top of page
ค้นหา
รูปภาพนักเขียนniracha payyakul

สิว รอยหลุม รอยแผลเป็นรักษาให้เรียบเนียนได้

อัปเดตเมื่อ 7 ธ.ค. 2564

สิว รอยหลุม รอยแผลเป็นรักษาให้เรียบเนียนได้

ปัญหาหลุมสิวถือเป็นปัญหาใหญ่อีกปัญหาหนึ่ง สิว รอยหลุม ทิ้งรอยรอยไว้เป็นแผลเป็นรอยแดง รอยดำที่คอยกวนใจทุกครั้งเมื่อส่องกระจก แผลเป็นเกิดจากกระบวนการรักษาแผลที่เกิดการฉีกขาดของเนื้อเยื่อ มีการสร้างเนื้อเยื่อซึ่งเป็นคอลลาเจน (collagen) มาทดแทนเนื้อเยื่อที่ถูกทำลายไป เป็นกระบวนการสมานรักษาแผลตามธรรมชาติและเมื่อแผลหายดีแล้วก็จะทิ้งรอยแผลเป็นเอาไว้


หลุมสิว เป็นกระบวนการการรักษาตัวเองของร่างกายอย่างนึงค่ะ คือ หลังจากเกิดบาดแผลหรือการอักเสบ โดยส่วนมากถ้าการอักเสบหรือบาดเจ็บเกิดแค่ผิวชั้นบนก็จะไม่ทิ้งรอยแผลที่ยุบตัวให้เห็น แต่ถ้าหากเกิดในชั้นที่ลึกลงยังผิวชั้นใน การรักษาแผลจะสร้างพังผืดที่ดึงรั้งทำให้ผิวหนังยุบลงไป จึงเกิดเป็นหลุมสิว เช่น ตอนเป็นสิวอักเสบขนาดใหญ่ จะมีทั้งเชื้อแบคทีเรียและหนองอยู่ภายใน การอักเสบของสิวจะทำให้มีการหลั่งเอ็นไซม์ collagenase ออกมาสลายคอลลาเจนที่ผิวเราและเนื้อเยื่อบริเวณรอบข้าง จึงทำให้ผิวหนังยุบลงไป และร่างกายมีการสร้างพังผืดดึงรั้ง จึงเกิดเป็นหลุมสิวนั่นเองค่ะ


ปัญหาหนักใจที่คนเป็นสิวต้องพบเจอก็คือ ร่องรอยหลังจากเป็นสิว ทั้งรอยดำที่ใช้ระยะเวลานานกว่าจะจางลง หรือหลุมสิวที่ทำอย่างไรก็ไม่หาย แผลเป็นและรอยดำจากสิว แม้จะรักษายากกว่าสิว แต่ก็ยังสามารถ รักษาสิว ได้ด้วยเจลแต้มสิว ยารักษาสิวหรือเทคโนโลยีในปัจจุบันที่จะทำให้ผิวของคนที่พบปัญหาเหล่านี้กลับมาเรียบเนียนได้อีกครั้ง เช่น การทำเลเซอร์หลุมสิว หรือการทำเลเซอร์ รอยสิว เป็นต้น



ลักษณะของสิวที่สามารถกลายเป็นหลุมสิวได้มีดังต่อไปนี้

1.สิวหัวช้างเม็ดใหญ่ๆ (Cyst) ที่มีหนองปนเลือดอยู่ภายในหัวสิว

2.สิวอักเสบรุนแรง (Pustule) หรือสิวหัวหนอง

3.สิวที่ติดเชื้อแบคทีเรียจนลุกลามไปทั่วชั้นใต้ผิว (Nodule)

ระดับความรุนแรงของหลุมสิว

  • ระดับรุนแรงที่สุด (Ice pick scar)

หลุมสิวระดับนี้จะเป็นหลุมลึก มีปากแคบ รักษาได้ยากมาก เพราะแนวหลุมเป็นไปในทางลึก กว่าผิวจะฟื้นฟูจนเต็ม การรักษาหลุมสิว ประเภท Ice pick scar คงต้องใช้เวลานาน ซึ่งหลุมระดับนี้ใช้ยาทาก็มักจะเอาไม่อยู่ แต่ทำได้เพียงแค่ช่วยให้รอยหลุมสิวนั้นตื้นขึ้นมาเท่านั้น

  • ระดับรุนแรงปานกลาง(Box scar)

หลุมสิวระดับนี้จะมีลักษณะเป็นบ่อ มีขอบชัดเจนและมีขอบเขตกว้างกว่าระดับ Ice pick scar แต่จะมีความตื้นมากกว่า เพราะมันจะกินความลึกแค่ชั้นผิวเท่านั้น ไม่ได้กินไปจนถึงชั้นรูขุมขน หลุมสิวระดับนี้ รักษาหลุมสิว นั้นสามารถใช้วิธีการทายาทา ควบคู่ไปกับการทำทรีตเมนต์ ซึ่งรอยหลุมอาจจะเหลือร่องรอยจุดด่างดำอยู่บ้าง แต่ก็ค่อนข้างจะให้ผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจหลังการรักษา

  • ระดับทั่วไป(Rolling scar)

หลุมสิวระดับนี้จะมีลักษณะเป็นหลุมสิวแบบตื้น ๆ เป็นแอ่งเว้าลงไป กินพื้นที่แค่ส่วนบนของผิวเพียงเล็กน้อย ซึ่งหลุมระดับนี้มักจะเกิดจากการแกะเกาสิวที่อยู่ในระดับที่ไม่ลึกมากนัก และทำการ รักษาหลุมสิว ได้ง่ายกว่าระดับอื่น


วิธีลดการเกิดหลุมสิว


วิธีการที่ดีที่สุดในการลดการเกิดหลุมสิวคือ รีบรักษาสิวทันทีที่สิวเริ่มขึ้น โดยการทายากลุ่มรักษาสิว ถ้าหากทาแล้วไม่ดีขึ้น หรือสิวอักเสบมีขนาดใหญ่มากควรไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ


1.หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่จะทำให้สิวอักเสบยิ่งแย่ลง เพราะยิ่งสิวอักเสบเม็ดใหญ่ก็ยิ่งมีโอกาสที่จะทิ้งหลุมสิวมากขึ้น ดังนั้น ห้ามแกะ บีบ หรือขัดถูใบหน้าแรงๆ เมื่อเป็นสิวเด็ดขาด


2.การบีบเค้นทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อมากขึ้น อาจลงไปในชั้นผิวที่ลึกขึ้น และกระบวนการสมานแผลของร่างกายจะใช้เวลานานขึ้น เกิดพังผืดมากขึ้น ก็จะกลายเป็นแผลเป็นหรือหลุมสิวถาวรได้เลย


3.ห้ามแกะสะเก็ด หลังจากหัวสิวหลุดแล้ว บางครั้งผิวหนังจะเริ่มสร้างสะเก็ดแผลขึ้นมา สิ่งที่ควรทำในช่วงนี้คือ ไม่ควรแกะสะเก็ดแผลเด็ดขาด เพราะสะเก็ดที่ยังไม่หลุดหมายความว่ากระบวนการสมานแผลยังไม่เสร็จสิ้น การแกะสะเก็ดทำให้กระบวนการรักษาถูกยืดออกไป การสร้างพังผืดก็จะมากขึ้น ทำให้เกิดการดึงรั้งของผิวหนังเป็นรอยหลุมสิว


ใครที่เป็นสิวเม็ดใหญ่และลุกลามเป็นพื้นที่กว้าง มีแนวโน้มที่จะเป็นรอยหลุมสิวมากกว่าคนที่มีสิวน้อยกว่า ดังนั้นควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาที่ถูกต้อง



การรักษาด้วยวิธีธรรมชาติ

การ รักษาหลุมสิว ด้วยสมุนไพรธรรมชาติอาจเห็นผลช้า แต่ข้อดี คือ ไม่ก่อการระคายเคืองผิวเหมือนวิธีใช้สารเคมีอื่นๆ เหมาะกับคนที่มีหลุมสิวแบบ Ice pick scar ที่หลุมสิวนั้นไม่ได้กินลึกถึง

วิธีนี้หลายๆ คนเรียกว่า ‘การใช้กรดผลไม้’ ซึ่งมีคุณสมบัติในการผลัดเซลล์ผิว กำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว การอุดตันของรูขุมขน และทำให้รอยหลุมสิวดูจางลงได้ แต่เราควรเลือกใช้ความเข้มข้นให้เหมาะกับสภาพผิวหน้า แต่หากผิวแพ้ง่ายหรือผิวแห้งก็ไม่ควรใช้นะคะ

  • กรด AHA ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่า และ รักษาหลุมสิว ให้ดีขึ้น ด้วยการทำให้หลุมสิวดูตื้นขึ้น ซึ่งกรดAHA นั้น คือ สารกัดที่ได้จากผลไม้ธรรมชาติ เช่น สารสกัดจากมะนาว หรือ มะขาม

  • ว่านหางจรเข้ ช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ใหม่ ช่วยให้หลุมสิวค่อยๆ ตื้นขึ้น สมานผิวได้ดี กระชับรูขุมขน และมีสารอะลอคตินเอ (Aloctin A) ช่วยป้องกันการอักเสบของผิวอีกด้วย

  • ใบบัวบก ช่วยฟื้นฟูผิวและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน มีสารไกลโคไซด์ (Glucosides) ช่วยฟื้นฟูรอยแผล รักษาหลุมสิว ให้จางลงได้

  • มะละกอสุก ในมะละกอมีเอนไซม์ชื่อปาเปน (Enzyme Papain) และโคโมปาเปน (Chymopapain) มีคุณสมบัติในการช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ ยังกระตุ้นการสมานแผลโดยออกฤทธิ์ช่วยย่อยสลายคอลลาเจนให้เร็วขึ้นเพื่อที่จะนำไปใช้ในการสร้างเซลล์ใหม่ได้เร็วขึ้น

  • น้ำมะพร้าวสกัดเย็น ช่วยให้หลุมสิวนุ่มและจางลง น้ำมันมะพร้าวมีกรดลอริก (Lauric acid) ช่วยต้านเชื้อแบคทีเรีย และสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วย รักษาหลุมสิว ให้หน้าเรียบเนียน

รักษาด้วยครีมสูตรผสมเคมี

  • แต้มกรด TCA การใช้กรด TCA ในการ รักษาหลุมสิว จะช่วยเร่งผิวใหม่ให้เกิดการแบ่งตัวเร็วขึ้น จึงช่วยทำให้รอยหลุมสิวค่อย ๆ ตื้นขึ้น หากเราทำอาทิตย์ละครั้งจะมีระยะเวลาเห็นผลประมาณ 3-6 เดือน ซึ่งการทานั้นจะเป็นการแต้มเฉพาะรอยหลุมสิวที่เป็นเท่านั้น เพราะการใช้กรด TCA ในการ รักษาหลุมสิว จะทำให้ผิวบริเวณที่ทำการรักษาเป็นสะเก็ดดำๆได้

  • กรดวิตามินเอ สำหรับคนที่กลัวการเป็นสะเก็ดและไม่ได้รีบร้อนในการ รักษาหลุมสิว คุณสามารถใช้ยาทาอีกตัวที่ช่วยให้หลุมสิวนั้นดูตื้นขึ้นมาได้ นั่นก็คือ “กรดวิตามินเอ” โดยนำมาทาบนรอยหลุมสิวเพื่อช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และยังสามารถทาได้บ่อยกว่ากรด TCA อีกด้วย เพราะสามารถทาได้อาทิตย์ละ 2 ครั้ง

  • ใช้การทายาในกลุ่มอนุพันธ์ของวิตามินเอ ในการ รักษาหลุมสิว เช่น Retin A เพื่อเป็นการช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว

รักษาด้วยการผลัดเซลล์ผิว

วิธีการ รักษาหลุมสิว ด้วยการกรอผิวด้วยเกร็ดอัญมณี (Microdermabrasion) หรือเรียกสั้นๆ ว่า MD วิธีการโดยการนำผง Aluminum oxide, Sodium chloride หรือ Sodium bicarbonate ที่มีขนาดเล็กมากกว่า 100 ไมครอน (Micron) มาใช้

วิธีนี้สามารถใช้ได้กับหลุมสิวทุกประเภท แต่จะเห็นผลดีในหลุมสิวประเภท Rolling scar และต้องเว้นระยะห่างในการทำ เพราะการกรอผิวเพื่อให้ผิวตื้น และการผลัดเซลล์ผิวเก่าจะทำให้ผิวหน้าบางไปด้วย

โดยการรักษาหลุมสิว ด้วยวิธีการกรอผิวแบบนี้แพทย์จะนัด 1-2 สัปดาห์ ต่อการทำ 1 ครั้ง ใช้เวลาในการทำ 6-10 ครั้ง เพื่อให้ได้ผลในการ รักษาหลุมสิว

รักษาด้วยเลเซอร์รักษาหลุมสิว

เลเซอร์รักษาหลุมสิว (Laser Resurface) วิธีนี้สามารถใช้ รักษาหลุมสิว ได้ทั้ง 3 ประเภท การรักษาหลุมสิว ด้วยวิธีนี้ต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังเท่านั้น เพราะอาจเกิดผลข้างเคียง ที่ทำให้ผิวเกิดรอยดำเป็นปี การทำเลเซอร์มีด้วยกันหลายชนิด

เป็นการยิงเลเซอร์เข้าไปที่ผิวชั้นกลางให้น้ำในผิวอุ่นเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน วิธีนี้จะไม่รู้สึกเจ็บมาก เพราะแพทย์จะทายาชาเพื่อลดความรู้สึกขณะทำก่อนยิงเลเซอร์ จะพบรอยแดงบนใบหน้าหลังทำ ปรากฏอยู่ประมาณ 1-2 ชั่วโมง วิธีนี้เหมาะกับใช้รักษาหลุมสิว ประเภท Rolling scar ทำติดต่อกัน 5-7 ครั้งจึงจะเห็นผล โดยการรักษาแต่ละครั้งแพทย์ผิวหนังจะนัดห่างกัน 2-4 สัปดาห์


ดังนั้นเมื่อสิวขึ้นทุกครั้ง เราจะต้องดูแล รักษาสิว ให้หายอย่างถูกวิธีเพื่อป้องกันไม่ให้เกิด หลุมสิว ตามมา ต้องให้คอลลาเจนที่หายไปจากการถูกทำร้ายลึกในชั้นผิว ถูกสร้างเซลล์ขึ้นใหม่มาทดแทน การรักษาหลุมสิวเลยต้องมีการกระตุ้น เพื่อเรียกคอลลาเจนให้เนื้อเยื่อกลับขึ้นมา หลุมสิวนั้นจึงดูตื้นขึ้น และผิวกลับมาเรียบเนียนในที่สุด


ผิวหน้าไม่เรียบเนียนเพราะมีหลุมเดิมจากการเจาะหนองออกเมื่อนานโขมาแล้ว อันนี้ก็ไปหาทางรักษาหลุม ริ้วรอย กรอผิว ด้วยเกล็ดอัญมณีเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาเรื่องรอยหลุม และรูขุมขนกว้าง

 

อ่านเพิ่มเติม ได้ที่ สิว รอยหลุม

ติดตามอ่านบทความดีๆ ได้ที่ beautymustknow.com

กันแดด กันดะ มีวางจำหน่ายแล้วทั่วประเทศ สอบถามข้อมูลและเลือกซื้อสินค้าเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : https://www.facebook.com/pg/kandabeauty.company/ website : Kandabeauty.com

ดู 2 ครั้ง0 ความคิดเห็น

Comments


bottom of page