top of page
ค้นหา
รูปภาพนักเขียนniracha payyakul

สิว อักเสบ เรื้อรังขึ้นไม่หยุดรักษาได้ไหม

อัปเดตเมื่อ 7 ธ.ค. 2564

สิว อักเสบ เรื้อรังขึ้นไม่หยุดรักษาได้ไหม

เคยสงสัยกันไหม ทำไมเป็นสิวไม่หายสักที สิว อักเสบ รักษายังไงก็ไม่หายเป็นสิวตลอดเวลา ไปหาหมอ กินยารักษา ฉีดยาสิวก็ยังไม่หาย เราเป็นสิวประเภทไหนกันและรักษาสิวถูกวิธีไหม วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับสิวและวิธีการรักษาที่เหมาะกับสิวแต่ละประเภท



เราเป็นสิวกันมาหลายปี เคยไปหาหมอก็แล้ว เข้าคลินิก กินยารักษาสิว ฉีดยาสิว รักษายังไงก็ไม่หายไปสักที แถมทิ้งรอยดำรอยแดงที่เกิดจากสิวแก้ยาก ต้องใช้เวลาในการรักษานานกว่ารอยที่เป็นจะลดจางลง ทางหนทางในการรักษารอยสิวที่กวนใจคุณๆกัน ในปัจุจันมีผลิตภัณฑ์ออกมามากมายหลายแบรนด์ เจลแต้มสิว ถือเป็นที่นิยมในการใช้แต้มรักษาสิวในระหว่างวัน เนื่องจากพกพาได้สะดวกสบายไม่หนักกระเป๋า แถมใช้แต้มได้ในระหว่างวัน แต่ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จัก สิว กัน


สิว

เกิดจากกรรมพันธ์ุหรือฮอร์โมนที่เปลี่ยนไป การใช้ยา หรือสารเคมีบางชนิด การใช้เครื่องสำอาง สภาพผิวหน้าและความมันบนใบหน้า สิวเกิดจากการอุดตันที่รูขุมขนบริเวณผิวหนัง ปัจจัยหลักในการเกิดสิว คือ ร่างกายผลิตน้ำมันที่ชั้นผิวหนังมากเกินไป เซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วไปอุดตันรูขุมขน และการติดเชื้อแบคทีเรียบริเวณผิวหนังทำให้เกิดการอักเสบ ส่วนการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเพื่อการเจริญเติบโตในช่วงวัยรุ่นก็อาจทำให้เกิดสิวได้เช่นกัน

การอักเสบของหน่วยรูขนหรือเรียกอีกอย่างว่ารูขุมขน และต่อมไขมัน โดยมากมักเป็นบริเวณหน้า คอ และลำตัวส่วนบน ซึ่งเป็นตำแหน่งที่มีต่อมไขมันขนาดใหญ่อยู่อย่างหนาแน่น สิวมักปรากฎอาการในช่วงวัยรุ่น ในผู้หญิงช่วงอายุ 14-17 ปี และในช่วงอายุ 16-19 ปีสำหรับผู้ชาย และมักหายไปในช่วงอายุ 20-25 ปี แต่ในบางคนอาจเป็นๆ หายๆ จนอายุ 40 ปี ขึ้นกับปัจจัยต่างๆ ที่ทำให้เกิดสิว

สิวแต่ละประเภทและการดูแลรักษา

1.สิวอุดตัน(Comedones) แบ่งเป็น 2 ประเภท ดังนี้

  • สิวหัวดำ (Blackheads) หรือสิวอุดตันหัวเปิด มีลักษณะเป็นตุ่มสีดำเล็กๆ พบได้ทุกที่ทั้งใบหน้า หน้าอก และหลัง เกิดจากการอุดตันของเซลล์ผิวที่ตายแล้ว แบคทีเรีย และน้ำมันในรูขุมขน ทำปฏิกิริยากับออกซิเจนในอากาศ จึงทำให้หัวสิวกลายเป็นสีดำค่ะ

  • สิวหัวขาว (Whiteheads) หรือสิวอุดตันหัวปิด มีลักษณะเป็นตุ่มสีขาวใต้ผิวหนัง สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน เครื่องสำอางตกค้างในรูขุมขน และการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีไขมันเป็นส่วนประกอบ

วิธีการรักษาสิวอุดตัน

  • ไม่ควรแคะ แกะ เกา หรือบีบออกเอง เพราะอาจทำให้เนื้อเยื่อช้ำ และติดเชื้อแบคทีเรียได้

  • หมอแนะนำให้ทายาที่มีส่วนผสมของเบนซิลเพอร์ออกไซด์ (Benzoyl Peroxide), กรดซาลิไซลิค (Salicylic Acid), กรดอะซีลาอิค (Azelaic Acid), กรดไกลโคลิค (Glycolic Acid) หรือยากลุ่มอนุพันธ์ของวิตามินเอ โดยทาบางๆ ให้ทั่วบริเวณที่เป็นสิว เพื่อช่วยลดการอุดตัน พร้อมเปิดรูขุมขนให้สิวอุดตันหลุดออกง่ายขึ้น

2.สิวอักเสบ(Inflammatory Acne)

สาเหตุเกิดจากระบบภูมิคุ้มกันสร้างเซลล์เม็ดเลือดขาวมาต่อสู้กับแบคทีเรีย Cutibacterium Acnes ทำให้เกิดการอักเสบ และบวมแดงขึ้นมา ซึ่งสิวอักเสบสามารถแบ่งได้ 4 ประเภท ดังนี้

  • สิวตุ่มแดง (Papules) มีลักษณะเป็นตุ่มแดงขนาดเล็ก มีอาการเจ็บเมื่อสัมผัส

  • สิวตุ่มหนอง (Pustules) มีลักษณะคล้ายกับสิวตุ่มแดง แต่จะมีหัวหนองอยู่บริเวณกลางตุ่ม

  • สิวหัวช้าง (Nodules) มีลักษณะเป็นสิวอักเสบสีแดง แข็ง มีขนาดตั้งแต่ 5 มิลลิเมตร ขึ้นไป

  • สิวซีตส์ (Cysts) เป็นสิวอักเสบประเภทที่รุนแรง และเป็นอันตรายมากที่สุดเลยค่ะ ซีสต์จะเป็นถุงน้ำใต้ผิวหนัง เต็มไปด้วยหนองปนเลือด และอาจมีขนาดใหญ่หลายเซนติเมตร จะมีอาการบวมแดง และเจ็บปวดมาก



วิธีการรักษาสิวอักเสบ

  • หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีไขมันเป็นส่วนประกอบ

  • กรณีที่หัวสิวเป็นหนอง และหัวสิวเปิดแล้ว สามารถใช้แผ่นดูดสิวซับหนองออกได้

  • ไม่ควรบีบ หรือกดสิวออก เพราะจะทำให้เชื้อแบคทีเรียแพร่กระจายไปยังส่วนอื่นได้ง่ายขึ้น ทั้งยังมีโอกาสทำให้เกิดรอยแดง รอยดำ รอยแผลเป็นจากสิว หรือหลุมสิว ที่เป็นแล้วต้องใช้เวลาในการรักษา และอาจมีค่าใช้จ่ายในการรักษาที่สูง เพราะต้องพึ่งการรักษาหลากหลายวิธี


สิวอักเสบ เรื้อรัง

สิวเริ้อรัง คือสิวที่เกิดในจุดหรือบริเวณนั้นซ้ำๆ ไม่ยอมหายซึ่งอาจเกิดจากการติดเชื้อของสิว สิวที่เกิดอาการอักเสบบริเวณรูขุมขนและต่อมไขมันใต้ผิวหนัง จนปรากฏอาการออกมาเป็นสิวลักษณะต่าง ๆ ที่มักก่อให้เกิดความเจ็บปวดหากสัมผัสโดนบริเวณนั้น โดยสิวอักเสบอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ อย่างรูขุมขนอุดตัน และกรรมพันธุ์ รวมถึงภาวะที่ฮอร์โมนในร่างกายเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ ระดับฮอร์โมนเพศของผู้หญิงมักเปลี่ยนแปลงตามรอบประจำเดือน ซึ่งนอกจากทำให้เกิดสิวแล้ว อาจทำให้เกิดอาการผิดปกติอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น คัดตึงเต้านมปวดท้อง ท้องเสีย ท้องอืด ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย น้ำหนักขึ้น อารมณ์แปรปรวน เป็นต้น

สิวอักเสบ มี 4 ชนิด ได้แก่

  • สิวตุ่มแดง เป็นตุ่มสีแดงขนาดเล็ก เป็นก้อนแข็งนูนขึ้น ทำให้เกิดความเจ็บปวด

  • สิวหัวหนอง เป็นผลมาจากการอักเสบบริเวณต่อมเหงื่อและรูขุมขน เกิดเป็นตุ่มที่มีหนองสีขาวอยู่ตรงหัวสิว

  • สิวก้อนลึก คล้ายสิวตุ่มธรรมดา แต่ตุ่มจะเป็นก้อนแข็งขนาดใหญ่ลึกลงไปในชั้นผิวหนัง

  • สิวซีสต์ ตุ่มสิวขนาดใหญ่ลักษณะคล้ายฝี ภายในเป็นหนองอักเสบ เป็นสิวอักเสบชนิดที่รุนแรงที่สุด

วิธีปฏิบัติเพื่อลดสิวอักเสบ

  • การล้างหน้าบ่อยๆเป็นการกระตุ้นทำให้สิวเกิดมากขึ้น การล้างหน้าบ่อยจะทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองได้ง่าย ทำให้ผิวบอบบางลง จึงทำให้ผิวเกิดขึ้นได้ง่าย เราควรล้างหน้าวันละ2 ครั้งต่อวันคือ ตอนเช้า-ตอนกลางคืน ก็เพียงพอ และควรหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อผิว

  • หลีกเลี่ยงสาเหตุที่ทำให้สิวจากการกิน ควรลดหรือหลีกเลี่ยงการกินของมัน ของทอด เพราะมีกรดไขมันจากน้ำมันพืช อีกทั้งยังมีเนย กระเทียม ซึ่งจะทำให้ร่างกายสร้างสารที่ก่อให้เกิดการอักเสบเพื่มขึ้น โดยเฉพาะคนที่กำลังรักษาสิว หากรับประทานอาหารเหล่านี้เข้าไปจะทำให้สิวเลวร้าย เกิดอาการอักเสบของสิวมากขึ้น

  • หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำให้เกิดความมันบนใบหน้า ทั้งครีมกันแดดหรือเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่เป็นแหล่งสะสมจนทำให้เกิดสิว

  • นอนหลับให้เพียงพอ ห้ามนอนดึก เราควรเข้านอนก่อน 4ทุ่ม การนอนดึกส่งผลเสียต่อผิวมาก ทำให้ผิวไม่แข็งแรง แถมยังมีริ้วรอยขึ้นได้ง่าย ดังนั้นถ้าอยากขจัดสิวบนใบหน้าให้หมดไป ควรนอนหลับให้เพียงพอได้วันละ 7-8 ชั่วโมง ก็จะทำให้ผิวพรรณได้รักการฟื้นฟูอย่างเต็มที่จากภายใน

  • หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่รุงแรงทำให้เกิดอาการระคายเคืองของผิว ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรดที่ก่อให้เกิดอาการแสบผิวต่างๆ เช่น ปรอท(mercury) ไฮโดรควิโนน (Hydroquinone) สเตียรอยด์ (Steroid) กรดเรติโนอิก (Retinoic acid)

  • การเช็ดหน้าแบบถูหรือรุนแรง หลังจากการล้างเสร็จเราควรนำผ้าเช็ดแบบซับเบาๆไม่ถูหน้าอย่างรุนแรง จุดเริ่มต้นที่ทำให้เกิดสิวได้ง่าย เพราะสิวจะตอบสนองไวต่อสิ่งที่มากระตุ้นบนใบหน้า ไม่ว่าจะเป็นการสัมผัส การเช็ดถู ทำให้จากที่สิวกำลังจะยุบตัวลง ก็จะถูกกระตุ้นจนลุกลามมากขึ้นจากสิวเสี้ยนก็จะกลายมาเป็นสิวอุดตัน

  • ควรสระผมบ่อยขึ้น อย่าปล่อยให้ผมมันและลงมาปรกตามใบหน้า พร้อมทั้งหลีกเลี่ยงการใช้น้ำมันใส่ผมหรือเจลแต่งผม รับรองสิวผดและสิวอุดตันทั้งบนใบหน้าและแผ่นหลังจะลดลงหายไป

  • ซับหน้าระหว่าง การซับหน้ามันระหว่างด้วยกระดาษซับมันจัดเป็นไอเท็มสำหรับคนผิวมัน ช่วยไม่ก่อให้เกิดสิวหรือการระคายเคือง ช่วยลดความมันส่วนเกินเป็นสาเหตุของปัญหาสิวเสี้ยนและสิวอุดตัน ไม่ควรปล่อยในหน้ามันมากเกินไป ควรใช้กระดาษซับหน้า แบบเบามือช่วยลดความมัน

  • อย่าใช้ผ้าเช็ดหน้ากดทับบริเวณที่เป็นสิวอักเสบ อย่าใช้มือบีบ แกะ เกา บริเวณที่เป็นสิวอักเสบ การบีบสิว แกะ เกาไม่ได้ทำให้สิวลดลง แต่การที่เราบีบ แกะ เกาสิวบ่อย ๆ จะทำให้แบคทีเรียแพร่กระจายไปบนใบหน้า ทำให้สิวขึ้นมาใหม่ได้ อีกทั้งยังทิ้งรอยดำไว้บนผิวหน้าของเราอีกด้วย

  • อย่าเครียด หาวิธีการลดความเครียด ออกไปทำกิจกรรมข้างนอกเปลี่ยนบรรยายกาศหรือการหมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ ทำจิตใจให้แจ่มใส

วิธีการป้องกันการเกิดสิวอักเสบ

  • หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของ Olive Oil, Lanolin, Sodium Laury Sulphate หรือการไปรบกวนบริเวณผิวบ่อย ๆ เช่น การขัดหน้าด้วยสครับ หรือการนวดหน้าด้วยครีมที่ส่วนผสมของน้ำมัน

  • การเลือกรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพและมีประโยชน์ต่อร่างกาย รับประทานอาหารได้ตามปกติ เพราะอาหารไม่ใช่สาเหตุของ การทำให้เกิดสิว แต่ถ้าสังเกตุว่าเมื่อ รับประทานอาหารบางชนิด ทำให้มีสิวเห่อขึ้น ที่ใบหน้าทุกครั้ง แบบนี้ก็ควรหลีกเลี่ยงอาหารชนิดนั้นเสีย

  • การทาครีมละลายหัวสิวก่อนล้างหน้าจะช่วยให้สิวหลุดออกได้ง่ายจึงทำให้ไม่เป็นสิวอักเสบตามมาภายหลัง

  • ภาวะเครียด พักผ่อนไม่เพียงพอ ระบบขับถ่ายไม่ดี และประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ จะทำให้มีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกายซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดสิวได้

  • การฉีดยารักษาสิวอักเสบเม็ดใหญ่ ๆ ให้ยุบเร็วขึ้นเป็นการรักษาที่ปลายเหตุควรรักษาที่ต้นเหตุของสิวคือรักษาสิวเม็ดเล็ก ๆ โดยการทายาแล้วกดออกก่อนที่สิวเม็ดเล็กๆ จะบวมเป็นเม็ดใหญ่เพราะถ้าบวมอักเสบเป็นเม็ดใหญ่แล้วก็จะทำให้เกิดรอยดำและรอยแผลเป็นหลุมได้

  • ลดการสัมผัสใบหน้าบ่อยๆ มือของเราเป็นบริเวณที่สะสมเชื้อโรคได้อย่างดี เพราะวันหนึ่งเราสัมผัสอะไรต่อมิอะไรมากมาย บางทีลืมล้างมือ พอมาสัมผัสกับใบหน้าอาจก่อให้เกิดการอุดตันและสิวอักเสบ ดังนั้นพยายามห้ามใจและเตือนตัวเองว่าอย่าเอามือสัมผัสหน้าโดยเด็ดขาด


หลายคนมีปัญหาเรื่องสิวที่แตกต่างกันไป ปัญหาสิวไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ รักษาสิวไม่เคยหายขาดเป็นๆหายๆ ไม่ว่าจะเป็นสิวอุดตัน สิวอักเสบ สิวหัวหนอง การรักษามีมากมายหลายวิธีทั้งการรักษาด้วย ยารักษาสิว ครีมรักษาสิว เจลแต้มสิว อาหารเสริมรักษาสิว หรือเข้าคลินิกไปหาหมอ กระบวนการรักษาสิวที่เราได้รับการรักษาอาจเกิดจากการรักษาที่ผิดพลาด แต่เราสามารถแก้ปัญหาได้ง่ายๆตามที่เราได้แนะนำมาข้างต้น สาวๆลองทำตามวิธีการดูนะ เชื่อว่า สามารถช่วยแก้ปัญหาสิวได้อย่างแน่นอน


มาถึงตรงนี้แล้ว เชื่อว่าสาวๆคงจะพอรู้วิธีการรักษาสิวให้เหมาะกับสิวแต่ละประเภทกันแล้ว แต่อย่าลืมที่จะหาสิ่งที่ช่วยทำให้ผิวอ่อนเยาว์วัย แก้ปัญหา ริ้วรอย หน้าผาก ที่เกิดขึ้นบนใบหน้าตามอายุที่เพิ่มมากขึ้นในทุกปีๆ เลือกผลิตภัณฑ์ที่ดีให้แก่ผิวกันด้วยนะ

 

อ่านเพิ่มเติม ได้ที่ สิว อักเสบ

ติดตามอ่านบทความดีๆ ได้ที่ beautymustknow.com

กันแดด กันดะ มีวางจำหน่ายแล้วทั่วประเทศ สอบถามข้อมูลและเลือกซื้อสินค้าเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : https://www.facebook.com/pg/kandabeauty.company/ website : Kandabeauty.com

ดู 6 ครั้ง0 ความคิดเห็น

Comments


bottom of page