top of page
ค้นหา
รูปภาพนักเขียนniracha payyakul

สิว เห่อ เป็นสิวฮอร์โมน รู้ก่อนใคร รักษาไว

อัปเดตเมื่อ 7 ธ.ค. 2564

สิว เห่อ เป็นสิวฮอร์โมน รู้ก่อนใคร รักษาไว

ประจำเดือนมาไม่ปกติ สิว เห่อ เป็นสิวฮอร์โมน ผิวหน้ามัน ถือเป็นอาการที่พบได้บ่อยของผู้หญิงที่อยู่ในวัยเจริญพันธุ์ หากมองผิวเผินอาจดูเหมือนเป็นเรื่องปกติทั่วไป แต่ถ้าพบอาการเหล่านี้ร่วมกับภาวะอ้วน น้ำหนักเกิน หรือมีโรคประจำตัวเป็นเบาหวาน อาจเสี่ยงต่อการเกิดภาวะถุงน้ำในรังไข่หลายใบ หรือ PCOS ได้ หากไม่ได้รับการวินิจฉัยและการรักษาที่ถูกต้อง อาจส่งผลกระทบในอนาคต


เราอยู่ในยุคที่มลภาวะมีแต่สิ่งสกปรก เชื้อโรค และยังต้องเผชิญหน้ากับความเครียดที่หลากหลาย ปัจจัยที่กล่าวมานั้นสามารถทำให้ผิวหน้าเป็นสิวได้ง่าย เกิดริ้วรอยก่อนวัย ผิวหมองคล้ำ จากปัญหาที่สามารถเกิดขึ้นกับผิวหน้าได้ จึงจำเป็นจะต้องใช้เจลแต้มสิวดูแล สิว ที่ช่วยป้องกัน และช่วยให้ผิวดีขึ้นจากเดิม



โดยเรียงลำดับขั้นตอนดังนี้ • หลังล้างหน้า เริ่มต้นด้วยโทนเนอร์ ซึ่งจะเป็นวอเทอร์เบสเนื้อบางเบา ปรับสมดุลผิวให้พร้อมรับการบำรุง • ตามด้วยบูสเตอร์ และอายครีมหากมี • ขั้นตอนการทาครีมบำรุง ให้เริ่มจากกลุ่มที่ช่วยในการผลัดผิวก่อน(หากมี) เช่น เอเอชเอ (AHA), บีเอชเอ (BHA), เรตินอล (Retinol) ซึ่งโดยมากกลุ่มนี้จะมาในเนื้อบางเบาอยู่แล้วเป็นปรกติ แล้วจึงทาครีมบำรุงกลุ่ม ไวท์เทนนิ่ง มอยซเจอไรเซอร์ และแอนไทเอจจิ้ง โดยให้ทาตัวที่มีเนื้อเบาก่อน แล้วตามด้วยครีมบำรุงเนื้อหนักค่ะ

สรุปขั้นตอนหลักๆง่ายๆ หลังล้างหน้า โทนเนอร์ > บูสเตอร์ > อายครีม > เซรั่ม > เอสเซนส์ > เจล > ครีม > อีมัลชั่น > กันแดด > รองพื้น > เมคอัพ

1.โทนเนอร์ (Toner)

ผลิตภัณฑ์ประเภทโทนเนอร์ เป็นตัวที่ช่วยปรับสภาพผิว และสิ่งที่สำคัญของโทนเนอร์ คือ ช่วยทำความสะอาดขจัดสิ่งสกปรกที่ตกค้างหลังการล้างหน้า โดยหลักของการใช้โทนเนอร์คือการนำสำลีชุบโทนเนอร์เช็ดบริเวณใบหน้า เพราะผิวสัมผัสของสำลีจะช่วยทำให้โทนเนอร์ที่ชุบอยู่สามารถเข้าถึงสิ่งสกปรกได้อย่างล้ำลึกมากกว่าการล้างหน้า 2.บูสเตอร์ (Booster) ศัพท์ใหม่ในตอนนี้กับ บูสเตอร์ เป็นผลิตภัณฑ์ที่ออกมาให้ใช้ก่อนลงครีมบำรุงผิวทุกขั้นตอน ใช้ในการล้างหน้า มีคุณสมบัติที่ช่วยปรับสภาพผิวให้พร้อมรับการบำรุงอย่างเต็มที่ และยังช่วยกระตุ้นสารบำรุงต่างๆ ให้ซึมเข้าสู่ผิวได้ดียิ่งขึ้น 3. อายครีม (Eye Cream ) บำรุงผิวไปแล้ว รอบดวงตาก็อย่าได้ขาด เพราะต่อให้ผิวสวย แต่ตาหมองคล้ำ ไม่สดใสก็ถือว่าจบทุกอย่างที่ทำมาเลยนะคะ เลือกอายครีมที่ให้ความชุ่มชื้น และกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ได้นานหน่อย เพื่อป้องกันตาเหี่ยว ที่สำคัญคือ ตอนทาห้ามถูแรง ๆ แต่ให้สัมผัสเบาที่สุดเท่าที่จะเบาได้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดริ้วรอยรอบดวงตา 4.เซรั่ม (Serum) เซรั่มมีคุณสมบัติคล้ายกับเอสเซนส์ เพราะเน้นเรื่องการบำรุงผิวอย่างล้ำลึกเหมือนกัน แต่ต่างกันตรงที่เซรั่มมีส่วนผสมของ Oil-Base ซึ่งช่วยในเรื่องความชุ่มชื่นมากกว่า โดยส่วนใหญ่เซรั่มจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ดูแลปัญหาผิวแบบเฉพาะเจาะจง และช่วยบำรุงผิวในระยะยาวด้วยการเพิ่มคอลลาเจนและให้ความชุ่มชื้นอย่างเต็มที่ มีเนื้อสัมผัสที่หลากหลาย ตั้งแต่แบบน้ำ น้ำมัน หรือเจลใส แต่มีขนาดโมเลกุลที่เล็กจึงเติมอาหารเข้าสู่ผิวได้อย่างล้ำลึกแบบธรรมดา คุณสมบัติที่สำคัญของโทนเนอร์อีกอย่างหนึ่งคือ ช่วยเดิมน้ำให้ผิว 5.เอสเซนส์ (Essence) เป็นอีกตัวที่ยอดฮิตในตอนนี้ เอสเซนส์ หรือที่เรียกกันว่า “น้ำตบ” เป็นตัวบำรุงผิวจากภายใน เป็นการเน้นการบำรุงที่ล้ำลึกเข้าไปถึงชั้นผิว สิ่งที่สำคัญของเอสเซนส์ คือ ช่วยฟื้นฟูผิวจากภายใน และมีส่วนผสมเป็น Water-Base เหมาะสำหรับผู้ที่แพ้สารตระกูลน้ำมัน ซึ่งเนื้อของเอสเซนศ์จะมีลักษณะสัมผัสที่บางเบา ซึบซาบได้เร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ 6.ครีม (Cream) ครีม ผลิตภัณฑ์ที่เราเคยชินและน่าจะใช้บ่อยที่สุด นึกถึงครีมก็จะนึกถึงสีขาว เนื้อครีมสีขาวที่มีความเข้มข้น ครีมจะบำรุงไปด้วยสารที่เข้มข้น และให้ความชุ่มชื้นมากเป็นพิเศษ จุดเด่นของครีมก็คือ ช่วยให้ผิวชั้นนอกชุ่มชื่นอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด เพราะในครีมมีน้ำมันมาก ที่จะช่วยเคลือบผิว และป้องกันการสูญเสียน้ำได้อย่างดีเยี่ยม เหมาะมากสำหรับคนที่มีผิวแห้งกร้าน 7.อิมัลชั่น (Emulsion) เป็นคำใหม่ที่ใครหลายคนอาจจะไม่คุ้นหู อิมัลชั่น เป็นมอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่เนื้อบางเบา แต่สามารถบำรุงผิวได้แพ้ครีมบำรุง จุดเด่นของอิมัลชั่นช่วยบำรุงและเคลือบผิวชั้นนอกให้ขุ่มชื่นอย่างพอเหมาะ โดยไม่ทำให้ผิวมันจนเกินไป จึงเหมาะมากสำหรับคนที่หน้ามันมาก 8.กันแดด(Sunscreen) การปกป้องผิว ถ้าเป็นตอนกลางวันก็ให้ทาครีมกันแดด ที่เนื้อไม่แห้งเอี๊ยด เกลี่ยง่าย ไม่เป็นคราบขาว หรือเป็นขุยติดผิว อาจจะไม่ต้องเลือกเนื้อหนาหนักแต่ต้องมั่นใจเรื่องสารกันแดดที่ปกป้องผิว และเนื้อที่ไม่ฝืดผิวก็พอค่ะ ส่วนในตอนกลางคืนต้องอย่าลืมเพิ่มปราการปกป้องผิว ด้วยการใช้สลีปปิ้งมาสก์ล็อกความชุ่มชื้นผิวไว้ด้วยนะ ตื่นมาจะได้ผิวนุ่มเด้ง เหมือนนอนเต็มอิ่มยังไงล่ะ


เลือกผลิตภัณฑ์บำรุงผิวดูอย่างไร

  • ไฮยาลูรอนิก ที่ช่วยเติมน้ำให้ผิว

กรดไฮยาลูรอน หรือไฮยาลูรอนิก เอซิด เป็นสารที่ร่างกายสามารถผลิตขึ้นมาได้เองแล้วยังเป็นส่วนประกอบสำคัญของน้ำที่ช่วยหล่อลื่นส่วนต่างๆ ของร่างกายรวมไปถึงผิวหน้าของเราด้วย มีหน้าที่ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นของผิว ช่วยคงสภาพผิวให้เรียบเนียนและยืดหยุ่น กรดไฮยาลูรอนิกที่มีอยู่ในร่างกายลดลงทำให้ความชุ่มชื่นระเหยออกจากชั้นผิวได้ง่ายขึ้น ก็เลยเป็นเหตุที่ว่าทำไมอายุยิ่งมากขึ้นผิวเราถึงยิ่งแห้งยิ่งขาดนำ้ รวมไปถึงริ้วรอยต่างๆ ก็ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของกรดไฮยาลูรอนิก เลยกลายเป็นส่วนผสมสุดสำคัญที่ช่วยเติมความชุ่มชื่นให้กับชั้นผิวหนัง รวมไปถึงคอลลาเจน และอีลาสตินเข้าด้วยกัน แล้วนอกจากจะช่วยอุ้มน้ำไว้ในชั้นผิว ยังเป็นเหมือนตัวพาส่วนผสมสำคัญอื่นๆ ในสกินแคร์ให้ซึมเข้าเซลล์ผิวได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วย ประโยชน์ไฮยาลูรอนิก >ผิวเกิดความสมดุล หมดปัญหาเรื่องผิวแห้งลอก เป็นขุย ผิวกักเก็บน้ำได้เป็นอย่างดี >ผิวแลตึงกระชับ ไม่ระคายเคืองง่าย >ซ่อมแซมผิวที่ถูกทำลาย เร่งการฟื้นฟูเซลล์ผิวให้แผลหายเร็วขึ้น >ลดเลือนริ้วรอย ที่เกิดขึ้นตามใบหน้าและบริเวณต่างๆ

  • คอลลาเจน เพื่อผิวกระชับ รูขุมขนเล็กลง

คอลลาเจน (collagen) เป็นโปรตีนโครงสร้างหลักของเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน โดยมีประมาณร้อยละ 30 ของโปรตีนทั้งหมดในร่างกาย พบได้ทั่วไปในส่วนผิวหนัง กระดูก เอ็น และกระดูกอ่อน โดยทั่วไปในธรรมชาติมี 2 ชนิด คือ คอลลาเจนที่ละลายน้ำได้ (soluble collagen) และคอลลาเจนที่ละลายน้ำไม่ได้ (insoluble collagen) ปริมาณ soluble collagen จะลดลงเมื่ออายุมากขึ้นเพราะเปลี่ยนสภาพเป็น insoluble collagen มากขึ้น และร่างกายจะผลิต (soluble collagen) ได้น้อยลงทุกปีๆ เป็นสาเหตุทำให้ผิวเกิดอาการเหล่านี้ >ความยืดหยุ่น และความเต่งตึงของผิวลดลง จนเกิดริ้วรอย และรอยเหี่ยวย่นทำให้แลดูแก่มากขึ้น >ผิวดูไม่เปล่งปลั่ง โทรม แลดูหมองคล้ำ >การฟื้นตัว สมานแผลของผิวน้อยลง ทำให้สิวหายช้าจนเกิดหลุมชัด >แต่งหน้าไม่ติด เพราะผิวแห้ง ขาดน้ำ มีความมันส่วนเกิน ผิวไม่มีความสมดุลระหว่างน้ำและน้ำมัน แต่นอกจากอายุที่มากขึ้นแล้ว ก็ยังมีสาเหตุและปัจจัยอื่นๆ อีกมากมายเช่นการสัมผัสกับรังสียูวี ความเครียด การพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่างๆ เพราะแบบนี้เองแหละค่า ที่ทำให้เราต้องมีการเสริมคอลลาเจนในรูปแปบบอื่นๆ และสิ่งที่สาวๆ นิยมมาสุดสุดเห็นจะเป็นอะไรไม่ได้นอกจากครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของคอลลาเจนนั่นเอง ซึ่งถ้ายิ่งมีคอลลาเจนโมเลกุลเล็กเท่าไหร่ก็จะสามารถซึมลึกได้ดีเท่านั้นเช่น Pico Collagen ซึ่งมีขนาดเล็กมากเทียบเท่าอะมิโน ซึมลึกได้ถึงชั้นหนังกำพร้า ทำให้ชั้นผิวแข็งแรงจากภายในสู่ภายนอกค่ะ ถ้าใครไม่อยากดูแก่ต้องรีบดูแลและหาครีมที่มีส่วนผสมของคอลลาเจนมาใช้กันนะคะ

  • มอยเจอร์ไรเซอร์รักษาความชุ่มชื้นให้ผิว

ผิวคนเราจะผลิตมอยส์เจอร์ไรเซอร์ได้เองแต่ในปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์บำรุงผิวมากกมายที่มีส่วนผสมไม่เป็นมิตรกับผิว มีฤทธิ์ระคายเคือง ทำให้ผิวอ่อนแอและผลิตมอยส์เจอร์ไรเซอร์ได้น้อยลง การบำรุงผิวโดยคำนึงถึงส่วนผสมของมอยส์เจอร์ไรเซอร์จึงมีความสำคัญเช่นกัน บางคนหน้ามันแล้วกลัวว่าถ้าใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์จะทำให้ผิวยิ่งมัน เป็นความเข้าใจที่ไม่ถูกต้องนัก เพราะมอยส์เจอร์ไรเซอร์มีหลายประเภท สามารถเลือกใช้ให้ตรงกับสภาพผิวได้ Humectants มอยส์เจอร์ไรเซอร์กลุ่มนี้เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหนังโดยการจับน้ำในผิวหนังไว้ไม่ให้ระเหยไป สารกลุ่มนี้ได้แก่ lactic acid, polyol, mucopolysaccharide, urea, glycerol เป็นต้น สารกลุ่มนี้เมื่อทาบนผิวหนัง อาจระคายผิวหนังได้ ทำให้รู้สึกยิบ ๆ จึงควรระมัดระวังโดยเฉพาะผิวหนังที่มีการอักเสบอยู่ Occlusive ตัวสร้าง Barrier หรือปราการปกป้องผิว ไม่ให้ผิวสูญเสียน้ำ ซึ่งเมื่อทาสาร Occlusive ลงไปแล้ว น้ำจะไม่สามารถระเหยออกมา ให้ความชุ่มชื้นกลุ่มนี้ทำงานโดยป้องกันการระเหยของน้ำจากผิวหนัง ซึ่งอาศัยความเป็นน้ำมัน ในการเคลือบผิวเอาไว้ โดยสารให้ความชุ่มชื้นกลุ่มนี้จะทำงานได้ดีสุดตอนที่เราเพิ่งอาบน้ำเสร็จ ใช้ตอนที่ร่างกายยังชื้นๆ Emollient ซึมเข้าผิว ช่วยให้ผิวนุ่มเด้งควบ 2 ฟังก์ชั่นกันไปเลยค่ะ เพราะทำหน้าที่เป็น Occlusive ด้วย และยังทำให้ผิวเนียนนุ่มเด้งด้วย ตัวนี้เราจะเจอได้บ่อยในพวก Vegetable Oil ต่าง ๆ แถมน้ำหนักของเขายังมีหลากหลาย กระจายตัวบนผิวได้ไม่เท่ากัน แต่ที่กล้ายืนยันคือความดีความชอบในการบำรุงผิวนี่แหละค่ะ ไม่ว่าจะใส่เขามากี่ตัวในครีมหรือโลชั่น เขาก็ทำหน้าที่เหมือนเป็น Healthy Food ของผิวอยู่ดีค่ะ



อยากมีผิวนุ่มชุ่มชื้นแล้วล่ะก็ต้องดูแลผิวอย่างสม่ำเสมอด้วยผลิตภัณฑ์ดูแล สิว ที่เหมาะกับสภาพผิวด้วยนะคะ อย่างเช่นตอนเช้าก็ควรมีส่วนผสมของสารกันแดดและสารบำรุงเพื่อปกป้องการสูญเสียน้ำและรักษาความชุ่มชื้นระหว่างวัน และสำหรับตอนเย็นควรมีส่วนผสมของสารบำรุงที่ช่วยเต็มเติมความชุ่มชื้นที่เราสูญเสียน้ำในเซลล์ผิวไประหว่างวันพร้อมกับการแก้ไขปัญหาผิว

คุณค่าการบำรุงผิวด้วยส่วนผสมคุณภาพที่มากที่สุดเท่าที่เคยมีมา ผิวเด้ง หน้าเด็ก เพื่อผิวสวยเปล่งปลั่งเป็นธรรมชาติจนทำให้คุณต้องตกหลุมรักใบหน้าใสๆ ของตนเองอีกครั้ง

 

อ่านเพิ่มเติม ได้ที่ สิว เห่อ

ติดตามอ่านบทความดีๆ ได้ที่ beautymustknow.com

กันแดด กันดะ มีวางจำหน่ายแล้วทั่วประเทศ สอบถามข้อมูลและเลือกซื้อสินค้าเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : https://www.facebook.com/pg/kandabeauty.company/ website : Kandabeauty.com

ดู 4 ครั้ง0 ความคิดเห็น

Comments


bottom of page