top of page
ค้นหา
รูปภาพนักเขียนniracha payyakul

ผิวแห้ง ผิวแตก ช่วงหน้าหนาวขาดความชุ่มชื้นแก้อย่างไร

ผิวแห้ง ผิวแตก ช่วงหน้าหนาวขาดความชุ่มชื้นแก้อย่างไร

ถึงช่วงปลายปี หน้าฝนกำลังจะผ่านไป หน้าหนาวกำลังจะเข้ามาแทนที่ ผิวแห้ง ผิวแตก ผิวลอกขาดความชุ่มชื้น เกิดจากความชื้นที่อยู่ในอากาศมีน้อยลง ทำให้ผิวหนังเสียน้ำและความชื้นในผิวได้ง่าย ถึงแม้ว่าจะมีเพียงบางภูมิภาคของประเทศไทยเท่านั้นที่จะมีอากาศหนาวจัดก็ตาม แต่ก็ไม่ควรละเลยที่จะใส่ใจดูแลสุขภาพให้แข็งแรงในช่วงอากาศเย็น ๆ แบบนี้ เพราะอากาศที่เริ่มมีการเปลี่ยนแปลง อุณหภูมิที่เย็นลง หากใครที่มีสุขภาพแข็งแรงไม่เพียงพอก็อาจจะทำให้ป่วยไข้ไม่สบายได้ รวมถึงอาจมีปัญหาผิวแห้ง แตก ลอกได้ง่ายในช่วงอากาศหนาวเย็น



ในฤดูหนาว อากาศเย็นลง อุณหภูมิลดลง ความชื้นในอากาศก็จะลดลงตามไปด้วย สภาพอากาศรอบ ๆ ตัวเราก็จะแห้งขึ้น น้ำในผิวหนังจะระเหยผ่านผิวหนังออกมาสู่ชั้นบรรยากาศ ดังนั้น คนที่ผิวแห้ง หรือแพ้ง่าย ถ้าไม่ดูแลผิวหนัง ปล่อยปละละเลยการดูแลบำรุงผิวเพื่อรักษาความชุ่มชื้นให้ผิว ก็จะเริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติมากกว่าคนที่มีสุขภาพผิวสมบูรณ์ อาจเริ่มเห็นความผิดปกติที่ชัดเจน เช่น ริมฝีปากจะแห้งเป็นร่อง เป็นขุย เจ็บ ผิวหนังก็จะแห้งเป็นขุย คัน มีผื่น บางคนเกาเป็นแผลมีสะเก็ด ผมจะแห้ง กระด้าง หวียากขึ้น หนังศีรษะแห้งกระด้าง รู้สึกคันหนังศีรษะ ใส่เสื้อผ้าแล้วเจ็บ มีไฟฟ้าสถิตดูดเสื้อผ้า ล้วนเป็นอาการที่แสดงว่าผิวกำลังขาดน้ำ


สำหรับวิธีการดูแลผิวในช่วงหน้าหนาวนี้


แนะนำให้หลีกเลี่ยงการอาบน้ำอุ่น หรือปรับให้อุ่นน้อยลง เพราะการอาบน้ำอุ่นหรือน้ำที่มีอุณหภูมิสูงมากเกินไปจะทำให้เกิดการชะล้างไขมันในชั้นผิวหนังให้ออกไปมากเกินความจำเป็น ส่งผลเสียให้ผิวแห้งและขาดความยืดหยุ่น ทั้งยังเป็นการลดความสามารถในการกักเก็บความชุ่มชื้น ทำให้ผิวแห้งตึง และไม่ควรสครับผิว เพราะจะเป็นการลอกเอาชั้นเซลล์ที่ปกป้องความชุ่มชื้นของผิวออกไปด้วย

แต่สิ่งสำคัญที่สุดในการดูแลผิวไม่ใช่เฉพาะในฤดูหนาวเท่านั้น แต่ต้องทำเป็นประจำทุกฤดู ให้ติดเป็นนิสัย นั่นคือการหมั่นทาครีมบำรุงผิวที่เหมาะสมกับสภาพผิวของแต่ละคน ถือเป็นการดูแลผิวอย่างง่ายและดี ในคนที่ผิวแพ้ง่ายจะมีแนวโน้มผิวแห้งง่ายกว่าคนทั่วไป หรือมีขนคุดด้วย จึงควรเลือกครีมบำรุงผิวที่ช่วยเพิ่มน้ำหรือความชุ่มชื้นให้ผิว (Natural moisturizing factor) และเพิ่มสารปกป้องผิวด้วย นอกจากการหมั่นทาครีมบำรุงเป็นประจำแล้ว ยังมีวิธีง่าย ๆ ที่ทำแล้วจะช่วยให้มีสุขภาพผิวที่ดีอีกหลายวิธี เช่น ดื่มน้ำสะอาดมาก ๆ ทาวาสลีนเคลือบที่ริมฝีปากบ่อย ๆ หลีกเลี่ยงแสงแดด ลมแรง ทาครีมกันแดดอยู่เสมอ เลือกแชมพูสระผมอ่อน ๆ และควรใช้คอนดิชันเนอร์ทุกครั้งหลังสระเพื่อปรับสภาพประจุไฟฟ้า ให้ผมไม่ชี้ฟู หวีง่าย และใส่เสื้อผ้าปกปิดมิดชิด เพื่อลดการสัมผัสกับความแห้ง เป็นการลดการเสียน้ำของผิวหนัง เป็นต้น


เติมเต็มความชุ่มชื้นให้กับผิวที่แห้งและปัญหาฝ้า

ความแห้งกร้านของ ผิว อาจไม่ใช่สภาพที่แท้จริงของผิวเสมอไป แต่มีสาเหตุมาจากการเปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาลและปัจจัยสภาพแวดล้อม ความแห้งไม่เพียงแต่เข้าไปทำลายชั้นป้องกันของผิว แต่ยังลดระดับความชุ่มชื้น ทำให้เกิดการอักเสบและปัญหาฝ้า หลีกเลี่ยงปัญหาผิวแห้งด้วยการให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวอย่างเพียงพอ ศึกษาแนวทางในการเติมเต็มความชุ่มชื้นได้จากคำแนะนำในการดูแลผิว และเตรียมพบกับผิวที่แข็งแรงและสดใสยิ่งกว่าเดิม


KANDA Whitening Serum is whitening serum with white strawberry Extract in which provide brightening solution. Prevent melasma and acne scar. Kanda Whitening Serum is paraben free and suitable for all of skin type กันดะ ไวท์เทนนิ่งเซรั่ม เป็นเซรั่มบำรุงผิว ช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใส ด้วยสารสกัดจากสตรอว์เบอร์รี่ขาว ที่จะช่วยให้ผิวขาวอมชมพู ซึมเข้าสู่ผิวได้ไว ช่วยยับยั้งและลดเลือนรอยฝ้า กระ และจุดด่างดำ อันเกิดจากรอยแผลเป็นของสิว ดูจางลง กระชับรูขุมขน ไม่อุดตันผิว ลดรอยแผลเป็นจากสิว รอยดำ รอยแดง ปลอดภัย 100% ไม่มีพาราเบน

เพื่อการดูแลผิวที่ชุ่มชื้นและอิ่มเอิบ

1. ผิวของคุณจะอยู่ในสภาพดีที่สุดในตอนเช้า

ความชื้นในอากาศจะแตกต่างกันไประหว่างวัน เช่นเดียวกับความชื้นของผิวที่ไม่คงที่ระหว่างเช้าถึงค่ำ เวลาเช้าคือช่วงที่ผิวมีความอิ่มเอิบมากที่สุด จากนั้นความชื้นจะค่อย ๆ ลดลงระหว่างวัน สาเหตุก็เนื่องมาจากปัจจัยดังต่อไปนี้

  • การอยู่ในห้องปรับอากาศที่มีความชื้นต่ำ

  • ความเหนื่อยล้าและความเครียด

  • กระบวนการออกซิเดชั่นจากรังสี UV

เนื่องจากเงื่อนไขเหล่านี้คือสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยากในชีวิตประจำตัว การให้ความชุ่มชื้นจึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งในการป้องกันปัญหาผิวแห้ง 2. ภาวะผิวแห้ง - แตกต่างกันอย่างไรระหว่างฤดูหนาวและฤดูร้อน ในช่วงฤดูหนาว ผิวจะแห้งกว่าปกติเนื่องจากอุณหภูมิและความชื้นที่ต่ำ ในช่วงฤดูร้อน แม้ว่าผิวจะแห้ง แต่ก็จะมีความเหนอะหนะให้สัมผัสได้มากกว่ากัน ทั้งนี้ก็เนื่องมาจากการหลั่งไขมันที่มากกว่าระหว่างช่วงฤดูร้อน ทำให้ผิวหนังด้านนอกเหนอะหนะมากกว่า ไม่เพียงแต่รังสี UV ที่แรงกว่าในช่วงฤดูร้อน แต่อุณหภูมิก็มีความแปรผันระหว่างภายในอาคารที่ติดเครื่องปรับอากาศและอากาศภายนอกที่ร้อนระอุที่ทำให้ผิวยิ่งได้รับความเสียหาย สิ่งเหล่านี้ล้วนกระทบต่อชั้นป้องกันของผิว ทำให้ผิวมีโอกาสแห้งมากขึ้น 3. การนอนพักผ่อนอย่างเพียงพอจะทำให้ผิวของคุณแข็งแรงมากขึ้น จากสถิติพบว่า หากเรานอนหลับห้าชั่วโมงทุกคนต่อเนื่องหลายวัน น้ำในผิวจะลดลงถึง 17% และจะรุนแรงขึ้นถึง 13 เท่าเมื่อเทียบกับสภาพผิวตามปกติ! ดังนั้นคุณควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ผิวงดงามอยู่เสมอ 4. การสูบบุหรี่และการดื่มสุราสามารถสร้างปัญหาให้กับผิวที่งดงาม สุราสามารถทำให้ผิวแห้งขึ้นและทำให้เกิดความเสียหายต่อผิว นอกจากนี้ สุราที่ไม่ผ่านการเผาผลาญโดยร่างกาย จะรบกวนชั้นป้องกันของผิวและความสามารถในการรักษาความชุ่มชื้น ผิวของคุณจะเริ่มสูญเสียความชื้นได้ในเวลาหนึ่งชั่วโมงหลังจากบริโภคแอลกอฮอล์! สำหรับการสูบบุหรี่ การสูดควันบุหรี่จะส่งผลให้เกิดการออกซิเดชั่น และทำให้เกิดการเสียสมดุลของสารต้านอนุมูลอิสระในร่างกายทำให้เซลล์ผิวถูกทำลาย ผลที่เกิดขึ้นคือผิวที่หมองคล้ำ เสื่อมสภาพเร็วและทำให้เกิดโรคในเวลาต่อมา 5. Natural Moisturizing Factor (NMF) ทำหน้าที่รักษาระดับความชุ่มชื้นของผิวเพื่อให้ผิวดูอิ่มเอิบ NMF ในชั้นหนังกำพร้าถือเป็นชั้นป้องกัน และชั้นไขมันระหว่างเซลล์ผิว เช่น ซีบัมและเซราไมด์ ที่จะคอยรักษาระดับความชุ่มชื้นให้เพียงพอเพื่อให้ผิวดูเต่งตึง ในช่วงวัยเด็กปริมาณ NMF จะมีมาก และจะลดลงอย่างรวดเร็วไปตามอายุ ผลคือปริมาณน้ำในผิวที่ลดลงทำให้ผิวสูญเสียความยืดหยุ่นและหมองคล้ำ ดังนั้นการให้ความชุ่มชื้นจึงเป็นสิ่งสำคัญในการดูแลผิวให้อ่อนวัยและเต่งตึงอยู่เสมอ

อากาศแห้งส่งผลกระทบกับผิวในระยะยาว อากาศแห้งเนื่องจากปริมาณน้ำในผิวชั้นนอกสุดมักจะขึ้นอยู่กับความชื้นของสภาพอากาศ ด้วยเหตุนี้ ความชื้นที่ต่ำและอากาศเย็นในช่วงฤดูใบไม้ร่วงหรือฤดูหนาวจึงสามารถทำให้ผิวแห้งมากยิ่งขึ้น ซึ่งในช่วงฤดูร้อน เราก็อาจเผชิญกับปัญหาผิวแห้งได้เช่นกันเมื่อต้องอยู่ในห้องแอร์เป็นระยะยาว อาการของผิวแห้ง

  • รู้สึกตึงหรือแห้งที่ผิว

  • ผิวไม่เปล่งปลั่ง ขาดความอิ่มเอิบ

  • เครื่องสำอางไม่ติดและหลุดล่อนออกโดยง่าย

  • ผิวเป็นขุยลอกล่อน

  • ผิวหยาบกร้านเมื่อสัมผัส

  • เกิดสิวและ/หรือผดอักเสบต่างๆ


ผิวที่แห้งมักจะเผชิญกับปัญหาความตึง หยาบและไม่เปล่งประกาย นอกจากนี้ยังทำให้ผิวไม่เรียบเนียนทำให้เกิดปัญหาแต่งหน้าไม่ติด ไม่เพียงเท่านั้น ผิว ยังมีโอกาสเกิดการลอกเป็นขุยและหยาบกร้านมากขึ้นเรื่อย ๆ หากปัญหาผิวแห้งเกิดขึ้นแบบเรื้อรัง ชั้นป้องกันของผิวจะเสียหายและไม่สามารถให้การปกป้องได้อีกต่อไป และนำไปสู่ภาวะผิวแพ้ง่าย หยาบหร้านหรือมีการหลั่งของต่อมไขมันมากเกินควร ซึ่งจะยิ่งทำให้ปัญหาผิวแห้งยิ่งรุนแรงขึ้นไปอีก ที่จะส่งผลให้รูขุมขนอุดตัน และทำให้เกิดสิว

  • รังสี UV ส่งผลให้เกราะปกป้องผิวอ่อนแอ

ชั้นป้องกันผิวของเราประกอบไปด้วยชั้นไขมันต่าง ๆ ที่คอยปกป้องผิวชั้นนอกจากสารก่อภูมิแพ้หรือจุลินทรีย์ แนวป้องกันจากต่อมซีบัมที่ผิวหนังจะคอยรักษาความชุ่มชื้นเพื่อให้ป้องกันผิวอย่างสมบูรณ์ อย่างไรก็ตาม รังสี UV จะทำให้เกิดการออกซิเดชั่นและลดประสิทธิภาพของชั้นป้องกันเหล่านี้

  • การผลัดหรือขัดถูผิวมากเกินไปเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ผิวแห้ง

สาเหตุของผิวที่แห้งอาจเกิดจากสภาพแวดล้อม หรือการใช้เครื่องสำอางที่ทำให้ผิวเสียเนื่องจากผิวภายนอกที่ถูกทำร้าย นอกจากนี้แล้ว การปล่อยปละละเลยของเราเองก็อาจทำให้ผิวแห้งได้เช่นกัน เพราะการถูใบหน้าแรงเกินไปในขณะที่ล้างหรือเช็ดหน้า หรือการทาครีมหรือโลชั่นหนักมือ อาจทำให้ชั้นป้องกันของผิวเสียหายและทำให้ผิวแห้งมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

  • การนอนหลับพักผ่อน

เซลล์ผิวชั้นล่างของเรามีเกิดใหม่ตลอดเวลาเพื่อทดแทนเซลล์ผิวชั้นบนแต่ทำไมการนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอจึงมีความสำคัญต่อสุขภาพผิว? วงจรการนอนหลับของเรามีผลต่อโกรทฮอร์โมน และหากวงจรการนอนหลับถูกรบกวน โกรทฮอร์โมน ซึ่งมีหน้าที่ให้ผลัดเซลล์ใหม่และซ่อมแซมเซลล์ ก็จะทำงานอย่างไม่เต็มที่ ผิวแห้งคือผลจากการที่เซลล์ผิวและเนื้อเยื่อไม่ได้รับการซ่อมแซมตามที่จำเป็น


  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์เพื่อสุขภาพผิวที่ดี


เพื่อช่วยในการฟื้นฟูและซ่อมแซมเซลล์ผิว ควรเลือกรับประทานอาหารสมส่วน การรับประทานอาหารวันละสามมื้อเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยควบคุมการทำงานของร่างกายให้เป็นปกติและน่าเชื่อถือกว่าการพึ่งพาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเป็นหลัก และนี่เป็นสาเหตุที่หลาย ๆ คนที่กำลังลดการกินอาหารมักมีปัญหาผิวหยาบกร้าน

ปัญหาผิวหนังในหน้าหนาวที่พบบ่อยที่สุด ผิวแห้งมากควรใช้ครีมบำรุงผิวที่ไม่เหนียวเหนอะหนะ และการเลือก ครีมบำรุงหน้า ลดริ้วรอย เพื่อดูแลผิวพรรณเป็นสิ่งที่มีความหย่อนคล้อยตามกาลเวลา ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่อุดมไปด้วยมอยส์เจอไรเซอร์ คอลลาเจน หรือสารสกัดจากธรรมชาติ

 

อ่านเพิ่มเติม ได้ที่ ผิวแห้ง ผิวแตก

ติดตามอ่านบทความดีๆ ได้ที่ beautymustknow.com

กันแดด กันดะ มีวางจำหน่ายแล้วทั่วประเทศ สอบถามข้อมูลและเลือกซื้อสินค้าเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : https://www.facebook.com/pg/kandabeauty.company/ website : Kandabeauty.com

ดู 6 ครั้ง0 ความคิดเห็น

Comments


bottom of page