top of page
ค้นหา
รูปภาพนักเขียนniracha payyakul

ผิวเสีย ผิวเหี่ยว และตาบวม นอนเกิน9ชั่วโมง ทำร้ายสุขภาพ

อัปเดตเมื่อ 7 ธ.ค. 2564

ผิวเสีย ผิวเหี่ยว และตาบวม นอนเกิน9ชั่วโมง ทำร้ายสุขภาพ

ปกติคุณนอนวันละกี่ชั่วโมง การนอนหลับที่นานเกินไป ส่งผล ผิวเสีย ผิวเหี่ยว แทนที่จะได้รับผลดี แต่กลับตรงกันข้าม หากคุณนอนนานเกิน9ชั่วโมงจะทำให้ได้รับผลเสียต่อสุขภาพเป็นอย่างมากมีอะไรบ้างมาดูกันเลย ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับ โรคนอนเกิน

จากที่เป็นคนนอน6-8 ชั่วโมงตามปกติ กลายเป็นคนที่ต้องนอน 9-10 ชั่วโมง หรือมากกว่านั้นแล้วถึงจะรู้สึกหายง่วง หากเพิ่งจะเป็นแบบนี้ในช่วงปี หรือเดือนที่ผ่านมา อาจเป็นสัญญาณเตือนถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากผลข้างเคียงจากภาวะเครียด หรือซึมเศร้าได้



โรคนอนเกิน(Hypersomnia)

ปัญหาเรื่องการนอนนั้นมีทั้งการนอนไม่เพียงพอ หรือ การนอนมากเกินไป วันนี้เราจะทำความรู้จักเกี่ยวกับการนอนมากเกินไป (Hypersomnia)เป็นโรคที่หลับเกินพอดี หรือโรคขี้เซา ที่ยิ่งนอนมากเท่าไหร่ก็รู้สึกว่ายังไม่พอ และจะนอนหลับยาวนานเกิน 8 ชม.ขึ้นไป ซึ่งเป็นสิ่งที่ผิดปกติ ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ควรรีบมาพบแพทย์ คนที่มีภาวะนี้จะมีลักษณะที่ต้องการการนอนเพิ่มขึ้นทั้งในช่วงกลางวันและกลางคืน มีภาวะตื่นยากมากจากการนอน เมื่อตื่นแล้วก็รู้สึกว่าต้องการนอนต่อไปอีก ระหว่างวันก็ต้องการงีบหลับหลายๆ ครั้ง ในบางรายอาการงีบก็อาจเกิดขึ้นในเวลาที่ไม่เหมาะสม เช่น ขณะคุยกันก็ยังหลับได้ระหว่างกินอาหาร เป็นต้น ซึ่งหากพบมีอาการหรือมีคนใกล้ตัวที่มีอาการแบบนี้แนะนำควรรีบนำมาพบแพทย์เนื่องจากอาจส่งผลกระทบต่างๆ ตามมาได้จะมีอาการดูเฉื่อยชา, ไร้ชีวิตชีวา, ทานน้อยแต่กลับอ้วนง่าย เพราะการนอนทำให้กระเพาะอาหารไม่ย่อย จึงเกิดเป็นตัวอาหารและไขมันสะสม นอกจากนี้ ยังทำให้เกิดอาการโรคซึมเศร้าได้ง่ายถึง 49% ซึ่งถือว่ามากกว่าคนปกติ เป็นผลเสียระยะยาว ที่อาจทำให้เราคิดสั้นฆ่าตัวตายได้ และมีอาการของโรคอื่น ๆ

ใน 1 วันเราควรนอนหลับราว 8-10 ชั่วโมงสำหรับวัยรุ่น และวัยทำงานอยู่ที่ 6-8 ชั่วโมง แต่ปัจจุบันมีการอัพเดตช่วงเวลาที่เหมาะสมในการนอนหลับสำหรับอายุที่ต่างกัน โดยวัยรุ่น และวัยทำงานอยู่ที่ 7-9 ชั่วโมงและเพื่อช่วยกู้ผิวให้กลับมาสุขภาพดีแข็งแรง ต้อง บำรุงผิว เพื่อปรับสมดุลผิวเสียปัญหาผิวที่เหี่ยว หย่อนคล้อย ริ้วรอย


"นอน" มากเกินไป ส่งผลเสียอย่างไรต่อร่างกายบ้าง

การนอนมากเกินไป อาจเพิ่มความเสี่ยงของโรคอันตรายเหล่านี้

  • โรคเบาหวาน

  • โรคอ้วนลงพุง

  • โรคหลอดเลือดหัวใจ

  • โรคซึมเศร้า

  • ปวดหลัง

  • ปวดศีรษะ

วิธีปรับเวลานอนให้ดีต่อสุขภาพ
  1. ตั้งเวลาเข้านอน และตื่นนอนไม่เกิน 7-8 ชั่วโมงต่อคืน เข้านอนตรงเวลาทุกวัน และเมื่อตื่นนอนแล้วให้ลุกเลย อย่าต่อเวลาการนอนออกไปอีก

  2. เข้านอน และตื่นนอนเวลาเดิมทุกวัน รวมถึงเสาร์อาทิตย์ เลื่อนเวลาได้ไม่เกิน 30 นาที

  3. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบ 5 หมู่ และหลีกเลี่ยงเครื่องดื่ม ที่มีสารคาเฟอีนทุกชนิด ไม่กินอาหารเย็นดึกจนเกินไป (เพราะต้องกินข้าวเย็นก่อนนอนอย่างน้อย 4-5 ชั่วโมง)

  4. ไม่กินอาหารเย็นมากเกินไป เพราะอาจส่งผลให้เรานอนดึกเกินไป รวมถึงคุณภาพในการนอนไม่ดีเท่าที่ควร

  5. งดใช้โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมดก่อนนอน เพราะแสงสีฟ้าจากหน้าจออาจทำให้เราไม่ง่วง รบกวนคุณภาพในการนอนได้

  6. หากิจกรรมก่อนนอนง่าย ๆ เพื่อให้คุณได้ปรับตัว และพัฒนาการนอนหลับที่ดีผ่อนคลายความเครียดก่อนเข้านอน ด้วยการทำกิจกรรมเบาๆ เช่น อาบน้ำอุ่น อ่านหนังสือหาหนังสือดี ๆ สักเล่มอ่านเนื้อหาสบายๆ ฟังเพลงช้าๆ เบาๆ

  7. ตอนเช้าให้เปิดผ้าม่านให้แสงสว่างเข้ามาในห้อง ใครที่ตื่นยากอาจนอนเปิดผ้าม่านเอาไว้ก็ได้

  8. สัมผัสกับแสงแดดในตอนเช้า เพื่อให้ร่างกายกระตุ้นนาฬิกาชีวภาพของเราให้ทำงาน

  9. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

  10. เลี่ยงนอนกลางวันมากเกินไป ไม่นอนกลางวันเกิน 20-30 นาที และหลีกเลี่ยงการนอนกลางวันหลัง 16.00 น.

  11. ลดการดื่มแอลกอฮอล์

  12. ตั้งเป้าหมายตั้งแต่ก่อนนอนว่า ในวันรุ่งขึ้นจะทำอะไร เลือกกิจกรรมที่อยากทำ หรือหาจุดประสงค์ของการตื่นนอนในทุกๆ วันว่าเราอยากมีชีวิตอยู่เพื่อใคร เพื่อทำอะไร

5 อันตรายที่จะเกิดขึ้นจากการนอนหลับเกินแปดชั่วโมงมากเกินไปกัน
  • ทำร้ายสมอง

เพราะจะทำให้สมองเฉื่อยชา ส่งผลให้ทำอะไร และคิดอะไรเชื่องช้า กลายเป็นคนไร้ชีวิตชีวา ขยับตัวน้อยลง จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคกระดูกพรุนได้ ในขณะที่คุณนอนหลับสมองจะกำจัดสิ่งแปลกปลอม สร้างสมดุลของสารสื่อประสาท และประมวลผลความทรงจำที่เหลือ ดังนั้นระยะเวลาของการนอนหลับจะส่งผลต่อการทำงานของสมอง อารมณ์ และสุขภาพจิตของคุณ นอกจากนี้จากการศึกษาพบว่า การนอนเยอะ เพลียบ่อยๆ หรือนอนน้อย จะทำให้มีความผิดปกติต่อความจำและประสิทธิภาพการทำงานของสมองจะลดลงอีกด้วยค่ะ

  • อ้วนง่ายขึ้น

น้ำหนักเกินที่จะส่งผลให้เป็นโรคอื่น ๆ ตามมาอีกมากมายทั้ง โรคหัวใจ ความดัน เบาหวาน เป็นต้น และต่อให้ทานน้อยก็สามารถอ้วนได้ เพราะกระเพาะอาหารไม่ค่อยได้ทำงานนั่นเอง เพราะส่วนมากคนที่ลงพุงเป็นเพราะขยับเขยื้อนร่างกายน้อยเกินไป และเกือบทั้งหมดแทบไม่ออกกำลังกายเลย สำหรับคนที่นอนดึก ร่างกายจะมีความเครียดมากกว่าปกติ อาจมีภาวะเครียดแฝงอยู่ก็พาลให้ไม่อยากทำอะไรเลย ซ้ำร้ายยังเลือกทานอาหารที่ไม่ดีเพื่อลดความเครียดเหล่านั้นอีกด้วย เลยทำให้สุดท้ายก็มีอาการลงพุงตามมา

  • ภาวะมีบุตรยาก

ได้มีการศึกษาจากผู้หญิงในเกาหลีใต้ พบว่าผู้ที่นอนในระยะเวลา 7 - 8 ชม. ต่อวัน จะมีโอกาสติดลูกได้มากกว่า ผู้ที่นอนนานเกินวันละ 9 ชม. เป็นจำนวนถึง 650 คน เพราะฮอร์โมน และรอบเดือนของผู้หญิง จะเป็นปกติก็ต่อเมื่อต้องได้รับการพักผ่อนที่พอดีอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ยังไม่พบสาเหตุที่เชื่อมโยงกันอย่างชัดเจน แม้เราจะรู้ว่าพฤติกรรมการนอนหลับสามารถส่งผลต่อระบบนาฬิกาชีวภาพ การหลั่งฮอร์โมน และรอบเดือนได้ แต่ยังไม่ชัดเจนว่าเกี่ยวข้องกับภาวะมีบุตรยากเนื่องจากมีปัจจัยที่ยากเกินการควบคุมมากเกินไป

  • เสี่ยงต่อการหยุดหัวใจเฉียบพลัน

เพราะเนื้อสมองตายเนื่องจากการดับไปของสัญญาณสมอง ที่นานเกินเวลานอนของคนปกติ ผู้ที่นอนหลับนาน 8 ชั่วโมงหรือมากกว่านั้น มีแนวโน้มที่จะมีปัญหาสุขภาพหัวใจเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีโอกาสเสี่ยงในการเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจตีบเพิ่มขึ้น 2 เท่า และโรคหลอดเลือดแดง 1.1 เท่า

  • เสี่ยงเป็นโรคซึมเศร้า

คนที่นอนมากกว่า 9 ชั่วโมงในแต่ละวันเป็นเวลาติดต่อกันนานๆ จะทำให้สมองหลั่งสาร เอ็นดอร์ฟิน ซึ่งเป็นสารแห่งความสุขน้อยลง นั่นทำให้สมองทำงานแย่ลงและเริ่มคิดวิตกกังวลมากขึ้นจนอาจเสี่ยงเป็นภาวะซึมเศร้าได้ การนอนเยอะ เพลียแบบไร้สาเหตุถือว่าเป็นอาการหนึ่งของโรคซึมเศร้า เพราะในรายงานของผู้ป่วยโรคซึมเศร้าประมาณ 15% พบว่าผู้ป่วยโรคนี้มักมีอาการนอนไม่หลับหรืออยากนอนตลอดเวลา

และเสียชีวิตก่อนวัยอันควร จากการผลวิจัยเกี่ยวกับเรื่องของการนอนพบว่า ผู้ที่นอนนานเกินกว่า 9 ชั่วโมงต่อวัน จะมีโอกาสเสียชีวิตเร็วกว่าคนที่นอนเวลา 7-8 ชั่วโมงต่อวันมากถึง 1.3% เพราะคนที่นอนหลับเป็นเวลานานกว่า 9 ชั่วโมงจะทำให้ร่างกายไม่ได้ขยับตัว และออกกำลังกายมากเท่าที่ควร ทำให้ปริมาณออกซิเจนภายในร่างกายลดลงนั่นเอง


โทษของการนอนดึกกับปัญหาผิวพรรณ

1. ใต้ตาหมองคล้ำ

นี่คือปัญหาแรกสุดที่เราจะเจอใต้ตาดำเหมือนหมีแพนด้าชนิดที่ว่าครีมบำรุงราคาแพงขนาดไหนก็เอาไม่อยู่ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าทุกคนที่มีใต้ตาดำคล้ำจะต้องเป็นคนที่ชอบนอนดึกเท่านั้น ยังมีสาเหตุอื่นๆ เมื่อเรานอนดึกมากขึ้น ดวงตาก็ต้องทำงานเป็นเวลายาวนานมากขึ้น เกิดอาการเมื่อยล้าลูกนัยย์ตา กล้ามเนื้อตา ไปจนถึงเกิดการขยายตัวของหลอดเลือดบริเวณใต้ตาอย่างมาก และเนื่องจากผิวหนังใต้ตาเป็นส่วนที่ค่อนข้างบาง จึงมองเห็นการเปลี่ยนแปลงของหลอดเลือดได้ง่าย นอกจากนี้ เมื่อเรานอนดึกตาก็จะแห้ง ทำให้ระคายเคืองได้ง่าย พฤติกรรมที่มักจะเกิดตามมาก็คือ การขยี้ตา ซึ่งทำให้ใต้ตายิ่งช้ำและมีริ้วรอยมากขึ้นไปอีก

2. สิวมาเยือน

ฮอร์โมนหรือการทำความสะอาดผิวไม่ดีพอเท่านั้นที่ทำให้สิวเห่อขึ้นมาได้การนอนดึกก็กระตุ้นให้สิวทุกประเภทผุดขึ้นมาเต็มหน้าของเราได้เหมือนกัน โดยเฉพาะสิวอักเสบที่มักจะเป็นผลพวงจากความแปรปรวนภายในร่างกายสิวแต่ละตำแหน่งบนใบหน้าสามารถบ่งบอกความผิดปกติของภายในร่างกายเราได้ และเมื่อระบบในร่างกายรวนแล้ว สิวก็พร้อมใจกันมาได้อย่างไม่ต้องสงสัย ซึ่งสิวเหล่านี้รักษาได้ยาก นอกเสียจากจะปรับภายในให้กลับมาดีเหมือนเดิม

3. ผิวหนังเหี่ยวย่น ริ้วรอยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

เราจะเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าคนที่นอนพอจะมีผิวพรรณที่เด็กกว่า ใบหน้าที่อ่อนเยาว์กว่าหลายปี ในขณะที่อีกคนจะมีริ้วรอยก่อนวัยเต็มไปหมด นั่นก็เพราะช่วงเวลาที่เรานอนหลับ จะมีนาทีทองแห่งการฟื้นฟูร่างกายอยู่ GH หรือ โกรทฮอร์โมน จะหลั่งออกมาเพื่อซ่อมแซมและบำรุงส่วนที่สึกหรอในแต่ละวัน ดังนั้นคนที่นอนดึกก็จะไม่ได้รับการฟื้นฟูเลย ร่างกายจึงทรุดโทรมลงเรื่อยๆ เมื่อเวลาผ่านไปจึงกลายเป็นคนที่มีผิวพรรณและใบหน้าแลดูเกินอายุไปมาก ควร บำรุงผิว ที่มีส่วนผสมHorse Placenta บริสุทธิ์จากญี่ปุ่น เป็นสารสกัดที่ช่วยให้ผิวกระจ่างใส ฝ้าและกระดูจางลงเมื่อใช้เป็นประจำอย่างต่อเนื่อง ให้ความชุ่มชื่นกระชับรูขุมขนและช่วยให้ริ้วรอยดูตื้นขึ้นและไม่อุดตันผิว

4. ผิวแห้งลอกและสูญเสียความยืดหยุ่น

ช่วงเวลาที่เราใกล้จะเข้านอน หรือถึงเวลาที่ร่างกายต้องพักผ่อน ระบบต่างๆ ภายในจะเริ่มเข้าสู่โหมดของการพักเพื่อให้ร่างกายได้ฟื้นฟูตัวเอง ยิ่งนอนดึกมากเท่าไร ก็จะยิ่งมีกระบวนการดึงน้ำออกจากเซลล์เพื่อเอามาใช้งานมากขึ้นส่งผลให้ผิวแห้งมาก อาจมีอาการลอกเป็นขุยให้เห็น สำหรับคนที่ผิวบอบบางก็จะกระตุ้นให้เกิดแผลตามผิวหนังได้ด้วย และแน่นอนเมื่อผิวหนังขาดน้ำ ความยืดหยุ่นต่างๆ ก็หดหายตามไป ผิวหน้าเด็กเด้งสดใสจึงไม่อาจอยู่กับคนที่นอนดึกได้นานเท่าที่ควร

5. กระ ฝ้า ก็มาด้วยเหมือนกัน

ตัวการที่ร้ายกาจต่อการเกิดจุดด่างดำ ฝ้า กระ บนผิวหน้าของเราก็คือแสงแดด อันนี้เราเข้าใจกันดีอยู่แล้ว และก็สรรหาทุกวิธีในการป้องกัน ไม่ว่าจะเป็นหลีกเลี่ยงการเผชิญแดดในช่วงกลางวัน ป้องกันผิวด้วยครีมกันแดดดีๆ แต่ที่อีกหลายคนยังไม่รู้ก็คือ ถ้าเรานอนดึก ฝ้า กระ ก็เกิดได้ง่ายแม้ว่าจะโบกครีมกันแดดมากมายขนาดไหนก็ตาม นั่นก็เพราะการนอนดึกจะส่งผลให้ผิวสร้างคอลลาเจนน้อยกว่าปกติมาก ผิวจึงไม่อาจทนทานต่อมลภาวะที่ต้องเจอทุกวันได้เต็มประสิทธิภาพ


ใครที่มีพฤติกรรมในการนอนที่ผิดปกติ ไม่ว่าจะเป็นเด็ก วัยรุ่น ผู้ใหญ่ หรือวัยชรา ควรเข้ารับการตรวจร่างกายเพื่อหาสาเหตุที่ชัดเจนต่อไป ก่อนเกิดอันตรายกับร่างกายในอนาคตและการมั่นดูแลผิวจาก สิวผด อักเสบ ก็เป็นอีกสิ่งที่ไม่ควรละเลย เนื่องจากโควิดทำให้เราต้องใส่แมสหรือหน้ากากอนามัยซึ่งเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค เราควรเปลี่ยนหน้ากากอนามัยทุกวันเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาสิวตามมากันนะ

 

อ่านเพิ่มเติม ได้ที่ ผิวเสีย ผิวเหี่ยว

ติดตามอ่านบทความดีๆ ได้ที่ beautymustknow.com

กันแดด กันดะ มีวางจำหน่ายแล้วทั่วประเทศ สอบถามข้อมูลและเลือกซื้อสินค้าเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : https://www.facebook.com/pg/kandabeauty.company/ website : Kandabeauty.com

ดู 4 ครั้ง0 ความคิดเห็น

Comments


bottom of page