top of page
ค้นหา
รูปภาพนักเขียนniracha payyakul

สิวผด อักเสบ ปัญหาสิวจากหน้ากากอนามัย

อัปเดตเมื่อ 7 ธ.ค. 2564

สิวผด อักเสบ ปัญหาสิวจากหน้ากากอนามัย

ใครเป็นบ้างใส่แมสตลอดทั้งวันจนเป็น สิวผด อักเสบ บริเวณแก้มและคาง บอกเลยว่าหนักหน่วงมากตอนนี้ เราจำเป็นต้องป้องกันตัวเราเองจากเชื้อโรค แต่กลับต้องมาเป็นสิว เพราะแพ้แมส หรือเกิดจากการใส่นานจนอับ ทายาก็แล้วไม่ยุบสักที เดี่ยวเกิดๆ ตลอด

การล้างหน้าควรทำแค่วันละสองครั้งพอ หลังจากตื่นนอนยามเช้าและก่อนเข้านอนหรือหลังจากการล้างเครื่องสำอาง การล้างหน้าที่ดีไม่ควรล้างเกินจากนี้ เพราะยิ่งล้างหน้ามากเท่าไหร่ผิวเราก็ยิ่งแห้งมากขึ้นเท่านั้น เมื่อผิวแห้งลผที่ตามมาผิวหน้าของเราจะผลิตน้ำมันออกมามาก ซึ่งทำให้ใบหน้ามันและเกิดสิวขึ้นได้ง่าย เราควรมีตัวช่วย รักษาสิว หากปล่อยให้มีการอักเสบแบบรุนแรงนั้น ก็จะยิ่งใช้เวลาในการรักษามากขึ้น รวมทั้งทำให้เกิดรอยแดง รอยดำ และแผลเป็นจากสิวตามมาได้

สาวๆบิ้วตี้คนไหนยังทำแบบนี้อยู่ หยุดเลยน้า ก่อนที่ผิวจะเสียสมดุล ผิวอ่อนแอ และเป็นสาเหตุก่อปัญหาสิวอื่นๆตามมา สาเหตุที่ทำให้เกิดสิวได้ เพราะผิวที่เป็นสิวจะตอบสนองไว เมื่อโดนกระตุ้นบ่อย ๆ ก็จะทำให้สิวลุกลามไปมากขึ้นจนสิวอุดตันไม่ยอมหายสักทีเพราะฉะนั้นใครที่เป็นสิวก็ไม่ควรทำอะไรรุนแรงกับผิวหน้าเด็ดขาด



แมสหรือหน้ากากอนามัย

การใส่แมสหรือหน้ากากอนามัย ด้วยสถานการณ์โควิดตอนนี้เราจึงเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องใส่เพื่อปกป้องตัวเอง แต่การใส่หน้ากากอนามัย ทำให้สิวขึ้น เพราะเราใส่หน้ากากอนามัยเป็นระยะเวลานาน เกิดความอับชื้นสะสมของสิ่งสกปรกบนหน้ากากอนามัย หรือเกิดอาการแพ้หรือระคายเคืองผิวจากหน้ากากอนามัยที่ใส่

-เกิดความอับชื้น ที่เกิดจากเหงื่อ และละอองจากการไอจาม ความชื้นของเหงื่อ และละอองที่กระจายอยู่ในหน้ากาก ทำให้เกิดการสะสมของแบคทีเรียและเชื้อราในปริมาณที่มากกว่าปกติเป็นสาเหตุทำให้ทั้งแบคทีเรียและเชื้อราโตขึ้น ทำให้เกิดการติดเชื้อ แล้วก่อให้เกิดการอักเสบ และกลับมาทำร้ายผิวหน้าของเราได้ -เกิดการเสียดสี หากแมสที่ใส่มีขนาดไม่พอดีกับใบหน้า และมีขนาดที่ใหญ่เกินไป เวลาที่ขยับใบหน้าบ่อยๆ ตัวแมสก็จะมีการเสียดสีถูไถไปกับใบหน้าของเราทำให้ผิวหน้าของเราเกิดการระคายเคืองและอักเสบ - เกิดรอยกดทับบนใบหน้า ในกรณีที่แมสมีขนาดเล็กเกินไป ช่วงบริเวณที่ขอบและสายคล้องก็จะรัดแน่น เมื่อใส่เป็นเวลานานๆ จะทำให้ใบหน้าเกิดริ้วรอยได้ - เกิดผื่นแพ้ จากความอับชื้นของเหงื่อ และการเสียดสีจากแมสที่ใส่ ทำให้ผิวมีผื่นแดงและอาจมีอาการคันเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นอาการของผิวแพ้ง่ายร่วมด้วย - การเกิดสิวและการอุดตัน ที่จริงแล้วการใส่แมสนั้น เป็นตัวกระตุ้นทำให้ผิวเกิดปัญหาสิวขึ้นได้ ทั้งในคนที่ไม่แต่งหน้าและในคนที่แต่งหน้า แต่เครื่องสำอางที่เราใช้แต่งหน้าบวกกับเหงื่อที่อบอยู่ภายใต้แมสนั้น จะยิ่งเป็นตัวกระตุ้นทำให้ผิวเกิดการอุดตันได้ง่ายขึ้นนั่นเองค่ะ


หน้ากากปิดหน้าใส่อย่างไรไม่ให้ทำร้ายผิวหน้า

เกิดปัญหา “สิว” ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ของใครหลายๆ คน ไม่ว่าจะผุดขึ้นมาเม็ดเล็กหรือเม็ดใหญ่ ก็ทำลายความมั่นใจได้เหมือนกัน เหตุผลที่เราใส่หน้ากากอนามัยก็เพราะป้องกันการติดเชื้อโรค ป้องกันฝุ่นละออง หรือฝุ่น PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่ของคนไทย ทำให้เราต้องหันมาใส่ “แมส” กันเกือบตลอดเวลาบวกกับอากาศประเทศไทยเป็นเมืองที่ร้อนอบอ้าว ผิวหน้าจึงมีอาการเหงื่อไหลได้ง่าย ทำให้หลายๆ คน มีปัญหาผิวต่างๆ ตามมา การใส่แมสหรือหน้ากากอนามัย (Face Mask) เป็นเวลานานๆ ทำให้เกิดการสะสมของแบคทีเรีย คราบเหงื่อ น้ำมันบนใบหน้า ซึ่งทั้งหมดนี้จะยิ่งก่อให้เกิดสิวในรูปแบบของสิวหัวขาว สิวหัวแดง สิวแบบตุ่ม อันเป็นปัญหากวนใจของใครหลายๆ คนตอนนี้ โดยผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังจากต่างประเทศมักเรียกสิวที่เกิดจากการใส่แมสแบบนี้ว่า “Maskne” (Mask+Acne)” และการป้องกันการเกิดสิวจากการใส่แมสก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร แค่เราต้องรักษาความสะอาดและใส่ใจการบำรุงผิวหน้าเป็นพิเศษ


สิวที่เกิดจากการใส่แมส มีลักษณะอย่างไรบ้าง

สิวที่เกิดจาากการใส่แมสจะเป็นประเภท สิวอุดตันและผิวผด โดยสิวอุดตันสามารถแบ่งได้ 2 ประเภท

- สิวอุดตันหัวเปิด หรือสิวหัวดำ (Blackheads หรือ open comedone) จะมีลักษณะเป็นจุดสีดำขึ้นบริเวณรอบๆ จมูกและใบหน้า เกิดจากการอุดตันของขน เนื้อเยื่อ และไขมันภายในรูขุมขน ในขณะที่สารเหล่านั้นโผล่พ้นขึ้นมาสัมผัสกับออกซิเจนในอากาศจะทำปฏิกิริยาให้เปลี่ยนเป็นจุดสีดำ

- สิวอุดตันหัวปิด หรือสิวหัวขาว (Whiteheads หรือ close comedone) เป็นตุ่มเล็ก ๆ สีขาวบนผิวหนัง เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่อุดตันอยู่ภายในรูขุมขน แต่รูขุมขนที่อุดตันนั้นจะไม่ได้สัมผัสอากาศ จึงไม่มีการเกิดปฏิกิริยากับออกซิเจน และยังคงมองเห็นเป็นจุดสีขาวที่อุดตันอยู่บนผิวหนัง

- สิวผด สิวประเภทนี้จะมีลักษณะ เป็นตุ่มเล็กๆ สีขาว หรือสีชมพู แต่จะไม่มีหัว และอาจมีอาการคันร่วมด้วย


สรุปวิธีการป้องกันสิวจากการใช้หน้ากากอนามัย

  1. ระยะเวลาในการใส่หน้ากากอนามัยนั้น ถ้าเป็นไปได้แนะนำให้มีช่วงพัก หรือถอดหน้ากากอนามัยออกจากผิวหน้าบ้าง อย่างน้อย 10-15 นาที ทุกๆ 4 ชั่วโมงในพื้นที่ปลอดภัยจากการติดเชื้อ เช่น ห้องส่วนตัว หากอยู่ในห้องคนเดียว ขับรถคนเดียว หรือห่างจากผู้คน อย่างน้อย 2 เมตร ก็สามารถถอดหน้ากากอนามัยให้ผิวหน้าได้ระบายอากาศ แต่หากเป็นที่ชุมชนนั้น อย่างไรก็ตามห้ามถอดหน้ากากอนามัยโดยเด็ดขาด เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัส Covid-19

  2. สำหรับสาวๆ ที่รักการแต่งหน้าเป็นชีวิตจิตใจ ข้อนี้อาจจะทำได้ยากสักหน่อย แต่เพื่อการดูแลผิวหน้าไม่ให้เกิดสิวซ้ำซากในช่วงนี้ แนะนำให้หลีกเลี่ยงการแต่งหน้าจะดีที่สุด งดผลิตภัณฑ์หรือเครื่องสำอางคที่ก่อให้เกิดการอุดตัน หรือ อาจงดแต่งหน้าบริเวณที่ใส่หน้ากากอนามัย อาจจะแต่งแค่คิ้ว หรือตาก็เพียงพอ เป็นการประหยัดเครื่องสำอางค์ไปในตัว เพราะแต่งแก้มปากไปยังไง ก็ยังใส่หน้ากากอนามัยปิดอยู่ดี เมคอัพโดยเฉพาะอย่างยิ่งรองพื้นจะยิ่งเข้าไปอุดตันในรูขุมขนขณะที่สวมหน้ากากอนามัย แต่งหน้าและสวมหน้ากากอนามัยเป็นประจำจึงเสี่ยงที่จะเผชิญแบคทีเรียและสิ่งสกปรกมากกว่าผู้ที่ไม่ได้แต่งหน้า และทำให้เกิดปัญหาสิวอย่างต่อเนื่องและอยากแต่งหน้าเบาๆ เพื่อความมั่นใจ แนะนำให้เลือกรองพื้นที่เป็นสูตรบางเบา ไม่อุดตันรูขุมขน เพื่อช่วยลดโอกาสในเกิดสิวได้ทางหนึ่ง แต่ถ้าจะให้ดีที่สุดแนะนำว่าควรหลีกเลี่ยงการแต่งหน้าภายใต้หน้ากากอนามัย เพราะยิ่งเมืองไทยเป็นเมืองร้อนแบบนี้ ก็มีโอกาสเยอะมากที่เมคอัพของเราจะผสมกับคราบเหงื่อไคลใต้แมส ซึ่งจะยิ่งทำให้เสี่ยงต่อการเกิดสิวมากขี้นนั่นเอง

  3. การล้างหน้าโดยใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวอย่างอ่อนโยน ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง เพื่อชะล้างน้ำมันส่วนเกิน และสิ่งสกปรกบนใบหน้า การใช้ครีมบำรุงผิวบำรุงผิว ที่ไม่ก่อการอุดตัน อาทิเช่น oil free , non comedogenic การล้างหน้าให้สะอาดจริงๆ ยิ่งเป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างมาก และจะดียิ่งขึ้นหากคุณจะเลือกใช้คลีนเซอร์หรือผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่มีส่วนผสมของการยับยั้งการเกิดสิว ก็จะยิ่งช่วยป้องกันการเกิดสิวได้อีกทางหนึ่ง ที่มีประสิทธิภาพในการผลัดเซลล์ผิว ลดการอักเสบของผิวหนัง ซึ่งจะช่วยยับยั้งและป้องกันการเกิดสิวช่วยทำความผิวหน้าได้อย่างล้ำลึกและหมดจด และนำไปสู่การบำรุงผิวหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป

  4. เปลี่ยนหน้ากากอนามัย หรือทำความสะอาดหน้ากากแบบผ้าเป็นประจำทุกวันหากคุณใส่หน้ากากอนามัยซ้ำหรือไม่ทำความสะอาดหน้ากากผ้าของคุณเลย ก็มีโอกาสสูงมากที่หน้ากากนั้นจะเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรียและสิ่งสกปรกจำนวนมาก ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดสิวมากขึ้นด้วย ดังนั้นก่อนจะสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้ง ต้องมั่นใจว่าเป็นหน้ากากอนามัยที่สะอาด และหากคุณใช้หน้ากากผ้า ก็ควรเลือกเนื้อผ้าที่นุ่มนวลและให้สัมผัสสบายผิวอย่างผ้าคอตตอล ที่ทั้งนุ่ม สามารถหายใจผ่านผ้าได้สะดวก และลดการระคายเคืองต่อผิวหน้าอีกด้วย อีกทั้งควรซักล้างหน้ากากผ้าด้วยน้ำยาทำความสะอาดสูตรอ่อนโยนที่ไม่ผสมน้ำหอมหรือน้ำยาปรับผ้านุ่ม เพราะน้ำหอมบนเนื้อผ้าจะทำให้ผิวหน้าเกิดการระคายเคืองได้ด้วยเช่นกัน

  5. บำรุงผิวให้ชุ่มชื้นด้วยมอยซ์เจอไรเซอร์ที่ไม่ทำให้ผิวมันเพิ่มขึ้น ทำให้ผิวหน้าแห้งมากขึ้น อย่าลืมบำรุงผิวด้วยมอยซ์เจอไรเซอร์ทุกครั้ง และหากคุณมีผิวที่มีแนวโน้มเป็นสิวง่ายอยู่แล้ว ก็ควรใช้ครีมบำรุงผิวประเภท oil-free ที่ไม่ทำให้ผิวมันเพิ่มขึ้นซึ่งจะยิ่งกระตุ้นสาเหตุของการเกิดสิว แนะนำให้เลือกใช้มอยซ์เจอไรเซอร์ที่เนื้อไม่หนักจนเกินไปเพื่อป้องกันการอุดตันในรูขุมขน แต่หากคุณมีผิวแห้งก็สามาถใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีเนื้อเข้มข้นได้เช่นกัน

การรักษาสิวที่ดี คือ การรักษาสิวตามสาเหตุของแต่ละคน เพื่อให้ผลการรักษาที่ตรงจุดกับสิว แถมยังปลอดภัยกับผิวในระยะยาว เพราะฉะนั้นหากผิวมีสิวขึ้น แนะนำให้เข้ามาปรึกษากับแพทย์ผิวหนังที่มีความเชี่ยวชาญ เพื่อให้แพทย์ได้วิเคราะห์ว่ามีสิวที่เป็นลักษณะแบบใด เพื่อนำไปสู่วิธีการรักษาหรือการใช้ผลิตภัณฑ์ยาชนิดใดที่ตรงกับอาการสิวและลักษณะผิวของคนไข้มากที่สุด อีกทั้งยังมีความปลอดภัย ผิวกลับมาเรียบเนียนใส ปลอดภัยและผิวก็แข็งแรงขึ้น

ดูแลรักษาผิวหน้าให้ห่างไกลจากปัญหาสิวเมื่อต้องใส่หน้ากากอนามัยออกจากบ้าน การดูแลและบำรุงผิวของแต่ละคนนั้นจำเป็นต้องคำนึงถึงสภาพผิวของคุณด้วย ดังนั้นควรสังเกตสภาพผิวหน้าที่สามารถปรับเปลี่ยนได้อยู่เสมอ รวมถึงหมั่นดูแลสุขภาพกายและใจ ดื่มน้ำสะอาดมากๆ และเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ พร้อมๆ ไปกับการเลือกผลิตภัณฑ์บำรุงผิวให้เหมาะกับสภาพผิวของตัวเอง เพียงเท่านี้คุณๆก็เข้าใกล้สู่การมีผิวที่ดีได้ไม่ยากแล้ว

ปัจจุบันที่มีการระบาดของไวรัส Covid-19 จำเป็นจะต้องสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัส แต่เมื่อต้องใส่เป็นประจำทุกวันนั้น ก็ทำให้เกิดปัญหาผิวตามมา หนึ่งในปัญหาที่พบบ่อยคือสิว ป้องกันปัญหาผิว รักษาสิว จากการสวมหน้ากากอนามัย ซึ่งจะพบบริเวณคางและแก้ม บริเวณที่ใส่หน้ากากอนามัยนั่นเอง


ก่อนจะล้างหน้า ต้องใช้คลีนซิ่งเช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอางให้สะอาดก่อน จากนั้นขั้นตอนล้างหน้า ควรใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่มีความเหมาะสมกับผิว และปิดท้ายด้วยการล้างน้ำเย็น แต่ควรล้างหน้าแค่วันละ 2 ครั้งก็เพียงพอ คนที่มีผิวหน้ามันหรือเป็นสิว ควรจะใช้คลีนซิ่งแบบน้ำหรือจะเป็นแบบ Micellar Water ซึ่งเหมาะกับผิวแพ้ง่ายที่มักเป็นสิวได้ง่ายเช่นกัน มีความเบาบางไม่ระคายเคืองผิว เพราะมีส่วนผสมของน้ำมันน้อยหรือไม่มีเลย ทำให้เวลาเช็ดเครื่องสำอางจะไม่เหนียวหน้า ไม่มีความมันตกค้าง แต่เหมาะกับคนแต่งหน้าบาง ๆ ที่ไม่ต้องเช็ดซ้ำ ๆ หลายรอบ เนื่องจากคนเป็นสิวก็ไม่ควรที่จะแต่งหน้าหนาอยู่แล้วค่ะ แต่เราก็ไม่ควรชะล่าใจเพราะต้องล้างเครื่องสำอางและสิ่งสกปรกบนใบหน้าก่อนนอนทุกครั้งไม่อย่างนั้นสิวบุกแน่นอนจ้า

สำหรับคนที่เป็นสิวการใช้โทนเนอร์เป็นสิ่งที่ไม่จำเป็นเลยแค่เช็ดทำความสะอาดด้วยคลีนซิ่งก่อนล้างหน้าก็เพียงพอแล้วและการ ผิว หย่อนคล้อย อาจเกิดจากการทำร้ายผิวหน้าอย่างรุนแรงและผิดวิธี ดูแลผิวล้างหน้าด้วยการชะล้างด้วยการสัมผัสจากมือเบา ๆ ก็พอ เพราะใบหน้าของเราต้องการความอ่อนโยนเป็นพิเศษ

 

อ่านเพิ่มเติม ได้ที่ สิวผด อักเสบ

ติดตามอ่านบทความดีๆ ได้ที่ beautymustknow.com

กันแดด กันดะ มีวางจำหน่ายแล้วทั่วประเทศ สอบถามข้อมูลและเลือกซื้อสินค้าเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : https://www.facebook.com/pg/kandabeauty.company/ website : Kandabeauty.com

ดู 3 ครั้ง0 ความคิดเห็น

Comments


bottom of page