top of page
ค้นหา
รูปภาพนักเขียนniracha payyakul

รักษาสิว ทำทรีตเมนต์หน้า แนะนำการดูแลผิว

รักษาสิว ทำทรีตเมนต์หน้า แนะนำการดูแลผิว

สยบทุกปัญหาสิวอย่างแท้จริง รักษาสิว ทำทรีตเมนต์หน้า ด้วยการผสมผสานวิทยาศาสตร์และธรรมชาติเข้าไว้ด้วยกัน ผลิตภัณฑ์ที่แบ่งตามปัญหาผิวหน้า ซึ่งเหมาะกับทุกสภาพผิวที่เผชิญอยู่

หลีกเลี่ยงสาเหตุทำให้ผิวแห้งเสีย ซึ่งมีอยู่ด้วยกันหลายสาเหตุตามที่กล่าวมา เช่น งดการโดนแดดจัดและใช้ครีมกันแดด ใช้ครีมมอยส์เจอไรเซอร์ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามินเอ วิตามินอี และกลูต้าไธโอน ซึ่งจะช่วยช่วยป้องกันการทำลายผิวจากแสงแดด งดการสูบบุหรี่ ยาเสพติด สุรา เพราะมีสารอันตรายไปทำลายเซลล์ เป็นอนุมูลอิสระทำให้แก่เร็ว และอาจเป็นโรคร้ายได้ง่ายขึ้นด้วย


ในหน้าหนาว ถ้าต้องอาบน้ำอุ่นก็ให้ฟอกสบู่ไว ๆ เพราะถ้ายิ่งถูนานเท่าไรความชุ่มชื้นใต้ผิวก็จะยิ่งถูกดึงออกไปมากขึ้นเท่านั้น ส่วนหลังอาบน้ำก็ให้ทาโลชั่นหรือครีมบำรุงที่เข้มข้นและทาให้บ่อยขึ้น หรือหลังล้างหน้าเสร็จก็ให้ทามอยส์เจอไรเซอร์เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นกลับไปทันที โฟมล้างหน้าที่ใช้ก็ควรเลือกใช้ให้เหมาะสมกับสภาพผิว ล้างแล้วไม่ทำให้หน้ารู้สึกตึงมากก็เป็นอันใช้ได้ เป็นต้นและป้องกันสิว เจลแต้มสิว กันดะ เจลแต้มสิว คามูคามู วิตามินสูง 60เท่า ลดอักเสบ สิวอุดตัน สิวหนอง สิวหัวช้าง ยุบเร็ว แห้งไว สิวยุบหายใน 1 วัน ปลอดภัย 100% ทาหน้า ทาหลัง


การทำทรีตเมนต์ใบหน้า (Facial treatment) คือการปรนนิบัติผิวหน้า กระบวนการดูแล รักษา หรือบำรุงผิวหน้าด้วยวิธีการต่างๆ และขั้นตอนที่ต่างๆ ตามจุดประสงค์ของปัญหาผิวที่ต้องการดูแล อาจมีหลายวิธีรวมกันอยู่ในหนึ่งการทำทรีตเมนต์ หรืออาจมีเพียงวิธีการเดียวก็ได้ ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ในการทำ เช่น การทำทรีตเมนต์เพื่อกระชับใบหน้า อาจมีการผลัดเซลล์ผิวใหม่ ทาครีมบำรุง และนวดหน้า การทำทรีตเมนต์เพื่อกระชับใบหน้า ไม่ว่าจะเป็นการผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ การนวดหน้าเพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต การมาส์กหน้า การใช้ความร้อนหรือความเย็นเพื่อกระตุ้นการทำงานของผิว การผลักวิตามินเข้าสู่ผิวหน้า เพื่อลดเลือนริ้วรอย เพิ่มความกระจ่างใส หรือทำให้ผิวหน้าแข็งแรง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญในการให้คำปรึกษา และลงมือดูแลผิวหน้าซึ่งเป็นส่วนสำคัญของเราทุกคนด้วยความเข้าใจ รวมถึงการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ได้รับมาตรฐานและดูแลปัญหากังวลใจของผิวหน้าคุณได้อย่างตรงจุด

ดูแลผิวให้ถูกต้องตามวัย

การดูแลผิวอย่างถูกต้องตามวัยและตามสภาพผิวอย่างนุ่มนวลจะช่วยทำให้ผิวสวยและคงความอ่อนเยาว์ได้ เมื่อเข้าสู่วัยรุ่น จะเป็นวัยที่มีสิวมาก ควรหาวิธีขจัดความมันและรักษาสิวให้ถูกวิธีเพื่อไม่ให้เกิดรอยแผลเป็นจากสิว

  • เมื่อย่างเข้าวัย 20 ปี ควรจะดูแลผิวด้วยการพอกและขัดอย่างสม่ำเสมอทุกสัปดาห์ เพื่อทำความสะอาดและเพิ่มเติมสารอาหารบำรุงผิว พร้อมปกป้องผิวจากแสงแดดด้วยการทาครีมกันแดด

  • เมื่อย่างเข้าสู่วัย 30 ปี ผิวหนังจะเริ่มแห้งเหี่ยว มีน้ำมันออกมาตามผิวน้อยลง คุณควรเปลี่ยนไปใช้เครื่องสำอางให้เหมาะสม เช่น เครื่องสำอางที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ มีสารเพิ่มคอลลาเจน ฯลฯ และหมั่นกินอาหารที่มีวิตามินซีจากธรรมชาติทุกวัน

  • เมื่อย่างเข้าสู่วัย 40 ปี ผิวหนังจะแห้งลงมากและพบริ้วรอยมากขึ้น คุณควรใช้ครีมบำรุงที่อุดมไปด้วยน้ำมันเพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวได้อย่างยาวนาน

  • ในวัยย่างเข้า 50 ปี ผิวหนังจะหยุดการสร้างคอลลาเจน จนเกิดความหย่อนคล้อยของผิวได้อย่างชัดเจน คุณควรดูแลผิวด้วยการนวดหน้า กินอาหารให้ครบทุกหมู่ ทาครีมบำรุงผิวที่อุดมไปด้วยน้ำมันจากธรรมชาติและสารเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว เพื่อช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น ทำให้ผิวหนังดีขึ้นและชะลอการเสื่อมโทรมลงได้มาก

  • ในวัย 60 ปีขึ้นไป ซึ่งเป็นวัยชราที่จะมีริ้วรอยเกิดขึ้นมาก คุณควรปลงในเรื่องสังขาร พยายามทำใจให้ได้ ไม่ต้องไปตกแต่งหรือทำศัลยกรรม หมั่นทำจิตใจให้ผ่อนคลาย ทำบุญ เข้าวัด ฯลฯ โดยที่ยังคงใช้ครีมบำรุงผิว นวดหน้า และดูแลผิวพรรณอยู่เช่นเดิม เพื่อเพิ่มความสง่างามได้ตามวัย

ทรีตเมนต์หน้าช่วยอะไรได้บ้าง?

การทำทรีตเมนต์หน้าแต่ละสถานที่ให้บริการและแต่ละโปรแกรมมีจุดประสงค์ในการทำต่างกันออกไป แต่โดยส่วนมากมักทำเพื่อผลลัพธ์ที่อยู่ในข้อต่อไปนี้

  • ยกกระชับใบหน้า

  • ลดเลือนริ้วรอย

  • ผิวหน้ากระจ่างใส

  • รักษาสิว

  • ลดรอยคล้ำใต้ตา

  • ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวหน้า


ทำทรีตเมนต์หน้ามีวิธีไหนบ้าง?

วิธีที่นิยมนำมาใช้ในโปรแกรมการทำทรีตเมนต์หน้า อาจมีดังนี้

1.ทำทรีตเมนต์หน้าด้วยคลื่นวิทยุ

การทำทรีตเมนต์หน้าด้วยคลื่นวิทยุ (Radiofrequency therapy) คือการใช้อุปกรณ์ปล่อยคลื่นวิทยุเข้าไปกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจน (Collagen) และอีลาสติน (Elastin) ในชั้นผิว

เมื่อร่างกายสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินมากขึ้นอาจส่งผลให้

  • ผิวหน้าดูกระชับขึ้น ริ้วรอยดูจางลง

  • ผิวคล้ำเสียจากแดดดูจากลง

  • อาจช่วยให้ใบหน้าเรียวขึ้นเล็กน้อย

ผลการทำทรีตเมนต์หน้าขึ้นอยู่กับความต้องการและสภาพผิวของแต่ละคน บางคนอาจเห็นผลในครั้งแรกที่ทำ บางคนอาจต้องทำเป็นทรีตเมนต์หน้าเป็นคอร์ส ทำหลายครั้งเพื่อให้ได้รับผลลัพธ์ที่ต้องการ

2.อัลตราซาวด์ยกกระชับผิว

อัลตราซาวด์ยกกระชับผิว (Ultrasound skin tightening) เป็นการปล่อยคลื่นเสียงเข้าไปทำความร้อนในผิวลึกประมาณ 5 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ร่างกายทำการสร้างคอลลาเจนขึ้นพอดี

เมื่อร่างกายสร้างคอลลาเจนมากขึ้นก็อาจทำให้ริ้วรอยดูจางลง ผิวหน้ากระชับขึ้น นอกจากนี้อัลตราซาวด์ยังสามารถปรับโฟกัสตำแหน่งได้เฉพาะมากกว่าเลเซอร์

ผลลัพธ์อาจเริ่มเห็นผลหลังจากผ่าน 3-6 เดือน ขึ้นอยู่กับแต่ละคน และอาจมีการใช้ร่วมกับวิธีอื่นๆ ในการทำทรีตเมนต์หน้า

3.ครีมบำรุง

ครีมบำรุงเป็นวิธีที่ได้รับคำแนะนำให้ใช้เป็นประจำทุกวันอยู่แล้ว แต่ไม่ควรใช้ครีมบำรุงเป็นวิธีดูแลเพียงวิธีเดียว เพราะอาจให้ผลเพียงเล็กน้อย หรือไม่เห็นผลเลย

อาจใช้ร่วมกับครีมกันแดด การดูแลตัวเอง รวมถึงใช้ครีมประเภทอื่นๆ ในการดูแลใบหน้าร่วมกันด้วย

ตัวอย่างครีมที่อาจเจอในการทำทรีตเมนต์หน้า เช่น

  • ครีมกระชับใบหน้า (Firming cream) เป็นครีมที่มีส่วนผสมของเรตินอยด์ (Retinoids) และคอลลาเจน

  • เซรั่ม (Serum) หรือมอยเจอร์ไรเซอร์ (Moisturizer) เพื่อให้ใบหน้าคงความชุ่มชื้นเอาไว้

  • วิตามินซี วิตามินเอ ซึ่งมักนำมาใช้ร่วมกับอุปกรณ์การผลักวิตามินเพื่อให้ซึมเร็วขึ้น

4.ผลักวิตามิน

การผลักวิตามินเข้าผิวหน้า จะใช้เครื่องมือที่ชื่อว่า โฟโนโฟเรซิส (Phonophoresis) ซึ่งมีวิธีการทำงานคล้ายกับอัลตราซาวด์ คือการปล่อยคลื่นความถี่สูงลงบนผิวหน้าหลังจากทาครีมบำรุงและวิตามินแล้ว ทำให้ตัวยาและครีมซึมเข้าสู่ผิวได้ดียิ่งขึ้น แต่การทำทรีตเมนต์หน้าด้วยการผลักวิตามินอาจต้องทำหลายครั้งกว่าจะเริ่มเห็นผล

5.ผลัดเซลล์ผิวด้วยสารเคมี

การผลัดเซลล์ผิวด้วยสารเคมี (Chemical peels) คือการทาสารเคมีที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวบนใบหน้าทิ้งไว้สักระยะ แล้วลอกออก ทำให้เซลล์ผิวที่ตายแล้วหลุดลอกออกมาด้วย

น้ำยาเคมีที่ใช้อาจแบ่งออกเป็น 3 ระดับ ดังนี้

  • Light chemical peels หรือ Superficial peels จะใช้กรดอัลฟา ไฮดรอกซี่ (Alpha-hydroxy acid) ซึ่งจะซึมเข้าบริเวณผิวชั้นนอกเท่านั้น อาจทำให้ผิวดูสว่างหรือคล้ำขึ้นชั่วคราว

  • Medium chemical peels จะใช้กรดไตรคลอโรอะซิติก (Trichloroacetic acid) ที่สามารถซึมเข้าผิวหนังชั้นกลาง มีประสิทธิภาพผลัดเซลล์ผิวมากขึ้น อาจมีส่วนช่วยในการลดฝ้าได้

  • Deep chemical peels อาจมีส่วนผสมของสารเคมีฟีนอล (Phenol) ซึ่งมีประสิทธิภาพผลัดเซลล์ผิวสูง แต่ต้องทำโดยผู้ชำนาญการเท่านั้นเพราะอาจมีผลข้างเคียงสูง

6.ผลัดผิวด้วยเลเซอร์

การผลัดผิวด้วยเลเซอร์ (Laser resurfacing) สามารถผลัดเซลล์ผิวชั้นนอก (Epidermis) และช่วยลดเลือนแผลเป็น ไฝ และริ้วรอยได้ นอกจากนี้เลเซอร์ยังสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิวได้อีกด้วย

ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจ

  • ทรีตเมนต์แต่ละประเภทมีข้อห้ามและข้อควรปฏิบัติก่อนการทำ เพื่อความปลอดภัยควรสอบถามแพทย์หรือเจ้าหน้าที่ก่อนตัดสินใจทำ

  • ทรีตเมนต์บางประเภทอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงได้หลังจากทำ ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์หรือเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด

ข้อห้ามสำหรับการทำทรีตเมนต์ผิวหน้า
  • ผู้ป่วยโรคผิวหนังอักเสบโรซาเชีย (Rosacea) ซึ่งเป็นโรคผิวหนังอักเสบชนิดหนึ่ง การทำทรีตเมนต์อาจกระตุ้นให้อาการของโรครุนแรงขึ้นได้

  • ผู้ที่ฉีด Botulinum Toxin ควรงดทำทรีตเมนต์หลังจากฉีด

  • ผู้ที่เพิ่งเข้ารับการผ่าตัดผิวหน้า

  • ผู้ที่มีอาการบาดเจ็บบนใบหน้า เช่น อาการฟกช้ำ มีแผลเปิดหรือแผลลึก แผลไหม้แดด มีเส้นเลือดขอด ตุ่ม หรือก้อนบนใบหน้า เป็นต้น

ปกป้องผิวจากแสงแดด ผิวหนังมีเม็ดสีเป็นตัวสำคัญที่ช่วยในการป้องกันอันตรายจากแสงแดด และสามารถฟื้นตัวได้เมื่อไม่ได้รับการกระตุ้นจากปัจจัยภายนอก การพยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้โดนแสงแดดที่มีความรุนแรงในชีวิตประจำวันจะช่วยให้ผิวไม่เกิดการสร้างเม็ดสีมากขึ้น เช่น การทาครีมกันแดดเป็นประจำ เพื่อช่วยปกป้องผิวเป็นประจำ โดยเลือกครีมกันแดดที่มีค่าSPF15 เป็นอย่างน้อย ควรทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมง โดยเฉพาะเมื่อทำกิจกรรมหรืออยู่กลางแจ้งเป็นเวลานาน ไม่ควรตากแดดในช่วงเวลาที่มีแสงแดดแรง ระหว่างช่วง 10.00-14.00 นาฬิกา สวมเสื้อแขนยาวหรือขายาว กางร่ม หรือใส่หมวกในกรณีที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงแสงแดดในช่วงเวลาดังกล่าว

วิธีการดูแลผิวอย่างปลอดภัยไม่ให้หมองคล้ำ คือการใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไปและมีการป้องกัน UVA ดังจะเห็นได้จากการเขียนว่า PA++ สำหรับผิวที่มีปัญหา แพ้ง่าย เป็นสิว ผิวมันนั้นในปัจจุบันมี แจลแต้มสิว ตามท้องตลาดที่ผลิตมาสำหรับผู้มีปัญหาเรื่องสิวโดยตรง สามารถเลือกได้ตามความต้องการและปัญหาที่มี แนะนำว่าถ้าผิวมีปัญหาหลายอย่างควรใช้ครีมกันแดดยี่ห้อที่เป็นเวชสำอางค์หาซื้อได้ตามร้านขายยาหรือในรพ. เพราะผลิตภัณฑ์เหล่านั้นจะมีสารที่ก่อให้เกิดการแพ้ได้น้อยค่ะ



สีผิวของแต่ละคนถูกกำหนดด้วยจำนวนเมลานิน ซึ่งเป็นเม็ดสีที่ผลิตได้จากเซลล์ผิวหนังที่เรียกว่า เมลาโนไซต์ ยิ่งมีเม็ดสีมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งทำให้สีผิวของคนนั้นเข้มมากเท่าขึ้น เช่น คนผิวดำจะมีเม็ดสีมากกว่าคนผิวขาว จึงทำให้สีผิวเข้มกว่าคนผิวขาว


จากแสงแดดจะมีส่วนทำให้ผิวหนังและระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายเสียหายแล้ว ป้องกัน ผิว ลอกไหม้ บรรเทาได้ใช้เจลว่านหางจระเข้ทาช่วยบรรเทาอาการ ให้ผิวกลับมาเหมือนเดิม


 

อ่านเพิ่มเติม ได้ที่ โควิด สิ่งที่คุณแม่ต้องรู้

ติดตามอ่านบทความดีๆ ได้ที่beautymustknow.com

กันแดด กันดะ มีวางจำหน่ายแล้วทั่วประเทศ สอบถามข้อมูลและเลือกซื้อสินค้าเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : https://www.facebook.com/pg/kandabeauty.company/ website : Kandabeauty.com

ดู 3 ครั้ง0 ความคิดเห็น

Comments


bottom of page