รักษาสิว ผิดวิธี หน้าแพ้ สิวบุกหนักพฤติกรรมเสี่ยงที่คาดไม่ถึง
การป้องกันการเกิดสิวด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตนเอง รักษาสิว ผิดวิธี เช่น การชอบจับคลำ ลูบ นวด คุ้ย แคะ แกะ เกา เช็ดถูใบหน้าเป็นประจำ เพราะมือของเราก็ใช่ว่าจะสะอาดอยู่ตลอดเวลา จึงไปกระตุ้นสิวให้ลุกลามกว่าเดิม
สิวเป็นเรื่องธรรมดาที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่ธรรมชาติของผิวหน้าแต่ละคนนั้นจะแตกต่างกันออกไป จึงส่งผลต่อใบหน้าของแต่ละคนไม่เหมือนกัน
ต้นตอของการเป็นสิว คือภาวะการอุดตันของสิ่งสกปรกที่จับตัวกับไขมันส่วนเกินในรูขุมขน โดยมีปัจจัยทั้งภายในและภายนอกที่เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดสิว เช่น ฮอร์โมน ความเครียด พันธุกรรม ฝุ่น ควัน อาหาร สาเหตุการเกิดสิวไม่ได้เกิดเพราะความสกปรกเพียงอย่างเดียว เพราะสิวสามารถเกิดจากฮอร์โมนและสาเหตุอื่น ๆ ได้ เช่น คนที่ระบบน้ำเหลืองไม่ดีก็สามารถเป็นสิวได้โดยไม่เกี่ยวข้องกับความสะอาดแต่อย่างใด
มลภาวะต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นรอบตัว ไม่ว่าจะเป็นควัน ฝุ่นหรือ PM 2.5 เชื้อโรค และสิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่อยู่ในอากาศ ล้วนแล้วแต่ทำให้รูขุมขนบนใบหน้าอุดตัน จนเป็นเหตุให้เกิดสิวผดขึ้นบนใบหน้าได้ หากหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นเหล่านี้ได้ ความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดสิวผดก็มีน้อยลง
พฤติกรรมเสี่ยงที่คาดไม่ถึงทำให้เกิดสิว
การนอกดึก : การนอนดึกเป็นประจำ หรือการนอนพักผ่อนไม่เพียงพอ ไม่เพียงทำให้ใบหน้าของเราดูโทรมและอิดโรยเท่านั้น แต่ยังทำให้เป็นสิวได้ง่าย หากต้องการให้ใบหน้าห่างไกลจากสิวผด ควรพักผ่อนให้เพียงพอ และที่สำคัญต้องไม่เครียด
ล้างหน้าบ่อยๆ : การล้างหน้าที่ถูกวิธี ได้แก่ ให้เราใช้คลีนซิ่งเช็ดทำความสะอาดใบหน้าก่อน จากนั้นก็ใช้โฟมล้างหน้าสูตรอ่อนโยนล้างให้สะอาด แล้วจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง สุดท้ายใช้ผ้าขนหนูสะอาดมาซับ ๆ จนแห้งสนิท เป็นการลดโอกาสเกิดสิวผดหน้าผาก แก้ม คางที่ดีที่สุด ควรล้างหน้าเพียงวันละ 2 ครั้งพอ
ใช้ครีมหลายตัว : การใช้ยารักษาสิวเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ทำให้การรักษาสิวผิดเห็นผลเร็วขึ้น ยาคีโตโคนาโซล (Ketoconazole) เป็นยาสำหรับทาภายนอก สามารถนำมารักษาสิวที่เกิดจากเชื้อยีสต์ได้ ส่วนยาอะดาพาลีน (Adapalene) ช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิว ทำให้สิวผดผุดขึ้นมา แล้วค่อยทำการรักษา แต่การใช้ยารักษาสิวควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้
สครับผิวช่วงเป็นสิว : ผิวที่ควรระวังสำหรับการสครับมีอยู่สองแบบนั่นคือผิวมีสิวและผิวที่มีรูขุมขนกว้าง เรากำลังบอกว่าผิวนั้นสามารถสครับอย่างเบามือได้แต่หากมีสิว ก็ควรเลี่ยงสครับที่มีกรดธรรมชาติสูงๆ จำพวกกรด AHA ทั้งหลาย เพราะผิวอาจจะอักเสบและระคายเคืองได้
ใช้มือแกะสิว : บ่อยครั้งที่เรามักลืมตัวใช้มือสัมผัสใบหน้า แกะ เกา หรือเช็ดหน้าด้วยมือ โดยไม่ได้ระวังว่าอาจมือเชื้อโรคสัมผัสกับใบหน้าของเรา จนทำให้ใบหน้าอักเสบ และเกิดสิวขึ้นบนใบหน้าได้ ดังนั้นก่อนสัมผัสหน้าทุกครั้ง ต้องมั่นใจว่ามือของเราสะอาดนั้นสะอาดเพียงพอ ด้วยการล้างทำความสะอาดอยู่เสมอ
ทานของหวานมาเกินไป : ของหวานหรือน้ำตาลนั้นเมื่อร่างกายได้รับเข้าไปในปริมาณที่สูงนั้น ทำให้ร่างกายต้องหาวิธีมาจัดการกับความหวานนี้ด้วยการ สร้าง "อินซูลิน" ขึ้น มีผลทำให้เกิดการสร้างไขมันที่ผิวหนังเพิ่มเติม หน้าเราก็จะมันขึ้นหากเรากินอาหารที่หวานมากๆเข้าไป เมื่อหน้าเรามันเพิ่มขึ้น โอกาสเกิดสิวก็จะมีเพิ่มมากขึ้นด้วย
ทานของมันของทอด : อาหารจำพวกของมันหรือของทอดต่างๆหรือในพวกหมูสามชั้นต่างๆที่มีไขมันเยอะๆเพราะร่างกายของเรามันจะขับพวกสิ่งต่างๆออกจากรูขุมขนของเราซึ่งรวมไปถึงไขมันบางส่วนอีกด้วยนั่นจึงเป็นสาเหตุที่เวลาเหงื่อออกแล้วมีโอกาสเกิดสิวมากขึ้น ส่วนอาหารรสจัดคือปกติร่างกายของคนเราไม่จำเป็นต้องกินอาหารรสจัดจ้านก็จะดีต่อร่างกายมากกว่าเพราะว่าอาหารรสจัดไม่ดีต่อร่างกายเพราะอะไรที่มันมากเกินไปจะทำให้ร่างกายเราไม่สมดุลอีกด้วยแถมบางทีอาจจะทำให้หน้าบวมทำให้ตัวบวมอีกด้วย
ไม่ทาครีมกันแดด : อันตรายจากรังสียูวีในแสงแดด ที่นอกจากจะทำให้ผิวหมองคล้ำแล้ว ยังทำให้เกิดริ้วรอย ฝ้า กระ จุดด่างดำ แต่ผิวที่เป็นสิวนั้นไวต่อสิ่งเร้ารอบข้างมากๆ การใช้ครีมกันแดดในขณะที่เป็นสิวอาจจะกระตุ้นให้เกิดการอุดตันได้ แต่ความย้อนแย้งก็คือ ถ้ายิ่งปล่อยให้ผิวที่เป็นสิวโดนแสงแดดก็จะยิ่งทำให้สิวนั้นอักเสบมากยิ่งขึ้น ดังนั้น การทาครีมกันแดดจึงยังคงเป็นสิ่งจำเป็น แม้ว่าจะเป็นสิวหรือไม่ก็ตาม
ดื่นน้ำน้อยเกินไป : ผิวก็ต้องการการบำรุงตั้งแต่ภายใน ซึ่งการดื่มน้ำเป็นวิธีที่ดีที่สุด ที่จะทำให้ผิวชุ่มชื้นจากภายใน เปล่งปลั่งออกมาสู่ภายนอก โดยการดื่มน้ำ 8 แก้วต่อวันเป็นพื้นฐานที่ควรจะทำให้ได้ เพื่อผิวที่กระจ่างใส อีกทั้งยังช่วยทำให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันที่ผิวลดลง ลดการเกิดสิวได้อย่างดี
แต่งหน้าบ่อยและหนา : เป็นไปได้ยากมากค่ะที่ในชีวิตประจำวัน เรากับเครื่องสำอางจะไม่ต้องโคจรมาพบกัน ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ดูแลใบหน้า และเครื่องสำอางต่าง ๆ เพราะไอเทมเหล่านี้คือสิ่งที่สาว ๆ ขาดไม่ได้ การแต่งหน้าบ่อยหรือหนามีทั้งรองพื้น แป้ง ครีมกันแดด โทนอัพทำให้เกิดสิว เพราะผิวหน้าของเราก็ต้องการอากาศในการหายใจ ถ้าทารองพื้นจนอุดตันรูขุมขนก็เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวอุดตันได้ เพื่อให้หน้าของเราได้รับผลกระทบน้อยที่สุด จำไว้ว่าควรเลือกเครื่องสำอางแบบ Oil-Free สำหรับคนที่มีผิวหน้ามัน และแบบ Non-Comedogenic หรือที่แปลเป็นไทยว่าไม่ทำให้อุดตันผิว หรืออีกวิธีก็ควรเลือกแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ คุณภาพสมราคา
ควรทานอาหารที่ควรรับประทานได้แก่ผัก และผลไม้ เพื่อเสริมแร่ธาตุ เพิ่มความแข็งแรงให้ผิว อย่าง ปลาแซลมอน คะน้า ผักบุ้ง ถั่วเหลือง ฯลฯ นอกจากนี้ยังต้องดื่มน้ำให้ได้วันละ 8 แก้ว หรือประมาณ 1.5 – 2 ลิตร เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น และความสมดุลให้กับร่างกาย
การปล่อยให้มีเครื่องสำอางตกค้างอยู่บนใบหน้า นอกจากจะรู้สึกได้ถึงความไม่สะอาดที่หลงเหลืออยู่บนใบหน้าแล้ว ยังเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิด สิว ได้ด้วย จึงไม่ควรละเลยขั้นตอนการทำความสะอาดผิวหน้า
การรักษาที่ไม่ถูกวิธีโดยเฉพาะการบีบแกะสิวนี้เองที่อาจจะก่อให้เกิดปัญหาตามมา
อาจจะทำให้สิวมีการอุดตันหรืออักเสบติดเชื้อมากยิ่งขึ้น มีโอกาสเกิดรอยแดงหรือรอยคล้ำหลังเป็นสิวมากขึ้น อีกทั้งยังเพิ่มโอกาสของการเกิดแผลเป็นตามหลังการเป็นสิว ทั้งแผลเป็นชนิดที่เป็นหลุมสิวและแผลเป็นนูนได้มากขึ้น ที่สำคัญคือ เมื่อมีการอักเสบหรือติดเชื้อบริเวณใบหน้าโดยเฉพาะบริเวณรอบจมูกและริมฝีปากด้านบน อาจจะทำให้การติดเชื้อมีการแพร่กระจายไปยังหลอดเลือดดำของใบหน้า และมีการแพร่กระจายของเชื้อไปที่ส่วนอื่นๆ ของร่างกายต่อไป โดยเฉพาะเข้าไปภายในสมอง ทำให้มีอาการมีไข้ ปวดศีรษะ ปวดตา ตามัว หรืออาจรุนแรงถึงขั้นสับสน ชักและหมดสติได้ โดยการเกิดการกระจายของเชื้อมีโอกาสพบได้มากขึ้นในคนที่มีปัญหาเรื่องภูมิคุ้มกันที่ไม่ดีอยู่เดิม
ระดับความรุนแรงของสิวมีทั้งหมด 3 ระดับ คือ สิวน้อย สิวปานกลาง และ สิวรุนแรง ซึ่งการรักษาจะแตกต่างกันออกไปในแต่ละระดับความรุนแรง
ระดับความรุนแรงของสิวสามารถจำแนกได้เป็น 3 ระดับ ดังนี้
รุนแรงเล็กน้อย (Mild): สิวที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่จะเป็นสิวอุดตัน เช่น สิวหัวขาว สิวหัวดำ อาจจะมีสิวหัวหนองร่วมด้วยแต่จำนวนน้อยกว่า 5 เม็ด
รุนแรงปานกลาง (Moderate): มีสิวอุดตัน เช่น สิวหัวขาว สิวหัวดำ รวมถึงสิวหัวหนอง โดยสิวหนองมีจำนวนมากกว่า 5 เม็ด แต่น้อยกว่า 15 เม็ด
รุนแรงมาก (Severe): มีสิวอุดตันและสิวหัวหนอง โดยมีสิวหัวหนองมากกว่า 15 เม็ดขึ้นไป
การรักษาสิวอย่างถูกต้องนั้นจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ควบคู่กับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันเสียใหม่ เพื่อให้สุขภาพผิวดีขึ้นและลดการผลิตไขมันใต้ผิวหนัง เช่น รับประทานผักและผลไม้แทนของหวานหรือของมัน เลี่ยงเครื่องสำอางหรือผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีน้ำมันเป็นส่วนประกอบ
เลือกครีมกันแดดสำหรับคนที่เป็นสิว
1. เลือกสูตรบางเบา หรือแบบ Water Base เพราะไม่ทำให้เกิดความมัน เมื่อผิวไม่มัน โอกาสที่จะเกิดสิวอุดตันก็จะน้อยลงตามไปด้วยค่ะ
2. เลือกสูตรไม่กันน้ำ เพราะสามารถทำความสะอาดง่ายกว่าสูตรกันน้ำที่เข้าไปเคลือบผิว และทำให้เกิดโอกาสตกค้างบนผิวได้น้อยกว่า
3. SPF ไม่ต้องสูงมาก เพราะยิ่งครีมกันแดดมีค่า SPF สูงมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งเคลือบผิวได้มากขึ้นเท่านั้น และเป็นสาเหตุของการเกิดสิวได้ง่าย ซึ่งสำหรับการใช้ชีวิตประจำวันที่ไม่สัมผัสกับแสงแดดมาก ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 15-30 ก็เพียงพอแล้ว
แสงแดดเป็นหนึ่งตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดสิวผด ควรใช้ครีมกันแดดเมื่อต้องออกจากบ้านหรืออยุู่ในพื้นที่กลางแจ้ง เพื่อป้องกันผิวไม่ให้ถูกทำร้ายจากแสงแดดและรังสียูวี โดยเลือกใช้ครีมกันแดดที่เหมาะกับสภาพผิวและไม่ทำให้เกิดการ สิว อุดตัน เช่น ครีมกันแดดที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันแบบ SPF 15 PA+++ ขึ้นไป
ปัญหาผิวที่คุณมีเสมอและควรสังเกตอาการทุกครั้งหากคุณมีผิวแพ้ง่าย คุณต้องระมัดระวังในการเลือก กันแดด คุมมัน หากคุณมีปัญหาผิว ไม่ควรมีสารเคมีหรือส่วนผสมที่จะส่งผลกระทบต่อร่างกายของคุณในภายหลัง
โปรดใช้ความระมัดระวังในการอ่านส่วนประกอบทั้งหมดและเลือกส่วนผสมที่จะไม่ทำให้ปัญหาผิวของคุณแย่ลง แต่โปรดจำไว้เสมอว่าถึงแม้ว่าคุณจะมีผิวมัน คุณก็ต้องเลือกครีมกันแดดที่ให้ความชุ่มชื้นด้วย เพราะผิวที่มันของเราก็ต้องการความชุ่มชื้นเหมือนกันค่ะ
อ่านเพิ่มเติม ได้ที่ รักษาสิว ผิดวิธี
ติดตามอ่านบทความดีๆ ได้ที่beautymustknow.com
กันแดด กันดะ มีวางจำหน่ายแล้วทั่วประเทศ สอบถามข้อมูลและเลือกซื้อสินค้าเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : https://www.facebook.com/pg/kandabeauty.company/ website : Kandabeauty.com
Commentaires