ร่วมใจ ต้านภัยโควิด เพื่อความปลอดภัยของทุกคน
ในปัจจุบันได้เกิดความร่วมจากทุกภาคทุกฝ่ายเพื่อแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดโควิด 19 ได้มีโครงการ ร่วมใจ ต้านภัยโควิด เกิดขึ้นหลายโครงการเพื่อลดการแพร่ระบาดที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ และเจ้าโรคโวิดนั้นมีความรุนแรงที่เทียบได้กับโรคร้ายในอดีตอย่างโรคซาร์สมากที่สุด ซึ่งกระบวนการทำงานของตัวโรคนั้นคือจะทำให้ผู้ป่วยมีอาการปอดอักเสบรุนแรงจนถึงขั้นสามารถทำให้เสียชีวิตได้และในปัจจุบัน องค์การอนามัยโลกยังไม่สามารถตรวจสอบหาต้นตอที่มาของเชื้อที่ชัดเจนได้ แต่จากการทดลองของเหล่านักวิจัยจึงได้ตั้งข้อสันนิษฐานว่าอาจจะมาจากสัตว์ป่าที่ถูกซื้อขายจากจากแหล่งต่าง ๆ เพื่อนำมาบริโภคหรือใช้เชิงพาณิชจนปัจจุบันเชื้อไวรัสนี้สามารถแพร่ระบาดเข้าสู่คนและยังมีการพบเห็นว่าจากคนสู่สัตว์เลี้ยง จากการไอ จาม หรือการสัมผัสกับสารคัดหลั่งจากตัวคนนั้นเองซึ่งสาเหตุใกล้ตัวเหล่าเราจึงได้ขอแนะนำวิธีป้องกันตัวเองจากโรคโควิดเบื้องต้นดังนี้
ใส่หน้ากากป้องกันเพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อผ่านทางลมหายใจ หรือสารคัดหลั่ง ยกตัวอย่างเช่น น้ำมูก น้ำลาย ฃ
ควรปรุงอาหารให้สุขก่อนรับประทานเนื่องจากเชื้อไวรัสสามารถแพร่กระจายในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมหรือเนื้อสัตว์
งดรับประทานอาหารดิบและเนื้อสัตว์ป่า เช่น ลาบดิบ ลาบเลือด
หมั่นล้างมือด้วย แอลกอฮอล์
เว้นระยะห่างจากผู้ป่วยที่มีอาการไอจาม
หลีกเลี่ยงสถานที่แออัดสภาพอากาศปิดหรือมีมลภาวะเป็นพิษ
หยุดพักการเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยง
งดสัมผัสใบหน้าโดยไม่จำเป็น
ไม่ใช้สิ่งของร่วมกันผู้อื่น
ร่วมมือ ร่วมใจ คำแนะนำการป้องกันโควิดในไทย มีอะไรบ้าง
ระบบขนส่งสาธารณะ อย่างรถเมล์ รถไฟฟ้า มีการทำความสะอาดฆ่าเชื้อทุกๆ 2 ชั่วโมง โดยเฉพาะห้องน้ำ สถานที่ขายอาหาร ขายตั๋วโดยสาร และทำความสะอาดถี่ขึ้นเมื่อมีผู้โดยสารใช้บริการจำนวนมาก โดยเน้นทำบริเวณที่ผู้โดยสารสัมผัสบ่อยๆ เช่น ที่เท้าแขน ราวจับ ปุ่มกดต่างๆ อีกทั้งยังตั้งจุดบริการเจลล้างมือตามส่วนกลางต่างๆ รวมทั้งเพิ่มระบบการจำหน่ายตั๋วล่วงหน้า จำหน่ายตั๋วออนไลน์ ป้องกันการแออัดเข้าซื้อตั๋ว รวมทั้งการสวมหน้ากากอนามัย ทั้งพนักงานของผู้โดยสารเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ และได้รับเชื้อโควิด 19
วัด และศาสนสถาน นอกจากจะมีการป้องกันการแพร่ระบาดโควิดโดยการเน้นทำความสะอาดจุดเสี่ยงแล้ว ยังมีการลดความแออัดของผู้เข้าร่วมประกอบพิธีกรรมทางศาสนา เช่นการเว้นระยะห่าง กระจายมุมประกอบพิธีกรรม เพื่อให้ผู้ประกอบพิธีทางศาสนา อยู่ห่างกัน รวมทั้งกวดขัดการสวมหน้ากากอนามัย การตั้งจุดบริการเจลล้างมือ
คณะทัวร์ แม้ทัวร์ท่องเที่ยวต่างประเทศยังไม่เปิดให้เดินทาง แต่สำหรับการท่องเที่ยวภายในประเทศ มีคำแนะนำมาตรการการป้องกันโควิด โดยให้คำแนะนำลูกทัวร์ สำหรับผู้ที่มาจากพื้นที่เสี่ยงโดยหาข้อมูลเพิ่มเติมที่เว็บไซด์ กรมควบคุมโรค การซื้อประกันสุขภาพไวรัสโคโรน่าสำหรับนักท่องเที่ยว รวมทั้งคัดกรองอาการไม่สบาย ไอ มีไข้ จาม มีน้ำมูก และแนะนำคณะทัวร์ให้ใช้เจลล้างมือ และสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา
ร้านอาหาร สำหรับร้านอาหารเน้นการทำความสะอาดจุดเสี่ยง อุปกรณ์ในการรับประทานอาหาร โต๊ะอาหาร มือจับประตู ตั้งจุดใช้บริการเจลล้างมือก่อนเข้าใช้บริการ กระตุ้นเตือนพนักงานให้สวมหน้ากากอนามัยให้ถูกวิธี สวมถุงมือขณะทำงาน เก็บขยะโดยการใช้ที่คีบจับ เช่น กระดาษทิชชู่ใช้แล้ว
หลากหลายพื้นที่สาธารณะ สิ่งสำคัญคือการทำความสะอาดฆ่าเชื้อ เมื่อมีการใช้บริการจำนวนมาก การทำความสะอาดจึงต้องการความรวดเร็ว และควรฆ่าเชื้อไวรัสโควิดได้ด้วย การใช้ KANDA WIPES AWAY ALCOHOL HAND SPRAY แอลกอฮอล์สเปรย์ รวดเร็ว เพียงสเปรย์ไปยังมือ หรือพื้นผิวเพื่อใช้ฆ่าเชื้อโควิด
แม้จะมีการป้องกันระดับหนึ่งแต่ยังไม่สามารถวางใจจากโรคร้ายนี้ได้ เนื่องจากปัจจุบันพบว่าผู้ป่วยบางรายไม่แสดงอาการใดๆ ในขณะที่ติดเชื้อเราจึงต้องคอยหมั่นสังเกตุอาการเบื้องต้นเพื่อดูว่าเราติดเชื้อไวรัสโคโรน่าหรือยัง ซึ่งวิธีการตรวจสอบอาการ โควิด เบื้องต้นมีดังนี้
มีไข้สูงมากกว่า 37.5 องศา
มีอาการไอแห้ง หรือไอแบบมีเสมหะ
มีอาการเจ็บคอ
อาการไม่สบายเนื้อสบายตัวครั่นเนื้อครั่นตัว
มีอาการหายใจเหนื่อยหอบและหายใจลำบาท
โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือที่เรียกกันว่า โควิด 19 นั้นได้มีการระบาดมาตั้งแต่ปลายปี 2562 และเมื่อวันที่ 11 มี.ค. องค์กรอนามัยโลกจึงได้มีการประกาศอย่างเป็นทางการให้เป็นโรคระบาดใหญ่ทั่วโลกจากการวิเคราะห์มาในระยะหนึ่ง ซึ่งนอกจากการแพร่ระบาดสู้ภายนอกจากเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย์ประเทศจีนและทั่วโลก 213 ประเทศและต่างดินแดงจนยอดผู้ติดเชื้อสะสมมากกว่า 9,500,000 คนและเสียชีวิตแล้วถึง 485,690 คนทั่วโลกอย่างรวดเร็วโดยสถิติสูงสุดเป็นของสหรัฐอเมริกาที่มียอดผู้ป่วยมากถึง 2,463,923 คนและเสียชีวิตมากสุดที่ 124,308 คน และสถานการณ์จากประเทศจีนที่คาดว่าอาจเป็นต้นตอไวรัสทางการแพทย์ของจีนได้รายงานว่า จากการสังเกตุความแตกต่างพฤติกรรมของโคโรนาไวรัสจากการระบาดในกลุ่มใหญ่อย่างมณฑลจี๋หลินและหลงเจียงที่อยู่ในฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของจีน กลับพบว่าผู้ป่วยกลุ่มใหม่มีระยะการฟักตัวของเชื้อโรคนานกว่าเดิมเมื่อเทียบจากการระบาดที่อู่ฮั่นที่ตัวผู้ป่วยนั้นจะมีระยะการฟักตัวของเชื้อที่ 14 วัน ก่อนเริ่มแสดงอาการโดย ชิว ไห่โป แพทย์ที่เป็นส่วนในคณะกรรมการสาธารณสุขแห่งชาติจีน (NHC) ได้กล่าวว่า ระยะฟักที่ยาวนานกว่าเดิมทำให้ยากที่จะตรวจพบก่อนที่เชื้อจะแพร่กระจายทำให้เกิดความเสี่ยงจากการติดเชื้อภายในครัวเรือนระหว่างที่ผู้ป่วยยังไม่แสดงอาการ
ประเทศไทยรับมือกับโควิด 19 อย่างไร
ย้อนกลับไปเมื่อตอนเริ่มเกิดวิกฤตโควิด 19 ในประเทศไทยนั้น ประเทศไทยสามารถรับมือกับสถานการณ์การระบาดของโควิด 19 นั้นในเวลาเพียงแค่ 2 เดือน จากที่เคยนัลบว่าเป็นประเทศที่มีความเสี่ยงโควิด 19 เป็นอันดับ 2 ของโลกและลดระดับลงมาเรื่อยๆ จนถึงระดับ 59 และยังสามารถจัดการควบคุมการแพร่ระบาดได้อย่างมีประสิทธิภาพเช่นทุกวันนี้ จึงทำให้ประเทศไทยนับว่าเป็นประเทศที่มีความเสี่ยงการติดเชื้อน้อยเป็รอันดับต้นๆ ของโลกและได้รับการยอมรับจากนานาประเทศอีกด้วยและจากตัวเลขการติดเชื้อเราจะได้สังเกตุได้ว่าประเทศไทยนั้นสามารถจัดการกับปัญหาวิฤตโควิด 19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่น ให้คนใช้ เจลล้างมือ บ่อยๆ
และหากท่านใดที่มีความจำเป็นต้องเดินทางออกนอกบ้านบ่อยๆ สามารถอ่านบทความ โควิด ป้องกันให้ห่างไกลบ้าน เพิ่มเติมได้ที่นี้ค่ะ
อ่านเพิ่มเติม ได้ที่ ร่วมใจ ต้านภัยโควิด
ติดตามอ่านบทความดีๆ ได้ที่ beautymustknow.com
เจลล้างมือ แอลกอฮอล์ 72% มีวางจำหน่ายแล้วทั่วประเทศ สอบถามข้อมูลและเลือกซื้อสินค้าเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : https://www.facebook.com/pg/kandabeauty.company/ website : Kandabeauty.com
Comments