top of page
ค้นหา
รูปภาพนักเขียนniracha payyakul

ฝ้า กระ ต่างกันอย่างไร สาเหตุของการเกิดฝ้าและกระ

อัปเดตเมื่อ 7 ธ.ค. 2564

ฝ้า กระ ต่างกันอย่างไร สาเหตุของการเกิดฝ้าและกระ

สาวๆ ท่านใดที่กำลังดูแลผิวหน้า ไม่ให้เกิดสิว จนหน้าไม่มีสิวเกิดขึ้นแล้ว แต่มีรอยจุดสีน้ำตาลอ่อนๆ เพิ่มขึ้นมาแทน หรือเป็นรอยสีน้ำตาลปื้นๆ ขึ้นมา บางทีอาจจะดูแลผิวหน้าแค่เรื่องสิวอย่างเดียว จนลืมไปว่าต้องดูแลผิวหน้าอย่างอื่นด้วย รอยสีน้ำตาลที่ว่านั้นก็คือ ฝ้า กระ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวหน้าของเราไม่เนียนใส เป็นปัญหากวนใจมากที่สุด บางคนก็เกิดความสงสัยว่า ฝ้า กระ ต่างกันอย่างไร ทำไมถึงเรียกไม่เหมือนกัน

เราจะมาบอกสาเหตุของการเกิด ฝ้า กระ หรือว่าจุดด่างดำที่ขึ้นบนใบหน้าให้สาวๆ ทราบว่าจริงๆ แล้วมันคืออะไร เกิดขึ้นมาได้อย่างไร แล้วจะมีวิธีที่จะป้องกันได้ไหม วันนี้เราจะพาสาวๆ มาหาคำตอบไปพร้อมๆ กัน เชื่อว่ามันไม่ใช่เรื่องยากที่เราจะดูแล รักษา และป้องกัน เพื่อไม่ก่อให้เกิด ฝ้า กระ บนใบหน้าของเราได้อีกต่อไป

ฝ้า

ลักษณะของฝ้าจะเป็นรอยสีน้ำตาลปื้นๆ ขนาดใหญ่ เป็นรอยที่เห็นได้ชัดเนื่องจากสีจะเข้มกว่าสีผิวเรา เกิดจากความผิดปกติของสีผิวหนังบางส่วน ที่อยู่บนผิวหน้าของเรา เกิดขึ้นกับบางคนเท่านั้น เนื่องจากว่าเซลล์ผิวหนังของเรานั้นสร้างสีผิวเข้มขึ้นมามากกว่าบริเวณอื่นๆ จะขึ้นเป็นจำนวนมากที่สุดบริเวณโหนกแก้ม และสันจมูก เพราะว่าเป็นจุดที่โดนแสงแดดบ่อยมากที่สุด ฝ้านี้สามารถขึ้นได้กับทุกสีผิว ถึงแม้ว่าจะเป็นคนผิวสีเข้มก็สามารถขึ้นได้เช่นกัน ส่วนมากจะเกิดขึ้นกับผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย

ฝ้า จะสามารถแบบออกได้เป็น 2 ชนิด คือ ฝ้าตื้น กับฝ้าลึก ซึ่งความแตกต่างของ 2 ชนิดนี้ก็คือความตื้ต ลึก ของเม็ดสีนั่นเอง โดยฝ้าที่มีชนิดตื้นก็จะเป็นฝ้าที่ขึ้นบนเซลล์ผิวหนังชั้นกำพร้า ส่วนฝ้าชนิดลึกนั้น ก็จะขึ้นในส่วนของผิวหนังที่ลึกลงไปอีกชั้น นั่นก็คือผิวหนังแท้ ความเข้มของเม็ดสีก็แตกต่างเช่นกัน ชนิดตื้นจะมีความเข้มที่น้อยกว่าชนิดลึกนั่นเอง

  • กระ

ลักษณะของกระ จะมีจุดสีน้ำตาลเล็กๆ อยู่เต็มใบหน้า จะอยู่ในจุดเดียวกันกับฝ้า รวมไปถึงบริเวณส่วนต่างๆ ในร่างกายได้อีกด้วย โดยมีสาเหตุเกิดจากเซลล์สร้างเม็ดสีขึ้นเป็นจำนวนมากจนผิดปกติ มักจะจะเกิดขึ้นง่ายในคนที่มีสีผิวขาว คนผิวดำจะมีโอกาสเป็นยากกว่า ส่วนคนที่มีพ่อ หรือว่าแม่ เป็นกระอยู่แล้ว ก็จะมีโอกาสเกิดขึ้นได้ง่ายกว่าคนทั่วไป ยิ่งถ้าตากแดดบ่อยๆ ก็จะทำให้เพิ่มโอกาสในการเกิด กระ ขึ้นได้ง่าย

  • ฝ้า กระ เกิดได้อย่างไร

ฝ้า กระ มักจะเกิดขึ้นจากผิวที่ถูกรังสัง UVA / UVB โดยตรงมากจนเกินไป จนทำให้ผิวถูกทำร้ายเป็นเวลายาวนาน และเกิดเม็ดสีเมลานินได้เกราะตัวอยู่ด้วยกันเป็นกระจุก จนทำให้เกิดสีผิวน้ำตาลเข้มขึ้น ที่เรียกว่า ฝ้า หรือว่ากระ แต่ก็ใช่ว่าจะเกิดเพียงแค่ผิวถูกแสงแดดเท่านั้น ฮอร์โมนที่ผิดปกติของคนเราก็สามารถก่อให้เกิด ฝ้า กระ ได้เช่นกัน อีกทั้งคนที่แพ้เครื่องสำอางก็เป็นอีก 1 สาเหตุ


  • พฤติกรรมที่ทำให้เสี่ยงการเกิด ฝ้า กระ ได้อย่างง่าย

แสงแดดที่ทำร้ายผิว : แสงแดดที่ส่องลงมาในทุกๆ วันนั้น สามารถทำร้ายผิวให้เกิดฝ้า กระ ได้ดีทีเดียว เพราะว่าแสงแดดมีคลื่นรังสีของ UVA และ UVB ที่จัดมากๆ แฝงอยู่ ถ้าขืนตากแดดแรงโดยที่ไม่ป้องกันใดๆ อาจจะเสี่ยงเกิดฝ้า และกระ ได้อย่างง่ายแน่นอน เกิดจากอนุมูลอิสระในร่างกายที่เพิ่มมากขึ้น จนเกิดรอย ฝ้า กับ กระ ให้เห็นเด่นชัดตามสัดส่วนต่างๆ ของใบหน้า เมื่อเกิดขึ้นแล้วถ้าไม่รักษาให้หาย ฝ้า กระ ก็จะอยู่บนใบหน้าของเราตลอดไป เมื่อทราบอย่างนั้นแล้ว ก็ควรที่จะปกป้องผิวก่อนออกไปเจอแสงแดด อย่างเช่นทาครีมกันแดด หรือว่า ใส่หมวก ใส่แว่นตา อีกทั้งยังต้องปกป้องผิวกายด้วยนะ ฝ้า กระ สามารถขึ้นตามจุดต่างงๆ ของร่างกายได้เช่นกัน

อยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นประจำ : แสงสว่างที่จอคอมทำให้เกิดฝ้า กระ ได้ รู้หรือไม่ เนื่องจากเมื่ออยู่หนเจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลา จะทำให้เกิดความร้อนที่สะสมอยู่บนใบหน้าเป็นจำนวนมาก จนเกิดปฏิกิริยากับเม็ดสีเมลานินที่อยู่ใต้ผิวหนัง และก่อให้เกิดฝ้า กระ ในที่สุด ป้องกันโดยให้นำต้นกระบองเพชรมาวางไว้ข้างๆ จอคอมฯ ต้นกระบองเพชรจะช่วยดูดซับแสงถือว่าจะช่วยได้บ้าง แต่ถ้าฝ้าขึ้นมาอยู่บนใบหน้าแล้วก็ต้องหาวิธีรักษากันแล้วล่ะ

ความเครียดบ่อยเกินไป : ความเครียดก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่สัมพันธ์กับฝ้าโดยตรง เพราะเมื่อฮอร์โมนที่อยู่ในร่างกายแปรปรวน จนทำให้ฮอร์โมนไม่สมดุล และเป็นสาเหตุที่ทำให้เมลานินนั้นอยู่สะสมเป็นจำนวนมาก จนเกิดเป็นฝ้า กระ ในที่สุด

แพ้เครื่องสำอาง : สำหรับสาวๆ ที่ชอบแต่งหน้าเป็นประจำ เมื่อหน้าเป็นฝ้าแล้วกำลังรักษาอยู่ แต่ฝ้า กระ ก็ไม่จางหายไป อาจจะไม่ใช่เพราะว่ารักษาไม่หาย แต่อาจจะเป็นเพราะว่าการแพ้เครื่องสำอางที่ก่อให้เกิด ฝ้า กระ ขึ้นเรื่อยๆ จนรู้สึกว่าฝ้า กระ ไม่จางหายลงไปซักที เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของ น้ำหอม สารกันเสีย แต่งสี อาจจะทำให้เกิดรอยจุดด่างดำ ฝ้า กระขึ้นบนใบหน้าได้ แนะนำว่าการไม่เปลี่ยนเครื่องสำอางบ่อย น่าจะช่วยได้ เพราะว่าถ้าเปลี่ยนเครื่องสำอางบ่อยเกินไป อาจจะทำให้เราแพ้ก็ได้ ที่สำคัญก่อนจะเลือกใช้เครื่องสำอางใดๆ ควรอ่านฉลากให้ดี ว่าข้างในเครื่องสำอางนั้นมีส่วนประกอบของอะไรบ้าง มีสารที่ก่อให้เกิดการแพ้หรือไม่

ใช้ครีมที่ไม่ได้มาตรฐาน : ครีมต่างๆ ที่ใช้บำรุงหน้าขาว มักจะมีการอวดอ้างสรระคุณมากมายต่างๆ นาๆ อยู่ให้เห็นกันเต็มในโลกออนไลน์ ถ้าเราไม่ได้ศึกษาคุณสมบัติ และสารประกอบให้ดี อาจจะก่อให้เกิดฝ้า กระ ขึ้นได้ เพราะว่าครีมที่บำรุงให้หน้าขาวส่วนใหญ่ที่เห็นผลไว มักจะมีสารปรอท และสารเครมีต่างๆ แฝงอยู่ สารเหล่านี้จะทำร้ายผิวของเรา ผิวอาจจะขาวไวก็จริง แต่ซักพัก ฝ้า กระ ตามมาอย่างแน่นอน มิหนำซ้ำยังทำให้ฝ้าฝังลึกลงไปได้อีกด้วย


พักผ่อนไม่เพียงพอ : คนที่พักผ่อนน้อยจะก่อให้เกิดสิว ริ้วรอย รวมไปถึงความหมองคล้ำ เมื่อร่างกายของเราพักผ่อนไม่เพียงพอในแต่ละวัน ระบบอวัยวะภายในร่างกายก็จะรวน มีผลต่อฮอร์โมนทำงานได้ไม่ค่อยดี จนเป็นสาเหตุที่ส่งผลถึงความเครียด จนเกิดอนุมูลอิสระจำนวนมาก ส่งผลไปยังเม็ดสีเมลานินสะสมเกิดเป็น ฝ้า กระ ขึ้นมานั่นเอง

ขาดสารอาหาร : คนเรามักจะรับประทานอาหารที่ไม่ค่อยมีประโยชน์ต่อร่างกายมากเท่าไหร่นัก โดยเฉพาะของทอด ของมัน ทั้งหลาย เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะเหตุเมื่อเรามีฝ้า กระ และกำลังรักษาอยู่ ฝ้า กระ มันจะไม่จางหายไปอย่างแน่นอน ดังนั้น ควรที่จะรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ผัก ผลไม้ โปรติน และวิตามินต่างๆ และดื่มน้ำอย่างน้อย วันละ 8-10 แก้ว ก็จะช่วยให้ร่างการสามารถต่อต้านสารอนุมูลอิสระ ช่วยขับถ่ายสารพิษออกจากร่างกายได้เป็นอย่างดี และสามารถรักษา ฝ้า กระ ได้เช่นกัน

ไม่ชอบล้างหน้าก่อนเข้านอน : การที่ไม่ล้างหน้าก่อนเข้านอน ก็จะเป็นการทิ้งสิ่งสกปรก และสารเคมีจากเครื่องสำอางที่ตกค้างอยู่เต็มบนใบหน้า ส่งผลให้รอย ฝ้า กระ ชัดเจนและเข้มมากขึ้น เพราะว่าสิ่งสกปรกที่สะสมในผิวจะให้เมลานินก่อตัวขึ้นเป็นจำนวนมาก ต่อให้รักษาดีมากเท่าไหร่ก็ไม่อาจทำให้ ฝ้า กระ จางลงไปได้

รับประทานยาคุมประจำ : ยาคุมที่มีส่วนผสมของฮอร์โมนเพศอยู่ จะทำให้เซลล์สร้างเม็ดสีทำงานขึ้นมา สาวๆ ที่ทานยาคุมมักจะเกิด ฝ้า กระ ได้ง่ายกว่าสาวๆ ที่ไม่รับประทาน และสาวๆ ที่กำลังตั้งครรภ์อยู่ก็เกิดรอยเหล่านี้ได้เช่นกัน แต่ถ้าเกิดสาวท่านใดที่จำเป็นต้องรับประทานยาคุมจริงๆ ให้เลือกยาคุมที่มีฮอร์โมนต่ำ แต่เมื่อหยุดรับประทานรอยฝ้า กระก็จะจางลงเองตามธรรมชาติ

ทั้งหมดก็คือความรู้เกี่ยวกับเรื่อง ฝ้า กระ รวมไปถึงความแตกต่างกันของฝ้า กระ สาเหตุที่เกิดฝ้า กระ ก็มีบอกแล้ว เมื่อทราบเช่นนั้นสามารถหลีกเลี่ยงได้จากทางไหนก็ควรจะทำ ดีกว่าให้เป็นมาก แล้วค่อยมารักษาตามหลัง เกรงว่าจะไม่ทันถ้าเกิดฝ้า กระ ที่ฝังลึกลงไปมากแล้วนั่น ก็จะยิ่งทำให้การรักษายากยิ่งขึ้นไปอีกด้วย สำหรับใครที่ต้องการปกป้องผิว ควรจะรู้ว่า กันแดด ดีอย่างไร และสำคัญกับผิวเรามากอย่างไร

 

อ่านเพิ่มเติม ได้ที่ ฝ้า กระ ต่างกันอย่างไร

ติดตามอ่านบทความดีๆ ได้ที่ beautymustknow.com

กันดะ ไวท์เทนนิ่งเซรั่ม เซรั่มบำรุงผิว มีวางจำหน่ายแล้วทั่วประเทศ สอบถามข้อมูลและเลือกซื้อสินค้าเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : https://www.facebook.com/pg/kandabeauty.company/ website : Kandabeauty.com

ดู 3 ครั้ง0 ความคิดเห็น

Comments


bottom of page