โควิด เป็นซ้ำได้หรือไม่ ไขข้อข้องใจจากบทความนี้
ปัจจุบันสถานการ์ณเกี่ยวกับโรคระบาดรุนแรงอย่างไวรัสโคโรนา ทำให้ใครหลายคนเป็นกังวลต่อการใช้ชีวิตและสงสัยว่าหากเป็น โควิด เป็นซ้ำได้หรือไม่ จึงต้องคอยติดตามข่าวสารจากสื่อต่างๆอยู่ตลอดเวลาร่วมถึงติดตามยอดผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตและการป้องกันตัวเองจากการติดเชื้อ ซึ่งหากย้อนความไปถึงต้นตอของการกำเนิดไวรัสโคโรนานั้นถูกค้นพบครั้งแรกเมื่อปี 1960 ก่อนการแพร่ระบาดครั้งใหญ่ในปัจจุบัน ซึ่งในช่วงเวลานั้นยังไม่ทราบถึงแหล่งที่มาอย่างชัดเจนว่ามากจากที่ใด เพียงแต่ทราบว่าเป็นไวรัสที่สามารถติดต่อได้ทั้งคนและสัตว์ ในปัจจุบันทางการแพทย์ได้ค้นพบว่าไวรัสสายพันธุ์นี้ทั้งหมดแล้วถึง 6 สายพันธุ์ส่วนสายพันธุ์ที่กำลังแพร่ระบาดอยู่ทั่วโลกในขนาดนี้เป็นสายพันธุ์ที่ยังไม่เคยถูกค้นพบมาก่อนคือ สายพันธุ์ที่ 7 จึงถูกเรียกว่าไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่และถูกตั้งชื่อภายหลังว่า โควิด 19 นั่นเอง และคนส่วนใหญ่มักจะป้องกันด้วยการล้างมือด้วย เจลล้างมือ นับว่าวิธีที่ป้องกันง่ายและสามารถทำได้ง่ายซึ่งในปัจจุบันนั้นเจลล้างมือมีราคาที่ไม่แพงและไม่ขาดตลาดจึงทำให้ประชาชนมั่นใจได้ว่ามีเพียงพอต่อการความต้องการของตลาดในปัจจุบันอย่างแน่นอน ต่างจากหน้ากากอนามัยที่ยังคงมีราคาสูงอยู่แต่ลดลงจากเมื่อก่อนเนื่องจากมีหน้ากากผ้ามาทดแทน
ความอันตรายของเชื้อไวรัส โควิด 19
แม้อาการเบื้องต้นทั่วไปจะมีลักษณะคล้ายคลึงกับไข้หวัดธรรมดาทั่วไป แต่สิ่งที่ทำให้ไวรัสนี้น่ากลัวคือการที่มันพึ่งถูกค้นพบจึงทำให้ไม่มียาปฎิชีวะตัวไหนที่สามารถรักษาให้หายได้โดยตรงทำได้เพียงแค่รักษาตามอาการเพื่อประคับประคองเท่านั้น นอกจากนี้ความอันตรายที่มีความเสี่ยงถึงชีวิตจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อระบบภูมิคุ้มกันต้านทานโรคของเราไม่แข็งแรงหรือถูกเชื้อไวรัสเข้าไปทำลายกระบวนการทำงานของปอดเป็นสาเหตุให้ไวรัสแพร่กระจายลุกลามมากขึ้น ซึ่งขอจัดกลุ่มเสี่ยงที่มีโอกาสติดเชื้อได้ง่ายดังนี้
เด็กเล็ก
ผู้สูงอายุ พบว่ามีโอกาสมากกว่าเด็กเล็ก
คนที่มีโรคประจำตัว
คนที่ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอหรือผิดปกติ
คนที่มีน้ำหนักเกินมาตรฐาน
ผู้ที่เดินทางไปในประเทศกลุ่มเสี่ยงหรือพื้นที่เสี่ยงการติดเชื้อ เช่น จีน ฮ่องกง อิตาลี อิหร่าน
ผู้ที่ต้องทำงานร่วมกับผู้ป่วยหรือรักษาผู้ป่วยที่ติดเชื้ออย่างใกล้ชิด เช่น หมอ พยาบาล
ผู้ที่มีอาชีพต้องพบปะชาวต่างชาติเป็นจำนวนมาก
การรักษาเมื่อติดเชื้อไวรัสโควิด 19 เบื้องต้น การรักษานั้นแบ่งไปตามระดับของอาการที่พบเจอ
อาการเล็กน้อย คนส่วนใหญ่ที่เป็นโรคโคววิด 19 นั้นจะมีลักษณะของอาการคือ ไอและเป็นไข้รู้สึกปวดเมื่อยร่างกาย เหนื่อยล้าและปวดหัวอาการเหล่านี้นับว่าเป็นอาการทั่วไปของไขหวัดสามารถนอนพักผ่อนพร้อมกับดื่มน้ำเยอะๆ และกินยาแก้ปวดในกลุ่มพาราเซตามอล คนที่มีอาการเพียงเล็กน้อยจะสามารถกลับไปหายดีได้อย่างรวดเร็ว ไข้จะค่อยๆลดลงอย่างต่อเนื่องภายในหนึ่งสัปดาห์แต่อาจจะยังมีอาการไอต่ออีกสักระยะ ซึ่งองค์การอนามัยโลกวิเคราะห์ข้อมูลผู้ติดเชื้อจากประเทศจีนและได้ข้อสรุปร่วมกันว่า โดยเฉลี่ยแล้วต้องใช้เวลาราวๆ 2 สัปดาห์กว่าคนไข้จะมากลับหายเป็นปกติ และกลับมาป้องกันตัวเองเบื้องต้นด้วยการล้างมือบ่อยๆด้วย แอลกอฮอล์
อาการหนัก ซึ่งอาการบางคนจะหนักกว่านั้นโดยมักจะเกิดขึ้นราวๆ 7-14 วันหลังจากติดเชื้อ ความเปลี่ยนแปลงในระยะนี้อาจเกิดขึ้นอย่างฉับพลันอาการของผู้ติดเชื้อจะเริ่มแสดงออกอย่างชัดเจนได้แก่ เริ่มมีอาการหายใจลำบากและปอดเริ่มมีอาการอักเสบเนื่องจากเริ่มถูกไวรัสทำลายปอด อาการเหล่านี้เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันภายในร่างกายของเราเริ่มต่อสู้กับไวรัสจนทำให้ร่างกายเกิดความเสียหาย คนไข้บางคนถึงขั้นต้องเข้าโรงพยาบาลเพื่อเข้ารับการช่วยเหลือเรื่องอกซิเจน แพทย์หญิง ซาราห์ จาร์วิส ได้กล่าวไว้ว่าอาการหายใจไม่สะดวกต้องใช้เวลารักษาพอสมควรเนื่องจากร่างกายของคนเราจะพยายามฟื้นฟูสภาพจากรอยแผลและอาการอักเสบบริเวณปอดจึงต้องใช้เวลาถึง 8 สัปดาห์กว่าจะกลับมาหายดีเหมือนเดิมและคนไข้ที่หายในช่วงระยะแรกจะยังคงไม่อาการเหนื่อยล้าอยู่
กรณีเข้าห้องไอซียู องค์การอนามัยโลกได้ร่วมประชุมกันและประเมินว่า 1 ใน 20 ของผู้ติดเชื้อต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลแผนกผู้ป่วยหนัก บางรายอาจถึงขั้นต้องใช้ยาสลบและเครื่องช่วยหายใจหากพบว่าผู้ป่วยเริ่มมีอาการหนัก ซึ่งคนไขห้องผู้ป่วยหนักไม่ว่าจะป่วยจากอะไรก็ตามต้องใช้เวลานานกว่าจะหายดีได้จะต้องย้ายไปพักในห้องผู้ป่วยธรรมดาหลังจากรักษาอาการก่อนจะกลับบ้านได้ ผู้เชี่ยวชาญได้กล่าวว่าต้องใช้เวลาราวๆ 12-18 เดือนกว่าคนไข้จะกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติเนื่องจากตลอดระยะเวลาที่ผู้ติดเชื้อได้รับการรักษานั้นเชื้อไวรัสโควิด 19 บางส่วนอาจไปทำลายปอดให้เกิดความเสียหาย และการนอนติดเตียงเป็นเวลานานจะส่งผลให้เกิดการสูญกล้ามเนื้อ คนไข้จะอ่อนแอจึงต้องใช้เวลาสร้างกล้ามเนื้อพบว่าในผู้ป่วยบางรายถึงขั้นต้องทำการกายภาพบำบัดเพื่อมากลับมาใช้ชีวิตปกติได้อีกครั้ง
เป็นโควิดแล้ว เป็นซ้ำได้อีกไหม??
แม้สถานการณ์การระบาดภายในประเทศไทยจะดีขึ้นมากแล้ว แต่ในต่างประเทศ อย่างสหรัฐอเมริกา อินเดีย ยังมีการระบาดของโควิด 19 รุนแรงอยู่ และยังไม่มีประเทศใดที่สามารถผลิตวัคซีนป้องกันโรคโควิด19 ได้ เราจึงควรป้องกัน และลดการติดเชื้อให้มากที่สุด โดยการสวมหน้ากากอนามัยก่อนออกนอกบ้านทุกครั้ง แต่ถ้าติดเชื้อ โควิด แล้ว จะกลับมาเป็นได้อีกหรือไม่??
เมื่อติดเชื้อโควิดแล้ว และรักษาจนหาย ร่างกายจะสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมาเพื่อต่อสู้ ต้านทานต่อโรคโควิด 19 ทำให้ผู้ที่เคยป่วยเป็นโควิดมีภูมิคุ้มกันต่อโรคโควิดดีกว่าคนปกติที่ไม่เคยติดเชื้อ แต่ในประเทศญี่ปุ่นพบว่า มีหญิงญี่ปุ่นอายุ 40 ปี ที่ได้ป่วยเป็นโรคโควิด และเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลจนหาย และได้รับอนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว กลับมาติดเชื้อซ้ำอีก ในมณฑลกลางตุ้ง ประเทศจีน ผู้ที่เคยติดเชื้อโควิด 19 แล้ว พบว่า 14% กลับมาติดเชื้อโควิดอีกเมื่อมาตรวจซ้ำ แต่อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีผลงานวิจัยชี้ชัดว่า ผู้ที่เคยป่วยจะกลับมาติดเชื้อได้อีก เพราะการตรวจพบเชื้อครั้งที่สองอาจเป็นไปได้ว่าผู้ที่เคยป่วย ไม่ได้หายป่วยจริงๆ แต่ยังมีเชื้อหลงเหลืออยู่ในร่างกาย และกลับมาเป็นอีก เพราะโดยปกติเมื่อร่างกายเราติดไวรัสใดๆ ก็ตาม ร่างกายจะมีภูมิคุ้มกันไวรัสนั้น เหมือนการเป็นโรคอีสุกอีใส โรคหัด ยกเว้นในบางรายที่ร่างกายมีระบบภูมิคุ้มกันผิดปกติ
เพราะโควิดเป็นโรคใหม่ ที่ต้องใช้เวลาในการวิจัย และศึกษา รวมถึงคิดค้นวิธีการรักษา ประชาชนทั่วไปอย่างเราๆ จึงควรมีหน้าที่ในการป้องกัน และลดการแพร่เชื้อให้มากที่สุด
กันดะ ไธม์มาย แอลกอฮอล์ซานนิไทเซอร์สเปรย์ แอลกอฮอล์สเปรย์ขนาดพกพาพกติดตัวไว้เพื่อใช้ได้กับผิวหนังเช่นมือ และใช้ได้กับทุกพื้นผิวที่ต้องการทำความสะอาด ฆ่าเชื้อโควิด 19 เชื้อโรคไวรัสและแบคทีเรีย เพื่อสุขภาพที่ดี ห่างไกลโควิด 19
โดยเมื่อหายแล้วผู้ป่วยสามารถป้องกันการติดซ้ำได้จากหลายวิธี ซึ่งมาตรการพื้นฐานที่ประชาชนทุกคนต้องร่วมมือกันเพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดและลดการเกิดโรค ซึ่งผู้ป่วยที่หายหลังจากฟื้นตัวเต็มที่สามารถเสริมสร้างภูมิคุ้มกันได้อย่างเช่นการ ออกกำลังหรือการนอนพักผ่อนให้เพียงพอและการกินร้อนช้อนกลางรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เว้นระยะห่างระหว่างบุคคลอย่างน้อย 1-2 เมตร หลีกเลี่ยงการจับมือและไม่ไปในสถานที่แออัดหรืออีกหนึ่งวิธีที่ง่ายดายเพื่อป้องกัน โควิด เบื้องกันคือการใช้เจลแอลกอฮอลล้างมือของ LABSWELL HAND SANITIZER เจลแอลกอฮอล์ล้างมือที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ 72.4%v/v นั้นเอง
ซึ่งสามารถอ่านโครงการต้านภัยโควิด 19 เพิ่มเติมได้ที่ ร่วมใจ ต้านภัยโควิดได้ที่นี่
อ่านเพิ่มเติม ได้ที่ โควิด เป็นซ้ำได้หรือไม่
ติดตามอ่านบทความดีๆ ได้ที่ beautymustknow.com
เจลล้างมือ แอลกอฮอล์ 72% มีวางจำหน่ายแล้วทั่วประเทศ สอบถามข้อมูลและเลือกซื้อสินค้าเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : https://www.facebook.com/pg/kandabeauty.company/ website : Kandabeauty.com
Comments