top of page
ค้นหา
รูปภาพนักเขียนniracha payyakul

สิว ผื่นแพ้ ใส่หน้ากากอนามัย กู้สิวให้หายยังไง

สิว ผื่นแพ้ ใส่หน้ากากอนามัย กู้สิวให้หายยังไง

หน้ากากอนามัยมีหลายรูปแบบที่ช่วยป้องกันโรคได้หลายๆโรค แต่อาจส่งผลต่อผิว สิว ผื่นแพ้ จากการใส่หน้ากากอนามัย ทำให้เกิดความชื้น เกิดการสะสมของเชื้อโรคเชื้อแบคทีเรียต่อผิว หรือบางคนเกิดผื้นแพ้ แพ้เหงื่อตัวเองเกิดปัญหาสิว

ปัจจัยที่ทำให้เกิดสิวหรือผื่นจากการใส่มาสก์หนือหน้ากากอนามัย เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น การเสียดสีกับผิวหน้าขณะใส่ ความสกปรกภายในหน้ากากที่สะสมระหว่างวัน ความเครียด วัสดุจากหน้ากากมีการปนเปื้อน และโรคผิวหนังเดิมที่เคยเป็นอยู่

การเสียดสีของของหน้ากากอนามัยกับผิวหน้า ส่งผลให้เกิดการแพ้ ระคายเคืองได้ โดยเฉพาะผู้ที่ใส่หน้ากากหลายชั้น รักษาสิว หากพบว่ามีสิวขึ้นหรือมีผื่นแพ้ ในเบื้องต้นควรหาสาเหตุว่าเกิดจากอะไร แล้วแก้ตามสาเหตุนั้น



สมัยก่อนสาเหตุแรกๆ ของคนที่มีปัญหาสิวกวนใจจะมาจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย แต่ในยุคนี้ที่มีการระบาดของไวรัสก่อโรค Covid-19 นั้น การสวมหน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันการติดเชื้อคือสิ่งที่สำคัญที่สุดที่ต้องทำเสมอเวลาออกจากบ้าน แต่เมื่อต้องใส่เป็นประจำทุกวัน หลายคนมักเกิดปัญหาสิว ผดผื่นคัน บริเวณที่ใส่หน้ากากอนามัยตามมา จนเกิดอาการไม่อยากใส่ แต่ยังไงก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่อต้องใส่ทุกวันและเกือบจะตลอดเวลาแล้วนั้นก็ทำให้เกิดปัญหาเรื้อรังตามมาได้


ผิวแพ้ใส่หน้ากากอนามัยแล้วเป็นสิว

  • การเสียดสีของของหน้ากากอนามัยกับผิวหน้า ส่งผลให้เกิดการแพ้ ระคายเคืองได้ โดยเฉพาะผู้ที่ใส่หน้ากากหลายชั้นหรือสวมหมวกกันน็อคทับเวลาขับขี่รถมอเตอร์ไซด์

  • ความสกปรกภายในมาสก์ เช่น ละอองน้ำลาย เหงื่อ น้ำมันจากหน้า ร่องรอยเครื่องสำอาง ผสมกับความชื้นภายในหน้ากากโดยเฉพาะเวลาอากาศร้อนอบอ้าว แบคทีเรียก็จะมีการเพิ่มจำนวนและเติบโตขึ้นที่รูขุมขนมากขึ้น ทำให้เกิดสิวทั้งอุดตันและอักเสบตามมาได้ง่ายขึ้น

  • ปัจจัยภายใน เช่น ความเครียดทำให้การผลิตคอร์ติซอลและฮอร์โมนอื่น ๆ เพิ่มขึ้น การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของการผลิตฮอร์โมนนี้จะทำลายระบบภูมิคุ้มกันและเมื่อระบบภูมิคุ้มกันของเราเหนื่อยล้าร่างกายจะเริ่มทำให้อาการทางสุขภาพผิวหนังแย่ลงและใช้เวลานานขึ้นฟื้นฟูหรือการพักผ่อนไม่เพียงพอ ส่งเสริมกับปัจจัยเรื่องการเสียดสี หรือความสกปรกภายในหน้ากาก

  • เกิดจากฝุ่นละอองPM 2.5 เนื่องจากสารตั้งต้นของ PM 2.5 ก่อนจะรวมตัวกับไอน้ำ และฝุ่นควัน คือ ก๊าซพิษ ซึ่งทำตัวเสมือนสารก่อระคายเคืองผิว กระตุ้นการเกิดสิว และทำให้ผิวแพ้ง่าย เป็นที่ทราบกันดีว่า หน้ากากทั่วไปที่เราใส่ ไม่สามารถป้องกัน PM 2.5 ได้ และมลภาวะสามารถเข้าทางด้านข้างของหน้ากากได้ด้วยเช่นกัน

  • หน้ากากอนามัยชนิดใช้แล้วทิ้งบางยี่ห้อที่ผสมสารป้องกันแบคทีเรียบางชนิดที่อาจระคายเคืองผิวได้ หรือเป็นที่ตัววัสดุเอง เช่น ผ้าสปันบอนด์ (spunbond) ซึ่งเป็นผ้าที่เกิดจากการอัดขึ้นรูปจากเส้นใยพลาสติกพวกพอลีโพรพิลีน (Polypropylene) มาประกอบเป็นหน้ากากชั้นนอกและชั้นในเพื่อป้องกันการซึมผ่านของน้ำและละอองฝอยต่างๆ

  • เกิดจากน้ำหอมจากผลิตภัณฑ์ซักผ้าและน้ำยาปรับผ้านุ่มที่ใช้ซักหน้ากากผ้า ทางที่ดี ควรซักล้างด้วยน้ำสบู่อ่อนๆ หรือผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน ไม่มีน้ำหอม

  • โรคผิวหนังเดิมที่เป็นอยู่ แต่ถูกกระตุ้นให้เป็นมากขึ้นในช่วงที่ใส่หน้ากาก เพราะความอบอ้าว ความชื้น โดย 2 โรคที่พบได้บ่อย เช่น

โรคผิวหนังอักเสบโรซาเชีย (Rosacea) ซึ่งเป็นภาวะทางผิวหนังที่พบบ่อย โดยจะเกิดรอยแดงและมองเห็นเส้นเลือดบนใบหน้าได้ชัดเจน อาจเกิดตุ่มหนองคล้ายสิวหรือตุ่มสีแดงขนาดเล็ก และอาจมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น ตาแห้ง ตาบวมแดงและระคายเคือง เปลือกตาแดง รู้สึกแสบหรือชาที่ผิวหนัง ผิวแห้ง ผิวหยาบ และรูขุมขนกว้าง

โรคผิวหนังอักเสบภูมิแพ้ (Atopic Dermatitis) เป็นอาการของผิวหนังอักเสบเรื้อรังจากปฏิกิริยาภูมิแพ้ ทำให้ผิวแห้ง แดง มีผื่นตามบริเวณต่าง ๆ และมีอาการคันอย่างต่อเนื่อง บางรายมีตุ่มพอง ซึ่งอาจแตกและมีของเหลวไหลออกมาได้เมื่อถูกเกา



สิวจากการสวมแมสก์ หรือ หน้ากากอนามัย

ในสถานการณ์ปัจจุบัน ทั้งโรคระบาดและฝุ่น ทำให้ผู้คนหันมาใส่หน้ากากกันมากขึ้น ซึ่งการใส่หน้ากาก พบว่าหลายๆคนเจอกับปัญหาสิวเพิ่มขึ้น บริเวณที่สิวเพิ่มขึ้นจะเป็นบริเวณใบหน้าที่ถูกปิดด้วยหน้ากากอนามัย จึงมีศัพท์ที่เรียกกันว่า “Maskne” หรือสิวที่เกิดจากการใส่หน้ากากนั่นเอง สาเหตุหลักเกิดจากการเสียดสีของหน้ากากอนามัยกับผิวหน้า

สิวเป็นสภาพผิวที่เกิดขึ้นจากหลายสาเหตุ โดยทั่วไปสิวมักเกิดจากรูขุมขนอุดตันด้วยซีบัม (น้ำมัน) เซลล์ผิวหนังเหงื่อและความชื้นสิ่งสกปรกและสิ่งแปลกปลอมอื่น ๆ การอุดตันเหล่านี้สามารถดักจับแบคทีเรีย ซึ่งเกิดขึ้นตามธรรมชาติบนผิวหนังให้ติดอยู่ใต้ชั้นผิวทำให้เกิดการติดเชื้อการอักเสบและการพัฒนาของ “สิว”

สิวประเภทนี้เกิดจากการอุดหรือเสียดสีกับผิวหนังจนนำไปสู่การระคายเคืองของผิวหนังในระยะสั้น เมื่อเวลาผ่านไปการเสียดสีอย่างต่อเนื่องจะนำไปสู่การอักเสบที่สามารถอุดตันรูขุมขนและนำไปสู่การเกิดสิว ความชื้นและเหงื่อที่ติดอยู่บนผิวหนังเมื่อสวมหน้ากากเป็นเวลานานก็มีส่วนทำให้เกิดสิวเหล่านี้ได้เช่นกัน Maskne เป็นกลไกการเกิดสิวรูปแบบหนึ่งที่ทำให้เกิดสิวในบริเวณที่มีมาส์กหน้า ได้แก่ กรามแก้มจมูกคางและรอบปาก

การเสียดสีของแมสกับผิวหนัง ในเวลาที่เราใส่หน้ากากอนามัยจะเกิดการเสียดสีกับผิว จนทำให้เกิดปัญหาผิวระคายเคือง ผิวบอบบางลง เกราะปกป้องผิวอ่อนแอ ทำให้เกิดสิวและผดผื่น ยิ่งหากมีผิวบอบบางแพ้ง่ายอยู่แล้วก็จะเกิดการระคายเคืองได้ง่ายมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นสาเหตุให้เกิดปัญหาสิวอุดตันอีกด้วย

อากาศไม่ถ่ายเท เกิดความอับชื้น การใส่หน้ากากอนามัยทั้งวันหรือหลายชั่วโมงติดต่อกัน ทำให้เวลาเราหายใจ พูดคุย อากาศไม่ถ่ายเท หรือระบายอากาศไม่ได้จนเกิดความอับชื้น เมื่อไอน้ำที่เกิดจากความอับชื้นมารวมกับอากาศร้อน ๆ ภายในแมส จึงกลายเป็นแหล่งสะสมสิ่งสกปรกและแบคทีเรียมากกว่าปกติ ในบางรายอาจแค่ระคายเคือง แต่บางรายอาจเกิดการอุดตันในรูขุมขนจนเป็นสิวนั่นเอง

ลักษณะสิวจากหน้ากาก หรือ Maskne

บริเวณที่ใส่หน้ากากอนามัยจะเกิดสิวอุดตันซึ่งมีลักษาณะเป็นจุดเล็ก ๆ ขนาดประมาณ 1 มิลลิเมตร เมื่อใช้มือลูบผิวจะรู้สึกได้ว่าผิวไม่เรียบ และสิวอักเสบเกิดขึ้นบริเวณเดียวกัน


วิธีป้องกันสิวจากหน้ากากอนามัย


1.เปลี่ยนหน้ากากอนามัยบ่อยๆ

เพราะหน้าการอนามัยมีเชื้อโรคทั้งด้านในและด้านนอก ควรเปลี่ยนวันละครั้ง หมั่นรักษาความสะอาดของผิวหน้า มือ อยู่เสมอ ช่วยไม่ให้เชื้อแบคทีเรียอื่น นอกเหนือจากเชื้อไวรัสมาสัมผัสกับผิว จนก่อให้เกิดสิว


2.นำทิชชู่มากรองอีกชั้นหนึ่ง

ขณะที่ใส่หน้ากากอนามัย หากจำเป็นต้องพูดคุย สามารถรองกระดาษทิชชู่ไว้ที่ปาก หากพูดเสร็จให้ทิ้งทิชชู่นั้น นำกระดาษทิชชู่มากรอกด้านในหน้ากากอนามัยและเปลี่ยนทิชชู่บ่อยๆแทนหน้ากาก ซึ่งจะช่วยลดการอับชื้นและการหมักหมมในหน้ากากอนามัย


3.ดูแลหน้ากากอนามัยระหว่างวัน

เก็บหน้ากากอนามัย ไม่ให้เปื้อนโดยเฉพาะด้นที่สัมผัสใบหน้า บางคนถอดหน้ากากออกแล้ววางไว้กับโต๊ะหรือวางที่ไหนก็ตาม ทุกทีล้วนมีแต่เชื้อโรค ทางที่ดีเวลาเราถอนหน้ากากอนามัย ควรพับเก็บไว้ในกระเป๋า เเพื่อไม่ให้หน้ากากอนามัยของเราไปบนเปื้อนเชื้อโรค


4. ถอนหน้ากากอนามัย เมื่อไม่จำเป็นต้องใส่

การถอดหน้ากากอนามัยในสถานที่ที่ปลอดภัย สำหรับบางคนใส่หน้ากากอนามัยตลอด อาจลืมถอดเพราะใส่จนชินขับรถก็ยังใส่หรือทำงานอยู่ในห้องคนเดียวก็ควรจะถอดหน้ากากอนามัยออก ในหน้ากากอนามัยมันเกิดความอับมาก เชื้อโรคมันก็เจริญเติบโตเยอะ เมื่อกลับถึงบ้าน ควรรีบถอดหน้ากากแล้วล้างหน้าให้สะอาดทันที เพื่อลดการสะสมของสิ่งสกปรกตกค้าง รวมทั้งมลภาวะทางอากาศที่ผ่านเข้าหน้ากากจากด้านข้าง เพราะฉะนั้นถ้าไม่จำเป็นต้องใส่ อย่างเช่น การอยู่คนเดียวบนรถหรือยู่ในบ้าน แนะนำให้ถอดหน้ากาก เพื่อให้ผิวของเราไม่อับชื้นจนเกิดไป


5.ล้างหน้าวันละ 2 ครั้ง

การล้างหน้าบ่อยส่งผลให้หน้าแห้ง บางคนใส่หน้ากากอนามัยรู้สึกมันเหนียวเหนาะหนะ หน้ามันเลยทำการล้างหน้าเช้า สาย บ่าย เย็น มันทำให้ผิวหน้าของเราเกิดการแห้งจนเกินไป พอผิวหน้าของเราแห้งจะส่งผลให้รูขุนขนของเราเกิดอาการอักเสบ ใบหน้าของเราก็จะเร่งการผลิตไขมันเพื่อให้หน้าที่แห้งกลับชุ่มชื้นเหมือนเดิม พอหน้าของเราผลิตไขมันออกมาเยอะๆก็เป็นสาเหตุทำให้เกิดสิว


6.แต่งหน้าบางๆ

การแต่งหน้าน้อยลง จะช่วยลดโอกาสการอุดตันลง การแต่งหน้าในขณะที่เราใส่หน้ากากอนามัยแบบนี่ แนะนำให้แต่งหน้าเพียงครึ่งใบหน้าบนหรือแต่งบางๆ เพราะการที่เราใส่หน้ากากอนามัยเกิดการเสียดสี เกิดการหมักหมม การอุดตันของเครื่องสำอางในรูขุมขนบนใบหน้าของเรา จนทำให้เกิดสิวนั้นเอง ป้องกันการเสียดสีกับหน้ากาก โดยสามารถสอดแผ่นทิชชู่ที่นุ่มและสะอาดรองบริเวณที่มีการเสียดสีบ่อยๆ เพราะฉะนั้นเราไม่ได้โชว์ใบหน้าในช่วงที่เราใส่หน้ากากเราก็ไม่จำเป็นต้องแต่งทั้งใบหน้าเพื่อไม่ไห้เกิดปัญหาสิวตามมา


7.การซับหน้า

หากอากาศร้อนมากๆ ร่างกายจะมีการสร้างเหงื่อและน้ำมันออกมาจากผิวมากขึ้น ความอับชื้นจึงตามมา เราสามารถซับเหงื่อและความมันระหว่างวันได้ก่อนใส่หน้ากากกลับไปที่เดิม


8.การนอนหลับให้เพียงพอ

นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่เครียดจนเกินไป เพราะปัจจัยเหล่านี้ส่งเสริมการเกิดสิวได้


9.หน้าการแบบผ้า

หากใช้หน้ากากผ้า ควรซักด้วยน้ำยาซักผ้าเด็กหรือน้ำสบู่อ่อน หรือซักด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ ไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ซักล้างและปรับผ้านุ่มที่ผสมน้ำหอม


10.แพ้หน้ากากอนามัย

หากมีอาการแพ้หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากชนิดที่ใช้ในการผ่าตัด (กรณีที่ไม่ใช่แพทย์และบุคลากรที่ผ่าตัด) สามารถเปลี่ยนมาใช้หน้ากากผ้า หรือหน้ากากชนิดอื่นๆ แทนได้


หากทำตามทุกวิธีแล้วยังมีสิวขึ้นหรือผื่นภูมิแพ้ อาจเกิดจากโรคผิวหนังเดิมที่เป็นอยู่ ให้หยุดครีมบำรุงผิวทุกชนิดในช่วงแรก งดแต่งหน้า หาตัวช่วย รักษาสิว และรีบมาปรึกษาแพทย์ผิวหนังโดยเร็วที่สุด



บางครั้ง แม้ว่าคุณจะไม่ได้แต่งหน้า แต่ก็ควรทำความสะอาดใบหน้าทุกๆวัน เพราะผิวหน้าต้องโดนทั้งฝุ่น เหงื่อ และไขมันที่สะสมอยู่บนผิวตลอด สิ่งเหล่านี้อาจส่งผลให้เกิดการระคายเคือง จุดด่างดำ และสิวได้

หลายคนมองข้ามการ ดูแลผิว ขจัดสิ่งสกปรก เพราะคิดว่าใช้แค่โลชั่นหรือน้ำตบผิวก็ชุ่มชื่นแล้ว การใช้สกินแคร์ไม่ได้จบแค่ 3 ขั้นตอนอีกต่อไป การใช้โทนเนอร์เป็นขั้นตอนการทำความสะอาดที่ช่วยให้ผิวไม่มีคราบสกปรกที่ยังทำความสะอาดไม่หมด จำไว้ว่าผิวสวยสุขภาพดีขั้นตอนพื้นฐานที่ทำให้ผิวสวย


 

อ่านเพิ่มเติม ได้ที่ สิว ผื่นแพ้

ติดตามอ่านบทความดีๆ ได้ที่beautymustknow.com

กันแดด กันดะ มีวางจำหน่ายแล้วทั่วประเทศ สอบถามข้อมูลและเลือกซื้อสินค้าเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : https://www.facebook.com/pg/kandabeauty.company/ website : Kandabeauty.com

ดู 3 ครั้ง0 ความคิดเห็น

Comments


bottom of page