kandabeauty.company/ website : Kandabeauty.com
Comments